ผบก.น.4 และ ผกก.สน.โชคชัย มาเอง ปิดศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่ม นปช. ตั้งแต่เช้า ทำเอาแถลงข่าวตั้งศูนย์ทั่วประเทศล่ม “จตุพร” หยัน คสช. ได้แค่สถานที่ แต่การทำงานยังคงอยู่ เปรียบ “บิ๊กตู่” จบลงเหมือน “บิ๊กสุ” เตรียมไปยื่นหนังสือที่ยูเอ็นพรุ่งนี้
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีชทีวี ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 1 กองร้อย จาก สน.โชคชัย เข้ามาภายในพื้นที่ห้องแถลงข่าว ซึ่งจัดเตรียมไว้สำหรับแถลงข่าวเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติพร้อมกันทั่วประเทศ
โดยได้เชิญแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง และสื่อมวลชนออกจากห้องแถลงข่าวทั้งหมด พร้อมทั้งนำป้ายผ้าไวนิลมาติดคำว่า “ประกาศ ที่นี่!! มิใช่ ศูนย์ปราบโกงประชามติ” รวมทั้งกระจายกำลังดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้มวลชนที่สวมเสื้อ “ประชามติต้องไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า” เข้าไปด้านใน พร้อมกันนี้ ยังได้ร้องขอให้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีชทีวี ยุติการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวในเวลา 10.00 น. อีกด้วย ส่งผลทำให้การแถลงข่าวในวันนี้ต้องงดออกไป รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีชทีวี ยังออกอากาศรายการตามปกติของทางสถานี โดยไม่ได้ตัดเข้าการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวใด ๆ
ขณะที่ ผกก.สน.โชคชัย ยังได้ทำหนังสือถึ งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แจ้งให้งดจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ระบุว่า ทาง สน.โชคชัย ได้สืบทราบมาว่า นายจตุพร ได้ร่วมกับบุคคลอื่น ดำเนินการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ขึ้นที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว โดยศูนย์ดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับมิติทางการเมือง ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงขอแจ้งให้งดจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีชทีวี เพื่อขอให้ยุติการถ่ายทอดสด หรือการออกอากาศอันเป็นการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติอีกด้วย
ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ได้กล่าวถึงศูนย์ปราบโกงประชามติหลายครั้ง โดยช่วงแรกพูดว่า สามารถเปิดได้ แต่หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พูดว่า ไม่สามารถเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติได้ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ กลับจากประเทศอินเดีย ก็ได้กลับคำว่า ศูนย์ปราบโกงประชามติไม่สามารถเปิดได้ ถือว่าล้มละลายในความน่าเชื่อถือไปแล้ว เพราะคนที่มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ควรรักษาคำพูดของตัวเอง ไม่ใช่เป็นคนสับปลับ หน้าไหว้หลังหลอก ไม่รักษาเกียรติยศของตัวเอง
ทั้งนี้ การที่กำลังตำรวจ สน.โชคชัย มาที่อิมพีเรียลลาดพร้าว และทั้งประเทศ คสช. จะได้เพียงแค่สถานที่ และป้ายเท่านั้น ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่อยู่ท่ามกลางอารมณ์แปรปรวนของผู้มีอำนาจ แต่ตนขอทำนายไว้เลยว่า จุดจบของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเหมือนกับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2534 แม้จะมีการปิดศูนย์ แต่การดำเนินงานยังคงทำอยู่ รวมทั้งศูนย์ปราบโกงประชามติจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศด้วย แม้จะไม่มีสถานที่ แต่ก็ยืนยันที่จะทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีช่วยเหลือรัฐปราบโกงต่อไป เบอร์โทรศัพท์ การทำงานก็ยังเหมือนเดิม โดยจะรวบรวมข้อมูลส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เช่นที่เคยกล่าวไว้ และในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. แกนนำ นปช. จะไปที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือรายงานสถานการณ์การตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติไป
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า การเปิดศูนย์ปราบโกงประชามตินั้น ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย เพียงแต่ผู้มีอำนาจคิดอยู่ตลอดเวลา ว่า มีประชาชนอีกกลุ่มเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ความเคลื่อนไหวใด ๆ ก็จะถูกตั้งแง่และถูกสกัดกั้น ตนไม่เคยคิดที่จะเผชิญหน้ากับ คสช. หรือรัฐบาล ตลอดเวลาสองปีกว่า อยากจะทำอะไรเราก็ไม่เคยไปสกัดขัดขวาง แต่การลงประชามติเป็นการมีส่วนร่วมของประชาชน และสถานการณ์นี้ทำให้เราเห็นชัดว่า คนกลุ่มหนึ่งล้มการเลือกตั้งได้ แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งแม้แต่จะมีส่วนร่วมกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็ทำไม่ได้ หลังจากนี้ เราก็ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ยืนยันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างทำมาเพื่อให้เกิดพื้นที่เสรีภาพแก่ประชาชน
ส่วนที่มีการหยิบยกโพลมาว่า มีคนจำนวนกว่าร้อยละ 70 ไม่เห็นด้วยกับการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ตนมองว่า โพลดังกล่าวไปถามประชาชนก็เหมือนไม่ได้ถามอะไร เพราะเมื่อผู้มีอำนาจไปถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับเราก็ยากที่จะมีคนแสดงออกว่าเห็นด้วย ส่วนการไปพบยูเอ็น จะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ตนไม่เคยคิดไปดึงเอายูเอ็นเข้ามาแทรกแซง แต่ไปพูดเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งตนเห็นชะตากรรมของศูนย์ปราบโกงประชามติแล้ว ตนไม่เชื่อมั่นอะไรทั้งนั้น เพราะขนาดศูนย์ปราบโกงประชามติ ยังอาการขนาดนี้ คิดดูแล้วกันว่าการลงประชามติ จะให้ตนเชื่อมั่นอย่างไร