xs
xsm
sm
md
lg

“สุวพันธุ์” ชี้กฤษฎีกาตีความตั้งสังฆราช ไม่ขัด พ.ร.บ.สงฆ์ พร้อมรับภาระเรื่องนี้เอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมต.สำนักนายกฯ เผยผลตีความกฤษฎีกา การเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชของ มส.ไม่ขัด พ.ร.บ.สงฆ์ พร้อมรับภาระเรื่องนี้ไว้เอง เตรียมถกเจ้าคณะใหญ่หนกลางในสัปดาห์นี้ หาทางปมเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ย้ำเร่งทำให้เร็ว

วันนี้ (11 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตีความมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ของคณะกรรมการกฤษฎีกา หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นตีความว่าการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราชของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.) ชอบหรือไม่ว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเสนอนามสมเด็จพระสังฆราชนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจาก มส.ก่อน และต้องเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ซึ่งตามกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าการเสนอรายชื่อนั้นจำเป็นต้องริเริ่มจากนายกฯ ดังนั้น การส่งความเห็น มส.มา จึงไม่ขัดต่อมาตรา 7 หนังสือฉบับนั้นจึงยังมีผลอยู่ และกฤษฎีกายังได้ตีความอีกว่านายกฯ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่สามารถนำมาประกอบการใช้ดุลพินิจได้ และแนวทางปฏิบัติก่อนหน้านี้ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2482 ระบุด้วยว่าเมื่อรัฐบาลขอความเห็นจากสำนักงานกฤษฎีกาในเรื่องข้อกฎหมายไปให้ปฏิบัติตามนั้น ดังนั้น ตนจะยึดแนวทางตามนี้ โดยจะกราบเรียนให้นายกฯรับทราบเฉพาะเรื่องความเห็นของกฤษฎีกา และแนวทางปฏิบัติตามมติ ครม.เพื่อให้นายกฯ พิจารณาต่อไป

“วันนี้เราดูเรื่องมาตรา 7 ก่อน ขั้นตอนนี้จบแล้ว ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำมาไม่ได้ขัดแย้งกับมาตรา 7 ส่วนการดำเนินการต่อไปเรายังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม หนังสือแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชยังอยู่กับผม ยังมีผลในทางราชการเหมือนเดิม นายกฯ มีหน้าที่เสนอนามสมเด็จพระสังฆราช และรับสนองพระบรมราชโองการ ดังนั้น ก่อนที่ผมจะเสนอเรื่องไปต้องดูทุกอย่างให้รอบด้าน ครบถ้วน ตอนนี้ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับขั้นตอนการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราช จึงต้องขอเวลาดูเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องก่อนทำความเห็นถึงนายกฯต่อไป ไม่สามารถระบุเวลาได้ เพราะมีหลายปัจจัย ต้องให้สังคมเข้าใจตรงกันก่อน ผมขอแบกเรื่องนี้ รับภาระ เป็นของตัวเองก่อน และไม่รู้สึกกดดันอะไร เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายเข้าใจ” นายสุวพันธุ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามมาตรา 7 นายกฯ สามารถมีความเห็นแย้งกับ มส.ได้หรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า นายกฯ มีหน้าที่กราบบังคมทูล เมื่อไหร่อย่างไรนั้นเป็นเรื่องของนายกฯ ส่วนเรื่องของพระนาม กฎหมายกำหนดว่าต้องมีสมณศักดิ์สูงสุด และ มส.ต้องเห็นชอบพระนามนั้น

นายสุวพันธุ์ยังให้สัมภาษณ์กรณีสัปดาห์นี้จะหารือกับเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อหาทางออกเรื่องพระธัมมชโยว่า ตนได้แจ้งต่อเจ้าคณะใหญ่หนกลางไปแล้วว่าสัปดาห์นี้จะขอเข้าพบเพื่อขอทราบความคืบหน้า เนื่องจากเราได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ใช้ระยะเวลาพอสมควรแล้ว และระหว่างที่เราทำงานก็มีทั้งความคืบหน้าต่างๆ รวมถึงประเด็นที่ยังต้องหารือกันต่อที่เกี่ยวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางซึ่งท่านยังไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ เพราะฉะนั้นในสัปดาห์นี้ก็ถึงเวลาที่ตนจะต้องทราบความคืบหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้นัดหมายไปเรียบร้อย แล้วแต่ท่านสะดวกว่าจะให้ไปพบเมื่อไหร่

เมื่อถามว่าหากเจ้าคณะใหญ่หนกลางถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของกฎหมายไม่ใช่กิจของสงฆ์ ทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ต้องรอให้ทางเจ้าคณะใหญ่หนกลางแจ้งความคืบหน้ากับตนก่อนเพื่อจะได้ทราบว่าเราจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป เพื่อให้ได้ทางออกที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้จะทำทุกอย่างให้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยเวลานานไป อาจจะเกิดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าคณะใหญ่หนกลางก็มีความเข้าใจดีในเรื่องนี้และตนก็เห็นถึงความเมตตาที่ท่านได้ช่วยเราจัดการ





กำลังโหลดความคิดเห็น