“สมชัย” เผยมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิลงประชามตินอกเขตแล้วเกือบ 5 หมื่นคน รับยังไม่มากเหตุยังไม่เข้าใจ แนะเร่งดำเนินการใน 3 ช่องทาง ชี้ใช้สิทธินอกเขตสิทธิคงค้างอยู่จนกว่าจะแจ้งเปลี่ยน เตรียมส่งหนังสือเชิญนักเขียนการ์ตูน-บก.มติชน หลังเผยแพร่ข้อมูลเท็จ กระทบการออกเสียงประชามติ แย้มไม่แก้ไขเจอดำเนินการทาง กม. เล็งถกที่ประชุมเปิดเวทีแสดงความเห็นเพิ่มหรือไม่
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงว่า จากการที่ กกต.เปิดให้มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัดตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ปรากฏว่าถึงวันที่ 22 มิ.ย.มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 48,050 คน ถือว่าเป็นจำนวนไม่มากนัก น่าจะเกิดจากความไม่เข้าใจและความไม่รู้ของประชาชนเกี่ยวกับวิธีการลงทะเบียน จึงขอให้ผู้มีสิทธิออกเสียงที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดเร่งลงทะเบียน โดยสามารถยื่นด้วยตนเองที่สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร สำนักทะเบียนท้องถิ่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. - 7 ก.ค. ยื่นคำขอทางไปรษณีย์หรือผ่านทางอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ http://election.dopa.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค - 30 มิ.ย. เพราะเมื่อครบเวลาดังกล่าว กกต.จะไม่สามารถขยายเวลาการลงทะเบียนฯ ได้เนื่องจากจะกระทบต่อการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงได้ อย่างไรก็ตาม การออกเสียงประชามติจะแตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่หากลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดแล้ว สิทธิจะค้างอยู่จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง แต่นับจากนี้ทั้งการลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงประชามติ หรือใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดจะเป็นการลงทะเบียนเป็นคราวๆ ไป รวมทั้งการออกเสียงประชามติไม่มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย
“ยอดขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัด 4 หมื่นกว่าคน ถ้าเทียบกับตัวเลขการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 มีผู้ยื่นลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัด 2 แสนคน ยังถือว่าน้อย และขอยืนยันว่าการยื่นขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดครั้งทำประชามติปี 50 ไม่ใช่ 2 ล้านคนอย่างที่เป็นข่าว จำนวนดังกล่าวเป็นตัวเลขสะสมการขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.นอกเขตจังหวัดตั้งแต่การเลือกตั้งปี 40”
นายสมชัยยังเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสาธารณะพบว่ามีการเผยแพร่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการ์ตูนผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตด้วยข้อความเท็จ โดยส่วนตัวได้ประสานสอบถามไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแล้วและได้รับคำยืนยันมาอย่างไม่เป็นทางการว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ เพราะไม่มีปรากฏในร่างรัฐธรรมนูญที่จะลงประชามติ เนื่องจากเป็นการเผยแพร่ข้อมูลโดยนำการ์ตูนที่เขียนต่างเวลามารวมกันเพื่อให้เกิดความสำคัญผิดจนส่งผลต่อการออกเสียงประชามติ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (23 มิ.ย.) ตนจะส่งหนังสือในนามส่วนตัวเชิญนายอรุณ วัชรสวัสดิ์ ผู้เขียนการ์ตูน และบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์ออนไลน์ มาพบในวันที่ 30 มิ.ย.เพื่อให้ชี้แจงว่ามาจากความเข้าใจผิดหรือมีเจตนาอย่างไร หากเข้าใจผิดก็ต้องแสดงความรับผิดชอบแก้ไขเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ถ้ายังไม่มีการแก้ไขก็ต้องดำเนินการขั้นตอนต่อไป แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้
“ขณะนี้ทุกอย่างยังไม่เป็นทางการจึงต้องขอข้อเท็จจริงก่อน ตอนนี้มีเวลา 7 วันหาข้อเท็จจริงและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันโดยอยากให้มาด้วยตัวเองจะได้สอบถามข้อเท็จจริง หรือจะไม่มาก็ได้ รวมทั้งจะได้รอหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการจาก กรธ. เมื่อเวลานั้นได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้วจึงจะบอกได้ว่าจะทำอย่างไรก็ต่อไป แต่ถ้ามีใครหยิบเรื่องนี้ไปดำเนินการทางกฎหมายก่อนก็สามารถทำได้”
ส่วนกรณีที่ฮิวแมนไรต์วอตช์เรียกร้องให้เปิดพื้นที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญโดยให้มีการขยายการจัดเวทีชี้แจงเพิ่มเติมนั้น ต้องเอาเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ว่าจำเป็นต้องเปิดเวทีเพิ่มหรือไม่ เป็นเรื่องของนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ เพราะเป็นผู้รับผิดชอบ