“บุญส่ง” เผยกฎหมายลูกเสร็จแล้ว 2 ฉบับ พรรคการเมืองตั้งยากขึ้น เข้มการโกง

กกต.เผยร่างกฎหมายลูกเสร็จแล้ว 2 ฉบับ ชงเข้าที่ประชุม กกต. 29 ส.ค.นี้ แย้ม พ.ร.ป.พรรคการเมืองจัดตั้งยากขึ้นพร้อมมีแนวป้องกันการโกง

นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ทั้ง 4 ฉบับ ล่าสุดเสร็จแล้ว 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยสาระสำคัญของ พ.ร.ป.ดังกล่าวจะทำให้จัดตั้งพรรคการเมืองได้ยากขึ้น และมีแนวทางป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง จากเดิมสามารถจัดตั้งพรรคการเมืองก่อนแล้วค่อยหาสมาชิก ในครั้งนี้ได้กำหนดให้พรรคการเมืองต้องหาสมาชิกให้ครบ5,000 คน จากทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ จึงจะจัดตั้งพรรคการเมืองได้ โดยยอมรับว่าปัจจุบันไทยมีพรรคการเมืองมากถึง 71 พรรค ซึ่งถือว่ามากเกินไป

ส่วนการยุบพรรคการเมืองก็สามารถยุบได้จาก 2 สาเหตุเท่านั้น คือ พรรคการเมืองที่มีเจตนาล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และพรรคการเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย ซึ่งทุกฉบับอยู่ระหว่างพิจารณาเนื้อหาเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติอย่างแท้จริง ทั้งนี้ คาดว่าจะทยอยส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.พิจารณาทั้ง 2 ฉบับภายในเดือน ส.ค.โดยในวันจันทร์ที่ 29 ส.ค.จะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง

นายบุญส่งกล่าวอีกว่า ส่วนฉบับที่ยังร่างไม่เสร็จ ได้แก่ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาให้สอดคล้องและมีความเหมาะสมกับรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดให้คณะ กกต.มีทั้งหมด 7 คน ส่วน ส.ว.ถือเป็นฉบับที่ต้องระมัดระวังเพราะวิธีการได้มาซึ่ง ส.ว.มีความซับซ้อน

สำหรับกรณีการแก้รัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติในส่วนบทเฉพาะกาลนั้น หลักการแก้รัฐธรรมนูญที่จะต้องไม่สามารถแก้ง่ายหรือยากจนเกินไป และระวังเรื่องการตีความ เพราะที่ผ่านมารัฐธรรมนูญถูกตีความได้หลากหลายทำให้มีปัญหา แต่ถ้าบัญญัติไว้ชัดเจนจะทำให้ปัญหาน้อยลง