“บิ๊กต๊อก” ชี้ ปชช.เข้าใจคำถามพ่วงแบบ สนช. แนะฟัง “พรเพชร” เพิ่งทราบข่าวย้าย ผบ.คุก

รมว.ยุติธรรมมอง ปชช.เข้าใจคำถามพ่วงแบบเดียวกับ สนช. ท้ายสุด กรธ.-สนช.ต้องคุยกัน ปัดไม่เกี่ยวได้คืบเอาศอก แนะให้ประธาน สนช.ตีความ ย้อนการเมืองวิจารณ์ จี้เคารพเสียง ปชช. เตรียมรายงานความคืบหน้าบูรณาการสถานการหลังพ้นโทษ รับเพิ่งทราบข่าวย้าย ผบ.เรือนจำ

วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เวลา 09.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขอเสนอชื่อนายกฯ ว่า เรื่องที่มีปัญหาอยากให้ถามกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะเป็นผู้ร่าง ส่วนคำถามพ่วง สนช.เป็นผู้เสนอ ควรถาม สนช.ว่าต้องการอะไร สื่อคิดว่าประชาชนไม่เข้าใจคำถามพ่วงหรืออย่างไร ส่วนตนคิดว่าประชาชนเข้าใจคำถามพ่วงแบบที่ สนช.เข้าใจ ไม่เห็นใครจะต้องมาวิพากษ์วิจารณ์เพราะไม่ใช่หน้าที่ เป็นหน้าที่ของ สนช.ควรตอบว่าต้องการอะไรในคำถามพ่วง ในเมื่อประชาชนเข้าใจรัฐธรรมนูญก็ต้องเข้าใจความหมายของคำถามพ่วง ส่วนจะเข้าใจอย่างไรให้ถาม สนช.ซึ่งสุดท้าย สนช.และ กรธ.ต้องคุยกัน

เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่า สนช.ได้คืบจะเอาศอก พบประชาชนบอกอย่างหนึ่ง แต่เสนออีกอย่าง พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ความหมาย สื่อไม่ต้องบอกว่าได้คืบเอาศอกเพราะท่านไม่เข้าใจเหมือนตนเข้าใจ ต้องไปถาม สนช.ว่าสิ่งที่เขียนมาต้องการให้ประชาชนเข้าใจว่าอย่างไรและนำไปสู่การทำอะไร ยังเชื่อว่าประชาชนเข้าใจคำถามพ่วงแบบที่ สนช.เข้าใจ หากไม่เข้าใจประชาชนก็ไม่เลือก ซึ่งหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติก็จะมีคนบอกว่า คสช.ต้องลาออก พอผ่านก็มาระบุว่าต้องตีความ มันไม่ใช่ ไม่ควรต่อปากต่อคำ คนที่มีผลได้ผลเสียอย่างพรรคการเมืองที่ออกมาวิจารณ์ ถามว่าท่านเข้าใจอะไร เวลาจะทำประชามติก็ออกมาวิจารณ์ พอรัฐธรรมนูญผ่านก็นู้นนี่นั่น พอผ่านก็เอาอีก ท่านไปตีความ ท่านไม่ถามประธาน สนช.จะดีกว่าหรือว่าต้องการจะเขียนอะไร อยากให้ถามประธาน สนช.ว่าได้คืบเอาศอกจริงหรือไม่อย่างที่แต่ละคนเข้าใจ เพราะเป็นอย่างนี้คิดอย่างนี้บ้านเมืองถึงวุ่นวาย ศรีธนญชัยบ้าง รังแต่จะเอาประโยชน์ตัวเองทั้งหมด ขอให้เคารพเสียงประชาชนบ้าง

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวถึงรายชื่อของคนที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษว่า เรื่องนี้ไม่ต้องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ตนจะเสนอรายงานความคืบหน้ากรณีที่นายกฯ สั่งการให้ 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงาน ไปบูรณาการงานกรณีดูแลสถานการหลังจากที่ผู้พ้นโทษออกจากเรือนจำมาแล้วเพื่อรายงานให้นายกฯ ทราบว่างานที่ได้สั่งไปนั้นมีความคืบหน้าอย่างไรหลังจากปล่อยผู้พ้นโทษแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นใจและทำงานได้อย่างเป็นหลักเกณฑ์ โดยให้มีการออกเป็นมติ ครม.

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าทางกระทรวงยุติธรรมจะเสนอรายชื่อโยกย้ายระดับผู้บัญชาการเรือนจำ โดยเฉพาะเรือนจำ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ และตนก็เพิ่งทราบจากข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา