รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แนะ คสช.หามือทำจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ชี้หากทำไม่ได้เจอครหาว่าทำเองแน่ แนะ กกต.จับพิรุธ “เจ๊หน่อย” โพสต์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทำสับสนคิดว่ายกเลิก “30 บาทรักษาทุกโรค”
วันนี้ (17 ก.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการพบจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ทางภาคเหนือ และถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดฉากสร้างสถานการณ์จากผู้มีอำนาจว่า เรื่องนี้ยังมีความไม่ชัดเจน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเร่งหาคนผิดมาลงโทษ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ากลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลังซึ่งไม่น่าจะเกินฝีมือรัฐบาลและ คสช.ที่จะค้นหาความจริงมาตีแผ่ให้สังคมได้รับทราบ
แต่ถ้ารัฐบาลและ คสช.ไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้ ข้อกล่าวหาเรื่องนี้ก็จะถูกตั้งคำถาม มีคำครหานินทาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะไม่เกิดผลดีต่อรัฐบาล คสช. และผู้เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการเปิดโปงรัฐธรรมนูญปลอม โดยโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ภายหลังพบว่าไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญปลอม เป็นเพียงเอกสารความเห็นแย้งของกลุ่มองค์กรที่มีตัวตนชัดเจน ไม่ใช่กลุ่มเถื่อนแต่อย่างไร ขณะที่จดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งผ่านทางไปรษณีย์ถึงผู้รับทางภาคเหนือบางจังหวัด ไม่มีที่มาที่ไปว่าใครเป็นคนทำ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะทำความจริงให้กระจ่าง ก่อนที่คนจะเชื่อตามคำครหาว่ารัฐจัดฉากสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเอง เพื่อทำลายน้ำหนักความน่าเชื่อถือของผู้เห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ
“ช่วงเวลาหลังจากนี้จนถึงวันออกเสียงประชามติอาจจะมีกลวิธีแปลกๆ แทรกเข้ามาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เหมือนกรณีจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้เกิดความเข้าใจผิด จึงต้องพิจารณาเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลอยๆ ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน อาจเป็นการจัดฉากสร้างสถานการณ์จากบุคคล หรือกลุ่มบุคคลเพื่อหวังผลบางอย่างก็ได้” นายองอาจกล่าว
ด้านนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวว่า เรื่องเจ้าหน้าที่พบจดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น คสช. รัฐบาล หรือผู้เกี่ยวข้อง ต้องรีบสาวตัวคนบงการมาให้ได้ว่ามีทำเป็นขบวนการอยู่จริงหรือไม่ ถ้าสร้างความกระจ่างได้ไม่ทันก่อน 7 ส.ค. ความเชื่อมั่นศรัทธาต่อ คสช.จะหายไป และจะมีผลระยะยาวต่อรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะผ่านประชามติหรือไม่อีกด้วย
ทั้งนี้ ขณะนี้ตนกับพรรคพวกที่รู้จักกันได้บอกต่อๆ กันให้ช่วยสอดส่องอีกแรง โดยเน้นจุดที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งในภาคเหนือ เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ เราเคยโดยมาแล้วครั้งตอนหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นต้องรีบหาต้นตอให้ได้ และถ้าส่วนราชการไม่เร่งมือส่งร่างรัฐธรรมนูญจริงให้ถึงมือประชาชน ร่างปลอมคงถึงมือประชาชนทั่วทุกบ้านไปก่อนแล้วก็ได้
ส่วนกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะมาตรฐานสิทธิการรับบริการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคอาจไม่เท่าเทียมนั้น ถ้าพูดแบบนี้แสดงว่าไม่หวังดี เป็นผู้ที่รู้กันกับของปลอมหรือเปล่า เป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ เพราะไม่มีรัฐบาลไหนอยากให้ประชาชนได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลน้อยลงจากเดิม ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ยืนยันแล้วว่าอย่างไรก็ไม่ยกเลิก ดังนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องตรวจสอบคำพูดดังกล่าว ว่าเข้าข่ายความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติหรือไม่ เป็นการไปปั่นป่วน ไปชี้นำว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ จะไม่มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคหรือไม่ หรือเป็นการสื่อไปถึงประชาชนไม่ให้รับรัฐธรรมนูญหรือไม่