กมธ.ปิโตรเลียม จ่อขอมติ สนช.ขยายเวลาถก กม.ปิโตรเลียม 2 ฉบับ ออกไป 60 วัน “พล.อ.สกนธ์” ระบุใกล้ครบกำหนดยังไปไม่ถึงไหน ยอมรับหนักใจต้องคำนึงทั้งสองฝ่าย ระบุร่าง กม.ของกลุ่ม คปพ.ที่จะเสนอ สนช.ต้องผ่าน ครม. เพราะเป็น กม.การเงิน ส่วนบรรษัทพลังงานแห่งชาติ รัฐบาลบอกต้องใช้เวลาศึกษา
พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... สนช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะ กมธ. โดยกำลังรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยังไม่ได้ลงรายละเอียดในรายมาตรา ทั้งนี้ คณะ กมธ.ได้เชิญ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) มาแสดงความคิดเห็น แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะทาง คปพ.ต้องการให้มีการถ่ายทอดสด แต่คณะ กมธ.ไม่สามารถอนุญาตตามคำขอได้ เพราะเป็นการพิจารณาในสภา
“โดยปกติการถ่ายทอดสดในสภาจะต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายสื่อประจำรัฐสภาเท่านั้น และการถ่ายทอดสดออกไปเกรงว่าอาจมีการพูดพาดพิงบุคคลที่สามได้ แต่โดยปกติทางคณะ กมธ.จะบันทึกเทปและแจกจ่ายให้อยู่แล้ว”
พล.อ.สกนธ์กล่าวอีกว่า เท่าที่ติดตามข่าวทราบว่าในวันที่ 4 ส.ค. กลุ่ม คปพ.จะมายื่นร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการปิโตรเลียมให้แก่ สนช.ผ่านทางนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ซึ่งถ้าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับกิจการพลังงานทางคณะ กมธ.เตรียมจะนำเอามาพิจารณา แต่หากเสนอเป็นร่าง พ.ร.บ.เข้ามาอาจจะมีปัญหาว่า สนช.จะพิจารณาได้หรือไม่ เพราะกฎหมายดังกล่าวถือเป็นกฎหมายการเงินที่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีก่อน อย่างไรก็ตาม คิดว่าประธาน สนช.คงพิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
พล.อ.สกนธ์กล่าวว่า ขณะเดียวกัน เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับมีประเด็นที่ต้องพิจารณามากและจะครบกำหนด 60 วัน ในวันที่ 22 ส.ค. แต่จนถึงวันนี้ตนต้องบอกว่าการพิจารณายังไม่ไปถึงไหน ยังไม่ได้เข้าสาระที่สำคัญเลย ดังนั้น ตนจะเสนอให้ สนช.มีมติขยายเวลาการทำงานให้กับคณะ กมธ.ต่อไปเป็น 120 วัน
“ยอมรับว่ามีความหนักใจ แต่ก็จะพยายามทำความเข้าใจเท่าที่ทำได้ โดยจะเป็นกลางที่สุด จากนี้ไปเราจะมีการประชุมทุกวันจันทร์ จนกว่าจะจบภารกิจ โดยจะพยายามทำให้เสร็จภายใน 120 วัน เชื่อว่าสิ่งที่เราแก้ไขจะมีประชาชนบางส่วนยอมรับ แต่คงไม่ทั้ง 100% เพราะที่ผ่านมา 45 ปี ที่ประชาชนพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลที่มาจกการเลือกตั้งเลิกทำการสัมปทานก็ไม่สำเร็จ แต่เพิ่งมาสัมฤทธิผลในรัฐบาลนี้ที่ยอมรับฟังและให้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมาเป็น 2 วิธี ถือว่าเยอะทีเดียว และผมเชื่อว่ารัฐบาลคงมีเหตุผลที่ทำตามคำเรียกร้องของประชาชนได้เท่านี้ แม้มันจะไม่สมบูรณ์แต่อยากให้เอาหลักการนี้ไว้ก่อนดีหรือไม่ แล้วค่อยไปแก้ให้สมบูรณ์ทีหลัง”
ส่วนข้อเสนอของภาคประชาชนที่ต้องการให้ตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาตินั้นคิดว่าคงไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะทางรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานและคณะรัฐมนตรีแจ้งว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องขอเวลาศึกษา คาดว่าต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะต้องพิจารณาในรายละเอียดให้รอบคอบ
