นายกฯ ประชุม กนย. ติงสื่อตีข่าวผู้ประกอบการงดซื้อยางอีสานเหตุมีกรดซัลฟิวริกมากกระทบราคา เช็กแล้วไม่จริงแค่เป็นห่วง เผยใกล้ได้ตัวมือขู่ฆ่า จนท.รื้อภูทับเบิก ขู่ พ.ร.บ.คอมพ์สอบได้หมด แย้มจ่อออกหมายจับนักการเมืองเสียประโยชน์ สั่งเยียวยาแล้ว รับเห็นใจต้องสอบอีกยาว ไม่ห่วง กรธ.-ศาล รธน.-กกต.เห็นต่างกัน ชี้เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันเดี๋ยวก็ตกลงกันได้ บ่นอย่าเอาตนไปพันกัน ฝากประเทศกับสื่อช่วงไปนอก
วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 2 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 1/2559 ว่า การประชุมวันนี้ได้นำปัญหาเดิมมาดำเนินการต่อ รวมถึงการปรับรูปกระบวนการทำงานให้กระชับขึ้น สิ่งสำคัญ 3 ส่วน คือ เกษตรกร ผู้นำไปแปรรูป และรัฐบาลจะต้องร่วมมือกัน ตนสั่งการไปแล้วว่าให้ กนย.เป็นผู้ประสานเพื่อให้การขับเคลื่อนเร็วขึ้นเพราะเราจำเป็นต้องแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว ส่วนที่มีข่าวว่าบริษัทผู้ประกอบการไม่รับซื้อน้ำยางจากพื้นที่ภาคอีสานหลังพบมีการใส่กรดซัลฟิวริกในน้ำยางเพื่อช่วยให้ยางเซตตัวเร็วขึ้นนั้น ได้สอบถามผู้ประกอบการแล้วเป็นเพียงข้อห่วงใยของผู้ประกอบการซึ่งไม่ได้ต้องการให้ราคายางตก เพียงแต่แสดงความเป็นห่วง สื่อก็ไปตีความกันใหญ่โตทำให้ราคายางมีผลเสีย ทั้งนี้ มีการกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไว้แล้วซึ่งไม่ใช่ความผิดของใคร ที่ผ่านมาก็มีการผลิตและใช้ส่วนผสมทั้งสองอย่าง ผู้ผลิตบางส่วนก็ยังใช้ยางที่มีส่วนผสมของกรดซัลฟิวรัก บางส่วนก็ใช้กรด ฟอร์มิก แทนเพื่อให้น้ำยางหรือยางแผ่นมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประเภท
“ทั้งหมดเป็นความห่วงใยที่ต่างประเทศเตรียมการไว้ว่าจะต้องแก้อย่างไร กรดฟอร์มิกเป็นกรดที่ต้องนำเข้าทั้งสิ้น ผมได้ส่งให้ฝ่ายวิจัยและพัฒนาไปดูว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นการผูกขาดการนำเข้า ต้องคุมทั้งกรดฟอร์มิก และกรดซัลฟิวริก ต้องดูการแก้ปัญหาในเชิงมหภาคด้วยว่ามีการนำเข้ามาเท่าไหร่และใช้ไปเท่าไหร่ เพราะประเทศไทยยางแต่ละประเภทใช้ต่างกัน ขอร้องสื่อว่าอย่าไปทำให้การตลาดเสียหาย ยืนยันว่าวันนี้ยางประเทศไทยยังเป็นยางที่มีคุณภาพสูง ทั้งนี้ ในส่วนของการแปรรูปนั้นขอให้ช่วยกันสนับสนุนประชาชนว่าจะทำอย่างไรเพื่อสร้างการรับรู้ในทุกพื้นที่” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่มีการข่มขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่และผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าไม่หยุดการรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนซึ่งเริ่มจะได้ตัวแล้ว วันนี้การจะใช้โทรศัพท์อะไรต่างๆ เขาตามได้หมด พวกขู่ส่งเดชต้องระวัง พวกปากคันปากคะนองเหล่านี้เขาตรวจสอบหมด วันหน้าใครให้ร้ายคนอื่นผ่านโซเชียลมีเดีย ถ้าเขาฟ้องศาลขึ้นมาก็จะถูกสอบสวนว่าใครคนโทร. ใครขู่ ใครเขียน เพราะมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อยู่แล้ว โดนหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เสียผลประโยชน์เรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า เขากำลังหาอยู่ ตำรวจกำลังจะออกหมายจับ ตนเห็นข่าว เมื่อถามว่าจะมีไม้แข็งจัดการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “ไม้แข็งอะไร ตะบองหรือ มีกฎหมายยังไม่ทำกันเลย วันนี้เขารื้อหมด ต้องถามว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวเขาก็สอบต่อ จะไม่ยอมให้รื้อถอนไม่ได้ เพราะศาลตัดสินแล้วว่าผิดกฎหมาย”
ส่วนจะเยียวยาอย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กำลังหารือว่าจะมีมาตรการ ทำอะไรเพิ่มเติม ตนสั่งการไปแล้ว เขากำลังคุยกัน แต่การทำแบบนี้จะค่อนข้างยากเพราะเริ่มด้วยการทำผิดกฎหมาย ต้องดูว่าผิดอย่างไร ผิดมานานเท่าไหร่ ทำไมปล่อยปละละเลย ต้องสอบต่ออีกเยอะ ตนก็เห็นใจ ทุกอย่างมีปัญหาหมด ทั้งบุกรุกป่า ที่ดินทำกิน เพราะการปล่อยปละละเลย ฉะนั้นต้องสอบแต่ต้นว่าใครอนุญาตให้สร้างรีสอร์ต โฉนดที่ได้มาถูดต้องหรือไม่ ไม่ถูกแล้วสร้างได้อย่างไร ที่มาเป็นที่ของใคร ที่ผ่านมามีการผ่อนผันชะลอมาตลอด เกิดความไม่เป็นธรรมเหลื่อมล้ำ ผู้บังคับใช้กฎหมายละเว้น วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ถ้าตนไม่แก้วันนี้จะแก้เมื่อไร ถ้าต่อรองไปเรื่อยๆ คงไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น จึงต้องหามาตรการรองรับว่าจะทำอย่างไร แต่กฎหมายคือกฎหมาย เคยบอกแล้วว่าตนมีหน้าที่ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาซ้ำเดิมวันหน้า และอาจจะหนักกว่าเดิม เพราะมันดื้อยาหมดแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงความเห็นต่างระหว่าง กรธ. ศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต. กรณีศาลรัฐธรรมตีกลับเอกสารร่างรัฐธรรมนูญที่มีการปรับแก้ไขบทเฉพาะกาลถึงสองครั้งมายัง กรธ.ว่า เรื่องนี้ไม่ห่วง เดี๋ยวก็ต้องหาข้อยุติจนได้ ต่างก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น เอาประเด็นวัตถุประสงค์ที่ต้องการว่าสุดท้ายคืออะไร ประเทศชาติจะได้อะไร เดี๋ยวเขาก็ตกลงกันได้เพราะเป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น
เมื่อถามว่าไม่จำเป็นถึงขั้นที่นายกฯ ต้องเข้าไปสั่งการใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะไปยุ่งอะไรกับเขา “ทำไมผมต้องเข้าไปเคลียร์หรือ ผมไม่ใช่เจ้ามือ ไม่ใช่กรรมการ ชอบเอาไปพันกัน ทุกอย่างเลยกลับมาที่ผมทั้งหมด มันไม่ใช่ เอาให้สุดท้ายก่อนแล้วค่อยมาถึงผม วันนี้ให้เข้าทำกันก่อน”
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่สัปดาห์หน้ามีภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศ 4-5 วัน ว่า “วันนี้ที่เปิดโอกาสให้ซักถามเพราะเดี๋ยวจะไม่อยู่หลายวัน จะได้คิดถึงกัน ผมจะไม่อยู่ 4-5 วันก็อย่าคิดถึง” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรช่วงที่ไม่อยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสั้นๆ ว่า “ฝากประเทศชาติไว้กับพวกคุณ” เมื่อถามว่าช่วงนี้เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีเหนื่อย แข็งแรง และการเดินทางไปต่างประเทศนั้นก็ไม่ใช่เป็นการไปเที่ยว แต่ไปทำงานซึ่งหนักกว่าอยู่ประเทศไทยเสียอีก