xs
xsm
sm
md
lg

กรธ.ยัน ม.44 ไม่กีดกันศาสนาอื่น คาดส่งศาลตีความคำถามพ่วงต้นก.ย. ไม่กระทบบทหลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ. (แฟ้มภาพ)
โฆษก กรธ.แจงมาตรา 44 นายกฯ สั่งคุ้มครองทุกศาสนา ไม่ได้กีดกันจำกัดเสรีภาพนับถือศาสนา ไม่เลือกปฏิบัติ คาดส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความคำถามพ่วงต้น ก.ย. ย้ำหน้าที่กรธ.ดูขอบเขต เชื่อไม่กระทบบทหลักรธน. แนะฟังทุกฝ่ายค้นหาเจตนารมณ์ปชช. ลั่นไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลใคร



วันนี้ (23 ส.ค.) นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้อุปถัมถ์และคุ้มครองทุกศาสนา โดยยืนยันว่าเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้กีดกันศาสนาอื่น หรือจำกัดเสรีภาพในการนับถือศาสนา ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา และทุกศาสนาได้รับการคุ้มครองเท่าเทียมกัน แต่เพราะที่บัญญัติคุ้มครองศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท เป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือ แต่ก็ไม่ได้เป็นการกีดกันศาสนาอื่น การที่รัฐบาลออกคำสั่งตามมาตรา 44 มองว่าเป็นการทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ

ส่วนความชัดเจนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงประชามติ โฆษก กรธ.กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีขอบเขตแค่ไหน ต้องรอหารือในที่ประชุมก่อน โดยจะมีการประชุมในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) นี้ คาดว่าจะสามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ในช่วงต้นเดือนกันยายนซึ่งจะมีหลักการและเหตุผลประกอบด้วย แต่ยืนยันว่า กรธ.จะพิจารณาให้ตรงตามเจตนารมณ์มากที่สุด โดยจะรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายเพื่อจะได้ผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องต่อเวลาอีก 15 วันในการปรับแก้อีก

นายอุดม กล่าวต่อว่าตนเข้าใจดีว่า ทุกฝ่ายที่เสนอความเห็นแม้ต่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ต่างก็คิดถึงบ้านเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นหน้าที่ของ กรธ.ที่ดูว่าคำถามพ่วงฯนั้นควรจะมีขอบเขตมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ถ้าหากดูตามเนื้อหาของคำถามพ่วงฯนั้นเขียนหลักการว่าไม่เกินกว่าวาระแรก 5 ปี กรธ.ก็เข้าใจว่าคงจะไม่เกินกว่านั้น และคงไม่ไปกระทบบทหลักด้วย

เมื่อถามว่าเข้าใจว่าคำถามพ่วงฯนั้นเป็นกระบวนการ 2 ขยัก หรือจะเป็นการโหวตเพื่อหานายกรัฐมนตรีในการประชุมครั้งแรกเลย นายอุดมกล่าว่ายังลงความเห็นไม่ได้ คงต้องรอการตัดสินใจของที่ประชุม กรธ.ก่อนแต่ขอยืนยันว่า กรธ.ไม่ได้คิดเหมือน สนช.อยู่แล้ว เพราะมิฉะนั้นคงไม่มีคำถามพ่วงฯแต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคำถามพ่วงฯผ่านประชามติ กรธ.ก็ต้องมาดูว่าจะแก้ไขอย่างไร ให้มีความสอดคล้อง

เมื่อถามต่อว่าประชาชนที่ลงมติรับคำถามพ่วงฯทราบแค่ว่า ส.ว.มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ทราบว่า ส.ว.จะร่วมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีด้วย นายอุดมกล่าวว่าก็ต้องไปถาม สนช. ด้วย แต่ตนขอเรียนว่าเรื่องการค้นหาเจตนารมณ์ของประชาชนที่มาลงมตินั้น ก็ต้องฟังจากทุกฝ่ายที่ได้นำเสนอความเห็นมา แม้แต่ข้อวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชน

เมื่อถามว่ามีข้อเสนอออกมาว่ามีความเห็น สนช.บางคนกล่าวว่าถ้าภายใน 30 วันยังเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ให้ยกเว้นบทบัญญัติที่จะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง นายอุดมกล่าวว่าตนให้ความเห็นไม่ได้ คงต้องรอความเห็นในที่ประชุม กรธ. การที่ตนให้ความเห้นส่วนตัวออกไปนั้นอาจทำให้สังคมสับสนเปล่าๆ เพราะอาจจะความเห็นไม่ตรงกับที่ประชุม กรธ.

นายอุดมกล่าวว่า กรธ.จะมีการประชุมในวันที่ 24 ส.ค. ก็คงจะพิจารณาความเห็นและข้อเสนอต่างๆ เพื่อให้เวลาส่งร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกแก้ไขไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญจะได้ไม่ส่งกลับมายัง กรธ.อีกครั้ง ทำให้ต้องเสียเวลาเพิ่มอีก 15 วัน ขอยืนยันว่า กรธ.ต้องการให้ประเทศมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการวางกรอบปรับแก้บทบัญญัติให้สอดคล้องกับคำถามประกอบฯ ที่ต้องไม่กระทบกับบทหลักจะมีขอบเขตอย่างไร นายอุดม กล่าวว่า ส่วนตัวเข้าใจว่าในสาระของคำถามประกอบฯ ที่กำหนดให้ใช้ใน 5 ปีแรก ต้องดำเนินการให้ไม่เกินระยะเวลา 5 ปี ส่วนที่อาจจะกระทบกับบทหลักนั้นอาจมีได้แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาดังกล่าวด้วย

ถามต่อถึงข้อเสนอของบางฝ่ายที่เสนอให้ปรับแก้ไขในส่วนบทเฉพาะกาล โดยระบุเงื่อนไขให้งดเว้นการใช้บทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญบางมาตรา เช่น มาตรา 159 ว่าด้วยการเลือกนายกฯ ในสภาฯ โฆษก กรธ. กล่าวว่า “ผมมองว่าต้องพิจารณาในสาระด้วยว่าหากจะกระทบจะมีระยะเวลาแค่ไหน หากกระทบเพียง 5 ปี ถือว่าโอ.เค. แต่ผมยืนยันว่าการเขียนบทบัญญัติใดๆ ของกรธ. จะไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้ใด”


กำลังโหลดความคิดเห็น