สะเก็ดไฟ
เข้าสู่โค้งสุดท้ายเต็มตัวแล้ว การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธาน กรธ.ช่วงนี้แต่ละฝ่ายมีไม้เด็ดอะไร งัดกันมาใส่หมดหน้าตัก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ควบเกียร์หมา หวังเป็นสุนัขตีนปลายพลิกเกมให้ 7 สิงหาคม เป็นวันพิฆาตร่างรัฐธรรมนูญ จนแดดิ้น
สารพัดแคมเปญอัดมาต่อเนื่อง ช่วงสัปดาห์ก่อนจัดโปรเจกต์ถล่มคำถามพ่วงไปชุดใหญ่ สัปดาห์นี้ต่อไปต้องรอดู เพราะจิ้งจกแถวฮ่องกง สิงคโปร์ กระซิบมา “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ให้ระดับพื้นที่เตรียมรับสัญญาณ เพื่อลงมือปฏิบัติการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ตามคำบัญชา
มีอะไรต้องใส่หมดอยู่แล้ว เพื่อให้กระแสคว่ำฮอตฮิตติดลมบน กว่ากระแสรับ องคาพยพทั้งเพื่อไทยและ นปช. ตองคอยขยับ อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับบอนไซเพื่อไทยผ่านแบบม้วนเดียวจบแน่ เพราะฝ่ายรัฐเองก็รุกหนัก มีสารพัดกลไกอยู่ในมือ อัดโปรแกรมร่างรัฐธรรมนูญดีเลิศประเสริฐศรีอยู่ทุกวัน ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ ขณะเดียวกัน ยังไล่บล็อกช่องทางวิชามารให้ง่อยเปลี้ยเสียขา ต้องรอดูน้ำยา ทีมงานเพื่อไทย จะกระชากคันเร่งแซงขบวนการของ คสช.ได้หรือไม่
อย่างล่าสุด ลือกันแซดเมืองกรุง คนตัวอ้วนฝ่ายบุ๋นนายใหญ่ กำลังเดินสายหาความร่วมมือกับพรรคต่างๆ เพื่อให้กากบาทคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อความอยู่รอดของนักการเมือง แม้กระทั่งคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ว่ากันว่ามีกริ๊งกร๊างถึงอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าค่ายว่าจะเอาอย่างไร หลังรู้ว่าบ่จอยเหมือนกัน
แต่สัญญาณปลายสายขอเล่นมุกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แม้ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ และแสดงจุดยืนไปแล้วหนหนึ่ง แต่ขอกั๊กๆ ตามแบบฉบับ ไม่หือไม่อือ แทงกั๊ก ยักไปโต๊ด ไม่เคยแทงเต็ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหาจะเงียบก็เงียบไป แต่อย่ามาอะไรกับโปรเจกต์คว่ำ ขอให้พักรบกันชั่วคราว ที่เหลือเดี๋ยวจัดเอง
เอาเป็นว่า แม้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ออกไปบู๊เพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญกับพรรคการเมืองอื่นๆ แต่การสงบเสงี่ยมเจียมตัวไม่ต่างอะไรกับการโอเค เซย์เยส เป็นแนวร่วมกลายๆ เพราะการไม่ขวาง ไม่ขัด เป็นการเปิดไฟเขียวโลด เพราะค่ายสีฟ้าเองก็ไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ก็ดูท่าทีของคู่หู “2 ว.” วิลาศ จันทร์พิทักษ์ และ วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เด็กในสังกัด “ลุงญัติ” บัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้มากบารมีในพรรคเก่าแก่ ที่ออกมาแสดงจุดยืน ไม่รับทั้งร่างรัฐธรรมนูญ และไม่รับคำถามพ่วงของ สนช. แม้จะไม่ใช่การแถลงอย่างเป็นทางการของพรรค แต่การออกมาพูดแบบไม่กลัวผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคดุ ก็เห็นไส้พุงแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปทางไหนในวันที่ 7 สิงหาคม
ล่าสุด มาร์ค หน้าหล่อก็แพลมเป็นนัยๆ แล้ว ไปพูดซะเสียงดังว่า “คนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีเยอะ แต่ไม่พูด”
ว่าไปตามเนื้อผ้า พรรคประชาธิปัตย์เองไม่จำเป็นต้องโอเวอร์แอ็กชันเหมือนพรรคเพื่อไทย เพราะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เมื่อเทียบกับของพรรคเพื่อไทย ผ่านก็ได้ ไม่ผ่านก็ดี ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหน ก็เดินเกมได้หมด สไตล์ยืดได้หดได้ เดี๋ยวก็ไปวางกลเกมกันใหม่ หาเรื่องออกมาเล่นได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว
กระนั้นก็ตาม ลึกๆ แล้วตัวอภิสิทธิ์เองใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะมัวไปเล่นเรื่องประชามติเต็มตัวก็ไม่ได้ เพราะต้องพะว้าพะวัง อยู่กับความมั่นคงในเก้าอี้หัวหน้าพรรค ที่โดนเลื่อยขาอยู่เป็นระยะๆ จากทีมงานศิษย์ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.ที่กำลังเดินเครื่องกันเต็มพิกัด พยายามชูหัวใหม่ออกมาป่วนกระแส อย่างเมื่อไม่นานมานี้ ถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. อยู่ดีๆ ก็แพกคู่มากับ สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ออกมาเอ่ยชมร่างรัฐธรรมนูญกันเสียยกใหญ่ หรือบางคราวบางที ก็มีชื่อ “เดอะซุป” ศุภชัย พานิชภักดิ์ ออกมาเป็นพักๆ
เรียกว่า สองตัวละครที่ กปปส.โปรหนักทั้ง สุรินทร์ และศุภชัย โปรไฟล์ดีทั้งคู่ ถ้าคิดจะเปลี่ยนหัวจากอภิสิทธิ์ มาเป็นใครคนใดคนหนึ่ง ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย “เดอะมาร์ค” เลยไว้ใจอะไรไม่ได้ ขืนออกไปสู้ศึกประชามติเคียงบ่าเคียงไหล่กับศัตรู อย่างพรรคเพื่อไทย จนร่างรัฐธรรมนูญคะมำคว่ำหงายได้จริงๆ แต่สุดท้ายถ้าในพรรคเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ การออกไปต่อสู้ ก็เปล่าประโยชน์ เหนื่อยฟรี เพราะตัวเองต้องหล่นเก้าอี้ที่เกาะแน่นมานาน กลายเป็นการไปต่อสู้ให้คนอื่นเถลิงอำนาจเสียแบบนั้น
ตรงนี้อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหนกับภารกิจคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ช่วงท้ายๆ จะชิงกระแส ปลุกฐานเสียงตัวเองเมื่อครั้งเลือกตั้ง ที่หลับไหลไม่ใส่ใจเรื่องนี้ให้ตื่นมาช่วยกันกากบาทอย่างไร แต่รัฐเองก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอย่างไร ไล่บี้ ไล่ปิด ไม่สนใจใครจะว่าอย่างไร ใครขยับจับมารวบหมด แม้กระทั่งสื่อแดงอย่างพีซทีวี ท็อปบูตก็ไม่ปล่อยให้กระดิกตัวช่วงประชามติ ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.คุ้มครองเจ้าหน้าที่ กสทช.-กสท. หลังแกนนำ นปช.แจ้นไปฟ้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว หลัง กสท.มีมติสั่งงดออกอากาศไปจนถึงวันที่ 10 สิงหาคมซึ่งเลยวันประชามติไปแล้ว
ขณะที่จดหมายร่างรัฐธรรมนูญปลอมที่เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม้วันนี้จะว่อนเต็มไปหมด แถมเนื้อหายังบิดเบือนจากความเป็นจริง แต่จะว่าไป มันก็เข้าทางฝ่ายรัฐเหมือนกัน เพราะอย่างน้อย มันก็เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า รัฐไม่ได้เป็นยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค รัฐไม่ได้ยกเลิกการเรียนฟรี ถือเป็นการชี้แจงไปในตัวว่า ใครที่บอกจะเลิก ไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ยังทำให้คนตื่นตัวกับเรื่องประชามติมากขึ้น หลังจากที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เหมือนที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีบอกเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
ต้องรอดูก๊วนไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญจะสร้างวิวัฒนาการต่อสู้ใหม่อย่างไร เพื่อสลัดตัวประกบอย่าง คสช. ที่ตามแจทุกการเคลื่อนไหว อย่างล่าสุดกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เองก็ต้องงัดมุกย้อนศร ใครอยากให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.อยู่นานๆ ก็ไปคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในการทำประชามติ เพื่อต่ออายุให้ ซึ่งใครที่ไม่มีข้อมูลมีสิทธิ์คล้อยตามเอาง่ายๆ เหมือนกัน
แต่ถ้ายังไม่มีอะไรเด็ดกว่านี้ โอกาสที่จะตีตื้นขึ้นมาก็ยากเต็มทน พวกตัวแปร อยู่ที่คนกลางๆ ที่วันนี้ปากกัดตีนถีบ เศรษฐกิจย่ำแย่ อยากจะให้มีเลือกตั้งไวๆ ให้จบๆกันไป เพื่อทุกอย่างจะดีกว่านี้ คนเบื่อเต็มทนกับการวนเวียนอยู่กับการร่างรัฐธรรมนูญกันไปกันมา สองปีแล้วยังไม่เสร็จ อยากจะให้ผ่านๆ ไปสักที
ยิ่งรัฐท่องมนต์เลือกตั้งปีหน้าๆ คนมองไปที่ปี 60 กันหมดแล้ว!
เข้าสู่โค้งสุดท้ายเต็มตัวแล้ว การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธาน กรธ.ช่วงนี้แต่ละฝ่ายมีไม้เด็ดอะไร งัดกันมาใส่หมดหน้าตัก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ควบเกียร์หมา หวังเป็นสุนัขตีนปลายพลิกเกมให้ 7 สิงหาคม เป็นวันพิฆาตร่างรัฐธรรมนูญ จนแดดิ้น
สารพัดแคมเปญอัดมาต่อเนื่อง ช่วงสัปดาห์ก่อนจัดโปรเจกต์ถล่มคำถามพ่วงไปชุดใหญ่ สัปดาห์นี้ต่อไปต้องรอดู เพราะจิ้งจกแถวฮ่องกง สิงคโปร์ กระซิบมา “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ให้ระดับพื้นที่เตรียมรับสัญญาณ เพื่อลงมือปฏิบัติการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ตามคำบัญชา
มีอะไรต้องใส่หมดอยู่แล้ว เพื่อให้กระแสคว่ำฮอตฮิตติดลมบน กว่ากระแสรับ องคาพยพทั้งเพื่อไทยและ นปช. ตองคอยขยับ อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับบอนไซเพื่อไทยผ่านแบบม้วนเดียวจบแน่ เพราะฝ่ายรัฐเองก็รุกหนัก มีสารพัดกลไกอยู่ในมือ อัดโปรแกรมร่างรัฐธรรมนูญดีเลิศประเสริฐศรีอยู่ทุกวัน ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ ขณะเดียวกัน ยังไล่บล็อกช่องทางวิชามารให้ง่อยเปลี้ยเสียขา ต้องรอดูน้ำยา ทีมงานเพื่อไทย จะกระชากคันเร่งแซงขบวนการของ คสช.ได้หรือไม่
อย่างล่าสุด ลือกันแซดเมืองกรุง คนตัวอ้วนฝ่ายบุ๋นนายใหญ่ กำลังเดินสายหาความร่วมมือกับพรรคต่างๆ เพื่อให้กากบาทคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อความอยู่รอดของนักการเมือง แม้กระทั่งคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ว่ากันว่ามีกริ๊งกร๊างถึงอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าค่ายว่าจะเอาอย่างไร หลังรู้ว่าบ่จอยเหมือนกัน
แต่สัญญาณปลายสายขอเล่นมุกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แม้ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ และแสดงจุดยืนไปแล้วหนหนึ่ง แต่ขอกั๊กๆ ตามแบบฉบับ ไม่หือไม่อือ แทงกั๊ก ยักไปโต๊ด ไม่เคยแทงเต็ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหาจะเงียบก็เงียบไป แต่อย่ามาอะไรกับโปรเจกต์คว่ำ ขอให้พักรบกันชั่วคราว ที่เหลือเดี๋ยวจัดเอง
เอาเป็นว่า แม้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ออกไปบู๊เพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญกับพรรคการเมืองอื่นๆ แต่การสงบเสงี่ยมเจียมตัวไม่ต่างอะไรกับการโอเค เซย์เยส เป็นแนวร่วมกลายๆ เพราะการไม่ขวาง ไม่ขัด เป็นการเปิดไฟเขียวโลด เพราะค่ายสีฟ้าเองก็ไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ก็ดูท่าทีของคู่หู “2 ว.” วิลาศ จันทร์พิทักษ์ และ วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เด็กในสังกัด “ลุงญัติ” บัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้มากบารมีในพรรคเก่าแก่ ที่ออกมาแสดงจุดยืน ไม่รับทั้งร่างรัฐธรรมนูญ และไม่รับคำถามพ่วงของ สนช. แม้จะไม่ใช่การแถลงอย่างเป็นทางการของพรรค แต่การออกมาพูดแบบไม่กลัวผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคดุ ก็เห็นไส้พุงแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปทางไหนในวันที่ 7 สิงหาคม
ล่าสุด มาร์ค หน้าหล่อก็แพลมเป็นนัยๆ แล้ว ไปพูดซะเสียงดังว่า “คนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีเยอะ แต่ไม่พูด”
ว่าไปตามเนื้อผ้า พรรคประชาธิปัตย์เองไม่จำเป็นต้องโอเวอร์แอ็กชันเหมือนพรรคเพื่อไทย เพราะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เมื่อเทียบกับของพรรคเพื่อไทย ผ่านก็ได้ ไม่ผ่านก็ดี ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหน ก็เดินเกมได้หมด สไตล์ยืดได้หดได้ เดี๋ยวก็ไปวางกลเกมกันใหม่ หาเรื่องออกมาเล่นได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว
กระนั้นก็ตาม ลึกๆ แล้วตัวอภิสิทธิ์เองใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะมัวไปเล่นเรื่องประชามติเต็มตัวก็ไม่ได้ เพราะต้องพะว้าพะวัง อยู่กับความมั่นคงในเก้าอี้หัวหน้าพรรค ที่โดนเลื่อยขาอยู่เป็นระยะๆ จากทีมงานศิษย์ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.ที่กำลังเดินเครื่องกันเต็มพิกัด พยายามชูหัวใหม่ออกมาป่วนกระแส อย่างเมื่อไม่นานมานี้ ถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. อยู่ดีๆ ก็แพกคู่มากับ สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ออกมาเอ่ยชมร่างรัฐธรรมนูญกันเสียยกใหญ่ หรือบางคราวบางที ก็มีชื่อ “เดอะซุป” ศุภชัย พานิชภักดิ์ ออกมาเป็นพักๆ
เรียกว่า สองตัวละครที่ กปปส.โปรหนักทั้ง สุรินทร์ และศุภชัย โปรไฟล์ดีทั้งคู่ ถ้าคิดจะเปลี่ยนหัวจากอภิสิทธิ์ มาเป็นใครคนใดคนหนึ่ง ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย “เดอะมาร์ค” เลยไว้ใจอะไรไม่ได้ ขืนออกไปสู้ศึกประชามติเคียงบ่าเคียงไหล่กับศัตรู อย่างพรรคเพื่อไทย จนร่างรัฐธรรมนูญคะมำคว่ำหงายได้จริงๆ แต่สุดท้ายถ้าในพรรคเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ การออกไปต่อสู้ ก็เปล่าประโยชน์ เหนื่อยฟรี เพราะตัวเองต้องหล่นเก้าอี้ที่เกาะแน่นมานาน กลายเป็นการไปต่อสู้ให้คนอื่นเถลิงอำนาจเสียแบบนั้น
ตรงนี้อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหนกับภารกิจคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ช่วงท้ายๆ จะชิงกระแส ปลุกฐานเสียงตัวเองเมื่อครั้งเลือกตั้ง ที่หลับไหลไม่ใส่ใจเรื่องนี้ให้ตื่นมาช่วยกันกากบาทอย่างไร แต่รัฐเองก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอย่างไร ไล่บี้ ไล่ปิด ไม่สนใจใครจะว่าอย่างไร ใครขยับจับมารวบหมด แม้กระทั่งสื่อแดงอย่างพีซทีวี ท็อปบูตก็ไม่ปล่อยให้กระดิกตัวช่วงประชามติ ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.คุ้มครองเจ้าหน้าที่ กสทช.-กสท. หลังแกนนำ นปช.แจ้นไปฟ้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว หลัง กสท.มีมติสั่งงดออกอากาศไปจนถึงวันที่ 10 สิงหาคมซึ่งเลยวันประชามติไปแล้ว
ขณะที่จดหมายร่างรัฐธรรมนูญปลอมที่เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม้วันนี้จะว่อนเต็มไปหมด แถมเนื้อหายังบิดเบือนจากความเป็นจริง แต่จะว่าไป มันก็เข้าทางฝ่ายรัฐเหมือนกัน เพราะอย่างน้อย มันก็เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า รัฐไม่ได้เป็นยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค รัฐไม่ได้ยกเลิกการเรียนฟรี ถือเป็นการชี้แจงไปในตัวว่า ใครที่บอกจะเลิก ไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ยังทำให้คนตื่นตัวกับเรื่องประชามติมากขึ้น หลังจากที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เหมือนที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีบอกเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
ต้องรอดูก๊วนไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญจะสร้างวิวัฒนาการต่อสู้ใหม่อย่างไร เพื่อสลัดตัวประกบอย่าง คสช. ที่ตามแจทุกการเคลื่อนไหว อย่างล่าสุดกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เองก็ต้องงัดมุกย้อนศร ใครอยากให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.อยู่นานๆ ก็ไปคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในการทำประชามติ เพื่อต่ออายุให้ ซึ่งใครที่ไม่มีข้อมูลมีสิทธิ์คล้อยตามเอาง่ายๆ เหมือนกัน
แต่ถ้ายังไม่มีอะไรเด็ดกว่านี้ โอกาสที่จะตีตื้นขึ้นมาก็ยากเต็มทน พวกตัวแปร อยู่ที่คนกลางๆ ที่วันนี้ปากกัดตีนถีบ เศรษฐกิจย่ำแย่ อยากจะให้มีเลือกตั้งไวๆ ให้จบๆกันไป เพื่อทุกอย่างจะดีกว่านี้ คนเบื่อเต็มทนกับการวนเวียนอยู่กับการร่างรัฐธรรมนูญกันไปกันมา สองปีแล้วยังไม่เสร็จ อยากจะให้ผ่านๆ ไปสักที
ยิ่งรัฐท่องมนต์เลือกตั้งปีหน้าๆ คนมองไปที่ปี 60 กันหมดแล้ว!