รมต.สำนักนายกฯ คาดสัปดาห์คดีธรรมกายคืบหน้า รับถกคณะสงฆ์บ่อย ชี้ปล่อยไว้นานไม่เป็นผลดี ดำเนินการสอดคล้องกับ DSI เมินคุยคนรายล้อม คุยแต่คณะสงฆ์ ยัน มส.ไม่อยู่เฉย ช่วย รบ.แก้ปัญหา มั่นใจมีวิธีจบที่ไม่วุ่นวาย ลั่นไม่มีเกี้ยเซี้ย ตั้งพระสังฆราชรอกฤษฎีกาตีความ ม.7 พ.ร.บ.สงฆ์ ก่อน
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาวัดพระธรรมกายว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว คิดว่าภายในต้นสัปดาห์หน้าน่าจะมีความคืบหน้าระดับหนึ่ง เพราะทราบว่าคณะสงฆ์กำลังพูดคุยกันอยู่ ตนจะไปเร่งรัดและขอทราบความคืบหน้าในสัปดาห์หน้า
“เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะพูดหรือเล่ากันอย่างละเอียดและบ่อยๆ ได้ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าผมและคณะสงฆ์พบและพูดคุยกันบ่อยเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ เพราะหากปล่อยไว้นานจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ที่ติดปัญหาคือเรื่องอะไร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการที่จะให้พระธัมมชโยรายงานตัวและเรื่องที่ยังมีปัญหาสุขภาพอยู่ เมื่อถามว่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่เงื่อนเวลาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะออกหมายจับอีกครั้งหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตอนนี้ตนและทาง รมว.ยุติธรรมคุยกันอยู่ ยืนยันการดำเนินการจะทำให้สอดคล้องกันโดยไม่มีความขัดแย้งรอบใหม่ที่จะมาสร้างความเสียหายให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เมื่อถามว่าคนรายล้อมพยายามทำสงครามด้านจิตวิทยาจะทำอย่างไร นายสุวพันธุ์กล่าวว่า “ผมไม่คุยกับคนรายล้อม ผมคุยกับคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อทำให้รู้ข้อเท็จจริงและจะได้แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง และยืนยันว่าเรื่องนี้ทาง มส.ไม่ได้วางเฉย แต่เราต้องเข้าใจ มส.ด้วยเพราะออกกฎระเบียบไว้หลายเรื่อง วันนี้ มส.แสดงออกมาแล้วว่าพร้อมช่วยรัฐบาลในการแก้ปัญหานี้ และคิดว่าวิธีการที่เราทำอยู่ เป็นวิธีการที่เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด ถ้ามันไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมและมันจำเป็นต้องใช้วิธีการอื่นก็ต้องใช้ ส่วนจะเป็นอะไรบ้างก็ต้องค่อยๆ คิดและหาวิธีที่เหมาะสม และส่วนตัวก็มั่นใจว่ามีวิธีที่จะทำให้เรื่องนี้จบโดยไม่มีเหตุวุ่นวายได้ ขอดูความคืบหน้าล่าสุดก่อน ซึ่งการพูดคุยที่ผ่านไม่มีการยื่นเงื่อนไขใด้ทั้งสิ้น และจากนี้ไป หากจำเป็นต้องเพิ่มระดับการพูดคุยก็ต้องเพิ่ม”
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีการพูดคุยโดยตรงกับพระธัมมชโยบ้างหรือยัง นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับทางคณะสงฆ์เรื่องนี้ แต่ได้รับแจ้งว่ามีคณะสงฆ์บางรูปได้คุยกับพระธัมมชโยโดยตรงแล้ว ยืนยันไม่มีการเกี้ยเซีย้ มาถึงวันนี้ไม่ได้แล้ว กฎหมายค้ำกันอยู่ทุกฝ่าย จะมาละเว้นกันไม่ได้ ส่วนที่เป็นห่วงกรณีที่อัยการจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง กลางเดือนกรกฎาคมนั้น ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ไม่จำเป็นต้องรอ
นายสุวพันธุ์กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชว่า ขณะนี้กำลังรอการตีความมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์อยู่ ซึ่งรัฐบาลต้องทำตาม พ.ร.บ.สงฆ์ เรื่องนี้ต้องดูก่อนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ทั้งนี้ กฤษฎีกาเป็นนักกฎหมายมืออาชีพ และคณะกรรมการชุดที่ดูกฎหมายฉบับนี้มีแต่ผู้ใหญ่ ทั้งเป็นอาจารย์ด้านนิติศาสตร์ นอกจากนี้ ตนทราบมาว่ามีการดูเอกสารที่เกี่ยวข้องในอดีตมาทั้งหมดครบถ้วนทุกมิติ ตนเชื่อว่าจะดำเนินการได้