“ประยุทธ์” เผย “วัฒนา” ดอดพบ “ทักษิณ” ไม่มีผลกระทบ รบ. ให้สังคมดูคนเหล่านี้เอง แจงที่ให้บินไปได้เพราะศาลไม่ใช่ตน ลั่นคุยให้ซูเอี่ยปรองดองทำผิด กม.ไม่เอา แต่ถ้ากระบวนการยุติธรรมคุยได้แต่ยังไม่ใช่เวลา รับคิดจัดเวทีปรองดอง ย้ำต้องสร้างสรรค์ไม่ขัดแย้ง ไม่งั้นเดินหน้าไม่ได้ ย้ำคดีจำนำข้าว ต้องเสร็จภายในปีนี้ ขออย่าฟังการบิดเบือน
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ถึงกรณีที่กล่าวในที่ประชุมว่าจะดำเนินการคดีโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ว่า คดีอะไรที่สำคัญก็ต้องเร่งดำเนินการให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อความชัดเจน โดยคดีรับจำนำข้าวนั้นมีส่วนที่ตนต้องรับผิดชอบเป็นไปตามพระพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ซึ่งตนต้องรับผิดชอบความเสียหายและต้องทำให้เสร็จ ถือเป็นการจบหน้าที่ตน ส่วนเรื่องอื่นอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเปิดให้มีการตอบโต้สู้คดีในกระบวนการยุติธรรมตลอดเวลา ดังนั้นจึงอย่าได้ฟังการบิดเบือน ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา เมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร หากคิดว่าถูกต้องก็ขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่าเรื่องนี้ไม่มีผลอะไรกับตนหรือ คสช. แล้วสื่อยอมรับกับการที่สองคนนี้เจอกันหรือ ตนไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว สังคมดูเอาเองว่าคนเหล่านี้เป็นอย่างไร ในเมื่อเรียกร้องอยากไปต่างประเทศ ตนก็ผ่อนปรนให้ แต่พอให้แล้วกลับมาถามว่ากรณีดังกล่าวจะเกิดผลกระทบอะไรกับตนหรือไม่ ผลกระทบเกิดกับทุกคน ฉะนั้นคนที่ขอต้องรับไว้ด้วย
“ผมให้แล้ว ไม่ให้ก็บ่น ให้ก็บ่น คนให้ต้องมารับผิดชอบอีก ดีเหมือนกัน เดี๋ยว คสช.เขาพิจารณาเอง เผอิญ ที่นายวัฒนาได้ไปเพราะอะไรรู้กันไหม จริงๆ เขาไม่ได้ไปหรอก เขาติดคดีที่ต้องขอศาล และเขาก็ไปขอศาล เพราะก่อนหน้านี้ศาลห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าจะไปต้องขออนุญาตศาล และครั้งนี้ไม่ต้องมาขอผม เพราะปล่อยหมดแล้ว ใครมีคดีให้ไปขอศาล และที่นายวัฒนาโพสต์ขอบคุณผมนั้น ขอบคุณเรื่องอะไร เพราะผมไม่ได้ให้เขา มีคนดีๆ อีกหลายคนที่น่าให้เขาแต่ผมเลือกให้ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม ไปแล้วสร้างปัญหาอะไรอีกก็ต้องกลับมาดูกันใหม่ โดย คสช.และฝ่ายกฎหมายเขาดูอยู่” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่นายกฯระบุบนเวทีวันสิ่งแวดล้อมโลก วานนี้ (29 มิ.ย.) ว่าถูกกดดันจากภายนอกให้ปรองดองกับการทำผิดกฎหมายตรงนี้มีใครกดดันให้ซูเอี๋ย นายกฯ กล่าวว่า สื่อไม่รู้เลยหรือ ก็นักการเมืองหลายคนพูดตามผ่านสื่อต่างๆ จะรวมกลุ่มหารือกัน แล้วเคยพูดหรือไม่ ว่าจะพูดเรื่องกฎหมายกันยังไง เหมือนกับพูดว่าถ้าประเทศชาติจะสงบไม่เกิดความขัดแย้งอีกต่อไป ก็ต้องมาพูดคุยกัน ซึ่งตรงนี้ตนไม่เถียง ยังไงมันก็ต้องคุย แต่ถามว่าถ้าคุยแล้วมีข้อเสนอแทรกมาว่าจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ตนรับไม่ได้ ต้องเอาสิ่งที่จะเดินข้างหน้าว่าจะเดินอย่างไร ส่วนเรื่องมีปัญหาเอาไว้ข้างๆ คดีความก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไปต่อสู้กันเอาเอง ตนไม่เกี่ยวตรงนั้นอยู่แล้ว ถ้าอย่างนี้คุยได้ แล้วไม่ต้องมาคุยเยอะ จะมาบังคับตนว่าเอาคนนั้นคนนี้มาคุย ไม่ใช่เรื่อง ถ้าจะคุยตนจะจัดเอง แต่วันนี้ยังไม่ใช่เวลา ในรับธรรมนูญเขียนไว้อยู่แล้วเรื่องการปรองดองสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็มีคณะกรรมการ จะมาถามตนวันนี้ได้อย่างไร
เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯมีแนวคิดจะจัดเวทีปรองดองขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนคิดมานานแล้ว แต่มันยังไม่ได้เวลา ทำไมจะไม่คิด ต้องคิดเพราะตนให้ตั้ง สปท. มีคณะกรรมการปรองดอง ปฏิรูป ตรงนั้นก็ว่ากันไป และเขาก็ยังคิดไม่จบ แต่ถ้าจะทำต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้ แต่ตนไม่ได้สั่ง สปท. เพราะเป็นหน้าที่ของเขา ตนตั้งคณะกรรมการแต่ละชุดมา แม้จะเป็นหน้าที่ของตน แต่สิ่งใดที่มอบหมายไปแล้ว ต้องไปทำมา ทั้งรัฐธรรมนูญหรืออะไรก็ตาม เขาทำหน้าที่มาอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ไม่ใช่จะไปลงโทษกัน ถ้าไม่ผ่าน เพราะเขาตั้งใจทุกคน
“ถ้าทุกคนคิดว่าจะพูดคุยหารือกันก็ต้องมาหารือในสิ่งที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่มาหารือสร้างความขัดแย้งโครมๆอยู่ทุกวัน นั้นไม่ใช่ พฤติกรรมมันไม่ได้ ฉะนั้นการจะไปคุยกับคนมีพฤติกรรมแบบนี้ผมคงคุยยาก วันนี้ผมต้องทำประโยชน์สร้างสรรค์เพื่อประเทศชาติ ปัญหาเก่าเอาไว้ข้างๆ เขาเรียก พุต อะ ไซด์ (put a side) แล้วแก้ไปเดินหน้าประเทศ อย่าเอาปัญหาความขัดแย้งวันนี้และอดีตตีกัน ผมก็เดินหน้าไปไม่ได้ แล้วมันจะอยู่กันยังไงประเทศ ปฏิรูปก็เกิดไม่ได้อยู่ดี แค่จะเดินประชามติไปเลือกตั้ง มันยังยากขนาดนี้เลย คิดเอาแล้วกัน” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่านายกฯ ตอบคำถามวันนี้ด้วยอารมณ์นิ่ง เพราะดาวยั่วทำงานไม่เป็นผลใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พอดี ตนแก่แล้ว ดาวยั่วไม่อะไรกับตน เพราะเป็นผู้สูงวัย แต่พวกยั่วมากๆ ระวังจะโดน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนให้สัมภาษณ์นายกฯ กล่าวว่า มีอะไรให้สื่อถามมาเลย เนื่องจากประชุมข้าว (คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวแห่งชาติ) นานยังไม่ได้กินข้าว หิวข้าว