“เพื่อไทย-เสื้อแดง” รวมหัวยุ “บิ๊กตู่” ตั้งพรรคการเมืองหากต้องการเข้ามาเป็นนายกฯ ใหม่อย่างสง่างาม เชื่อเพิ่ม สนช.อีก 30 คน หวังปูนบำเหน็จข้าราชการเกษียณ
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าจะอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดมาตลอดว่าไม่อยากเล่นการเมือง แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป พฤติกรรมขณะนี้กำลังเล่นการเมืองอยู่ชัดเจน ส่วนตัวเห็นว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ต่อต้องทำให้เห็นว่าไม่ได้มาจากคนนอกถึงจะสง่างาม ถ้ายังถูกมองว่าต่อท่ออำนาจ มาด้วยกลไกพิเศษจะไม่สง่างาม จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์พิสูจน์ตัวเองผ่านสนามเลือกตั้งจะได้รู้กันไปเลยว่าตลอดระยะเวลาที่บริหารประเทศมาและที่จะทำต่อไปจนครบโรดแมปเป็นเวลา 4 ปี ประชาชนเขาคิดอย่างไร เพราะการทำประชามติที่ผ่านมายังไม่ได้ชี้ชัดว่าประชาชนต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ
“ไหนๆ ร่างรัฐธรรมนูญก็ผ่านประชามติมาแล้ว ก็ควรที่จะตั้งพรรคการเมืองไปเลย แล้วลงสนามเล่นตามกติกา ถ้าชนะได้เสียงข้างมากจากประชาชนแบบนั้นทุกฝ่ายจะยอมรับ แต่ถ้าใช้กลไก ส.ว.ลากตั้งกระเตงกันไปก็จะขาดความชอบธรรม”
เช่นเดียวกับนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดในทำนองว่าต่อให้งานหนักกว่านี้ไม่ได้เงินเดือนก็จะอยู่ แต่อยู่ด้วยกลไกประชาธิปไตยให้สง่างาม แต่จะมาอย่างไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ถ้าอยากสง่างามก็ให้ตั้งพรรคการเมืองรวบรวมสมาชิกพรรคขึ้นมาเลย เพราะคิดว่าคงมีคนพร้อมใจสมัครเป็นจำนวนมาก แล้วประกาศรายชื่อผู้ที่จะเป็นนายกฯ ออกนโยบายหาเสียงเลือกตั้งแล้วให้ ส.ส.เสนอชื่อเป็นนายกฯ ในการเลือกครั้งแรก ไม่ต้องรอการเลือกนายกฯ รอบสอง จะเป็นความสง่างามตามรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ตามกระบวนการที่มีอยู่ถ้าให้ ส.ว.250 ที่มาจาก คสช. ดันหลังให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จะสง่างามได้อย่างไร จุดนี้จะเป็นจุดที่โดนโจมตีอย่างหนัก ดังนั้น ถ้าต้องการความสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตั้งพรรคการเมือง ลงสู่สนามเลือกตั้ง ประกาศนโยบายให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสินว่าสนับสนุนให้เป็นนายกฯ หรือไม่ ไม่ใช่ให้ ส.ว.ลากตั้งลากมาตั้งเป็นนายกฯ
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เพิ่มจำนวน สนช.จาก 220 คนเป็น 250 คนว่า การบอกว่าตั้ง สนช.เพื่อเร่งรัดการร่างกฎหมายลูก 10 ฉบับฟังแล้วไม่น่ามีน้ำหนัก เพราะ สนช.ที่มีอยู่ก็ทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาเมื่อมีกฎหมายเข้าสภาฯ สนช.ก็ไม่ได้แก้อะไรมาก และต่อให้ตั้งอนุกรรมาธิการพิจารณากฎหมายลูกพร้อมกัน 10 ฉบับ ฉบับละ 15 คน ก็ยังมีคนพออยู่ ส่วนตัวมองว่าการเพิ่มจำนวนดังกล่าว เพื่อรองรับข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการที่เคยทำงานร่วมกับ คสช.น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะถือเป็นบําเหน็จความชอบคนที่เคยร่วมงานให้มีตำแหน่งแห่งหนต่อไป
นายอำนวยกล่าวว่า การเพิ่มจำนวนดังกล่าวไม่มีความจำเป็น ที่ผ่านมา สนช.ก็ผ่านกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งการเพิ่มจำนวนดังกล่าวนอกจากตัว สนช.30 คนแล้ว ยังมีทีมงานที่ต้องเข้ามาอีกจำนวนมาก ถือเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ