บก.มติชนสุดสัปดาห์ พร้อมการ์ตูนนิสต์ แจง กกต. อ้างการ์ตูนส่อทำให้เกิดความเข้าใจผิดในร่างรัฐธรรมนูญวาดในยุค “บวรศักดิ์” แต่เผยแพร่ซ้ำเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค “สมชัย” ชี้ยอมรับก็ถือว่าจบ ไม่ดำเนินคดี ฝากสื่อระวัง ตรวจคอมเมนต์ข่าวด้วย โต้ “จอน” ยัน ม.61 เหมาะสม ไม่ได้จำกัดเสรีภาพ ชี้พวกเดือดร้อนมีแค่ทุจริตชน-กักขฬชน และก๊วนปลุกระดม ซัดถ้าไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรยื่นตั้งแต่แรก
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายสุวพงศ์ จั่นฝั่งเพ็ชร บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ และนายอรุณ วัชระสวัสดิ์ คอลัมนิสต์และนักเขียนการ์ตูน หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ได้เข้าชี้แจงต่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กรณีที่ก่อนหน้านี้เว็บไซต์มติชนออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพการ์ตูนที่มีถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อร่างรัฐธรรมนูญ
ภายหลังการหารือนาน 1 ชั่วโมง นายสมชัยแถลงว่า ทางบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ยอมรับว่าภาพการ์ตูนดังกล่าวเป็นภาพที่ลงในหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ 4-10 ก.ย. 2558 เป็นการ์ตูนที่ระบุถึงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ไม่ใช่เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญปัจจุบัน จึงถือว่าไม่ใช่รูปที่ผิดนายอรุณผู้วาดการ์ตูนจึงไม่ต้องมารับผิดชอบในส่วนนี้ แต่ที่เป็นปัญหาคือมีการนำภาพการ์ตูนดังกล่าวมาทำซ้ำด้วยการโพสต์ในเฟซบุ๊กมติชนสุดสัปดาห์ เมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบรรณาธิการมติชนฯ ได้ยอมรับว่าภาพการ์ตูนที่ถูกโพสต์นั้นเนื้อหาเป็นเท็จ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำซ้ำ แต่เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคที่อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดในเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ดังนั้น เมื่อมีการยอมรับดังกล่าวแล้วก็ถือว่าจบ ยุติ จะไม่มีการดำเนินคดีใด เพราะทางมติชนออนไลน์ก็ได้มีการลบดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากฝากสื่อมวลชนให้ช่วยกันดูแล ระมัดระวัง ไม่ใช้ถ้อยคำที่เป็นเท็จ หยาบคาย รวมถึงดูแลกรณีการโพสต์แสดงความคิดเห็นต่อข่าว หรือบทความต่างๆ ว่าควรจะเป็นเหตุเป็นผลไม่ว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
ด้านนายสุวพงศ์กล่าวว่า ทางมติชนสุดสัปดาห์ไม่มีเจตนาที่จะสร้างความสับสน เพียงแต่เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค เมื่อทราบเรื่องก็ได้มีการแก้ไขด้วยการลบภาพการ์ตูนดังกล่าวออกจากเพจทันที
ทั้งนี้ นายสมชัยยังกล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ามาตรา 61 วรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติไม่ขัดรัฐธรรมนูญว่า ไม่ได้ทำให้ กกต.เข้มงวดต่อการบังคับใช้กฎหมายแตกต่างไปจากเดิม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เดินหน้าไปสู่การทำประชามติโดยสุจริตและเที่ยงธรรม อะไรที่เป็นเท็จ หยาบคายอย่าไปทำ เพราะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น อย่าปลุกระดมโดยใช้ประชามติเป็นเครื่องมือที่จะหาทางให้เกิดความวุ่นวายหรือเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม
ส่วนที่นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ILAW) เสนอให้ทบทวนประกาศ กกต.ที่เกี่ยวกับอะไรทำได้ไม่ได้ในการออกเสียงประชามตินั้น กกต.ถือว่าประกาศดังกล่าวเหมาะสมแล้ว ไม่ได้เขียนเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพใครทั้งสิ้น การแสดงความเห็นใครจะรับหรือไม่รับสามารถพูดได้แต่ต้องมีเหตุผล มีคนแค่ 3 กลุ่มเท่านั้นที่จะเดือดร้อนจากประกาศนี้ คือ 1. ทุจริตชน คือคนที่คิดและเอาเรื่องเท็จมาพูด 2. กักขฬชน คือคนที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายก้าวร้าวมาพูด 3. คนที่ชอบปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการทบทวนใดๆ ทั้งสิ้น
“ความจริง ILAW คำว่า LAW ก็คือกฎหมาย เมื่อท่านใช้กระบวนการทางกฎหมายยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญจนมีคำวินิจฉัยแล้ว ท่านก็ควรยอมรับผลของคำวินิจฉัย ถ้าไม่ยอมรับก็ไม่ควรจะยื่นเรื่องตั้งแต่แรก และควรตัดคำว่า LAW ออกจากชื่อ ILAW ของท่านเสียดีกว่า”
โดยในการแถลงข่าวของนายสมชัยครั้งนี้ได้มีการนำตุ๊กตาโมเดล Stormtrooper ตัวละครจากเรื่อง Starwars มาตั้งโชว์ พร้อมข้อความ จะ Yes หรือ No ก็ OK May the Right be with You โดยระบุว่า ตอนนี้เห็นเขานิยมเล่นตุ๊กตากันก็เลยเอาบ้าง
