โฆษกรัฐบาลเย้ยพวกมีคดีติดตัว ไม่เป็นกลางทางการเมืองจะมาช่วยรักษากฎหมายด้วยการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติเป็นเรื่องแปลกประหลาด ไม่เหมาะสม บอกก่อนจะไปปราบใครควรปฏิบัติตามกฎหมายให้ได้ก่อน ชี้คำสั่ง คสช.ห้ามชุมนุมยังมีผลบังคับใช้ แนะอย่ากังวลเรื่องโกงที่ยังไม่เกิด หากคิดช่วยชาติจริงน่าไปตามเงินหลวงที่ถูกนักการเมืองโกงไปแล้วคืนกลับมา
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ และพยายามกดดันรัฐบาลในทำนองหากไม่ให้เปิดแสดงว่ารัฐบาลตั้งใจจะโกงประชามติว่า การคิดจะตั้งศูนย์หรือกลุ่มกองอะไร เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่ ทำแล้วเหมาะสมหรือไม่ ตั้งขึ้นแล้วจะได้รับความเชื่อถือหรือไม่ เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
“หากผู้กระทำการในศูนย์ฯ ยังเป็นผู้มีคดีความติดตัวที่ยังไม่สะสางให้กระจ่าง การจะมาเสนอตัวว่าจะช่วยรักษากฎหมายก็คงดูแปลกประหลาด และคงไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เพราะคนที่จะมาทำหน้าที่นี้ได้ควรเป็นคนที่ไม่มีประวัติด่างพร้อยและมีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง มิใช่คนที่มีพฤติกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบเลือกข้างมาโดยตลอด รวมทั้งขอฝากไปถึงกลุ่ม นปช. ว่า ก่อนที่จะคิดไปปราบปรามว่าใครกระทำผิดกฎหมาย กลุ่ม นปช.เองก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้ได้ก่อน อาทิ คำสั่ง คสช.ที่ 7/2557 เรื่องห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนก็ยังมีผลบังคับใช้ และห้ามล่วงละเมิด เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมีหน้าที่ต้องเข้าไปติดตามดูแลความสงบเรียบร้อยให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย เพื่อมิให้ใครฉวยโอกาสแอบแฝงทำกิจกรรมที่ละเมิดต่อระเบียบของบ้านเมือง”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า การที่ นปช.กล่าวว่าหากหน่วยงานรัฐไม่ให้ตั้งศูนย์ฯ แสดงว่าหน่วยงานรัฐตั้งใจจะโกงประชามตินั้น ถือเป็นการด่วนสรุปไปเองตามความคิด พฤติกรรม และประสบการณ์ที่คุ้นชินในแวดวงของนักการเมืองบางคนบางกลุ่ม ขณะที่รัฐบาลไม่เคยมีความคิดแบบนั้น
“ความจริงแล้วกลุ่ม นปช.ไม่ควรวิตกกังวลเรื่องการโกงที่ยังไม่เกิดขึ้นมากนัก หากใจคิดอยากจะช่วยประเทศชาติโดยบริสุทธิ์ใจแล้ว ควรใช้สรรพกำลังที่มีอยู่ไปติดตามเงินงบประมาณแผ่นดินที่ถูกนักการเมืองโกงไปแล้วจะดีกว่า ไม่ว่าจะการโกงในคดีจำนำข้าว การโกงในโครงการบ้านเอื้ออาทร การฉ้อโกงในคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย เป็นต้น เหล่านี้เป็นการโกงที่เกิดขึ้นแล้ว และประเทศชาติเสียหายแล้วอย่างชัดเจน”