แกนนำแดงยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” แจงตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ทำเพื่อความโปร่งใส ปัดโค่นล้ม คสช.โวยถูกทหารคุกคาม ย้อนต้องการอะไรกันแน่ ไม่โกงอย่าเดือดร้อน ดักถ้าปิดยิ่งชัดเจนว่าต้องการโกง สวนไม่สบายใจต้องอดทนบ้าง จี้ กกต.ที่เหลือจัดการ “สมชัย” ให้อยู่กับร่องกับรอย ฉะทำให้คนหวาดกลัวเหมือนงูเหลือมในโถส้วม พร้อมออกทุนให้อัดเพลงตามคำขอ ถ้าบ้าพอทำ ชี้นายกฯ ทำเองให้โลกล้อม รบ.
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และแกนนำ นปช.ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์การจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยกล่าวว่าการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติไม่ใช่เรื่องของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง วันนี้ที่มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้เข้าใจว่าศูนยปราบโกงฯ นี้ตั้งมาเพื่อให้การทำประชามติเป็นไปเพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่โค่นล้ม คสช. ซึ่งพวกตนก็เป็นคนที่ปากกับใจตรงกัน ดังนั้นสิ่งที่น่าห่วงต่อไปนี้คือการตั้งศูนย์ปราบโกงฯ ระดับจังหวัดในวันที่ 19 มิ.ย. ที่ขณะนี้ทหารในพื้นที่ได้เข้าพบแกนนำแต่ละจังหวัด ซึ่งมีลักษณะคุกคามการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงฯ ที่จะถึงนี้ ตนจึงขอชี้แจงกับนายกฯ ว่า เมื่อท่านเองประกาศชัดแล้วว่าไม่ขัดข้องกับการตั้งศูนย์ปราบโกงฯ แม้จะไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงขอความชัดเจนว่าท่านต้องการอะไร เพราะถ้าท่านอนุญาตให้เปิดศูนย์ฯ ท่านต้องสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านให้หยุดคุกคามประชาชนแต่ละจังหวัด ปล่อยให้เขาทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองดี
“ขอเรียนอีกว่าศูนย์ปราบโกงฯ นั้นจะไม่เป็นปัญหาใดๆ กับ คสช. แต่จะเป็นปัญหากับคนที่จะโกงประชามติเท่านั้น ถ้าท่านไม่โกงก็ไม่ต้องเดือดร้อน แต่ถ้าต้องการโกงจริงก็ให้ปิดศูนย์นี้เสีย พวกเราไม่ต้องการหาเรื่องอะไรกับนายกฯ หากมาอย่างมิตรไมตรีเพื่อบอกว่าให้ใจเย็นนิ่งแล้วคิดว่าศูนย์ฯ นี้เป็นภัยต่อท่านอย่างไร แต่การแสดงออกซึ่งอาการขุ่นเคือง โกรธอย่างรุนแรงนั้นก็ทำให้ตนสงสัยว่ ในใจท่านคิดอะไรอยู่ ขณะที่ท่านบอกว่าเกลียดการโกง ถ้าไม่โกงจะไปโมโหเรื่องอะไร เพราะฉะนั้น ผมไม่ได้กลัวว่าพวกท่านจะปิดศูนย์ปราบโกงฯ แต่ยิ่งปิดก็จะเป็นคำตอบชัดเจนว่าท่านต้องการโกงประชามติ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนข้าราชการทุกฝ่ายรวมกระทั่งฝ่ายความมั่นคงได้ไปร่วมศูนย์ปราบโกงฯ แต่ละจังหวัด เพราะเราไม่มีความลับอะไรเลย พวกเราจะต้อนรับ สงสัยประเด็นอะไรก็จะตอบให้ ขออย่าอยู่กันในลักษณะหวาดระแวง ซึ่งเกิดจากการกลัวแพ้จนลนลาน วันนี้ก็หวังว่าจะไม่ทำให้นายกฯ โกรธมากยิ่งขึ้น แต่จะสร้างความเข้าใจยิ่งขึ้น” นายจตุพรกล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.กล่าวว่า ขณะนี้เราได้รับรายงานจากแนวร่วมที่กำลังเตรียมการจะเปิดศูนย์ปราบโกงฯ ในส่วนภูมิภาคว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปแสดงตัว ประกบติด หรือปฏิบัติการทางจิตวิทยาหลายพื้นที่แล้ว ตนสงสัยว่าการตั้งศูนย์ปราบโกงของ นปช.กำลังเผชิญสถานการณ์ที่มีคนตั้งศูนย์เพื่อปราบศูนย์ปราบโกงฯ อีกชั้นหนึ่งหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้การทำประชามติจะเดินหน้าไปได้อย่างไร ตนขอเรียนนายกฯ ว่าที่ท่านแสดงความไม่สบายใจ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการตั้งศูนย์ปราบโกงฯ แต่บอกว่าจะตั้งก็ตั้งไป ก็อยากให้เข้าใจพวกตนว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ท่านประกาศยึดอำนาจตั้งรัฐบาล พวกตนก็ไม่ได้สบายใจและไม่ยอมรับว่ารัฐบาลที่ท่านตั้งเป็นรัฐบาลที่มาถูกต้องตามวิถีทางประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่รู้สึกเช่นนั้นพวกตนก็อยู่กับท่านมา 2 ปี โดยไม่มีความเคลื่อนไหวที่จะไปเผชิญหน้าให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ดังนั้น การเปิดศูนย์ปราบโกงแม้ท่านจะไม่สบายใจก็อยากเห็นการปฏิบัติในลักษณะเดียวกัน ซึ่งการเปิดศูนย์ปราบโกงมีระยะเวลาเพียง 2 เดือน จะจบภารกิจในวันที่ 7 สิงหาคม ก็อยากให้นายกฯ อดทนบ้าง ยืนยันว่าภารกิจของเราเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประชามติ หากมีอะไรล้ำเส้นก็พร้อมรับผิดชอบ ตามพยาน หลักฐาน และข้อเท็จจริง ไม่มีวิชามาร ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ควรได้รับคำสั่งจากส่วนกลางให้ยุติการปฏิบัติทันที
“พวกเราไม่เสียใจที่ถูกมองว่าอากาศธาตุ เพราะต่อให้เป็นอากาศธาตุ เราก็เป็นอากาศธาตุที่เต็มไปกลิ่นอายของเสรีภาพ แต่ถ้าถูกมองเป็นอากาศธาตุแล้วยังถูกไล่กดดันอยู่แบบนี้ ก็มีปัญหาว่าสังคมนี้แม้แต่อากาศก็อยู่ไม่ได้ มันจะอึดอัดกันไปใหญ่ ผมอยากให้พิจารณา” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า กรณีที่ตนเผยแพร่เพลงแหล่ประชามติ แล้วมีท่าทีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเฉพาะนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ที่มีการเขียนเพลงแหล่ตอบโต้ตนมา โดยระบุว่าไม่มีทุนที่จะเข้าห้องอัดเสียง หรือทำมิวสิกวิดีโอแบบของตน และบอกว่าถ้ามีคนให้ทุนจะออกเพลงจริงนั้น ตนขอบอกว่า กกต.ชุดนี้ แบ่งเป็นสองประเภท คือ 1. นายสมชัย เป็นประเภทชายเดี่ยว ส่วนอีก 4 คนเป็นประเภททีมชุด ซึ่งประเภทชายเดี่ยวนั้นมักจะทำอะไรทุกอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. ส่วนประเภททีมชุดนั้นก็มัวแต่ชักช้า มัวแต่ปรึกษาหารือ บทบาทก็เสร็จ กกต.ประเภทชายเดี่ยวหมด ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ กกต.ประเภททีมชุดจัดการให้นายสมชัยอยู่กับร่องกับรอย และปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็น กกต.
“ไม่ใช่วันๆ เที่ยวไปจับผิดเด็กเต้นในมิวสิกวิดีโอ มานั่งแต่งเพลงกลอนแหล่ตอบโต้ผม ถ้ามองเป็นสีสันมันก็ดี แต่มานึกอีกทีคนที่กินเงินเดือน สวัสดิการระดับ กกต.มานั่งทำแบบนี้ ผมก็ไม่สบายใจ ผมไม่ได้พูดถึงท่านหนึ่งท่านใดเป็นพิเศษ แต่ผมเห็นว่าใครก็ตามที่มาเป็นกรรมการทำประชามติ ต้องมีความสง่างามในบทบาทหน้าที่ อย่าทำตัวเป็นงูเหลือมในโถส้วม ที่ทำให้คนหวาดกลัว แล้วหวาดระแวงตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะโผล่มาเมื่อไหร่ เด็กเต้นก็จะจับเด็ก เด็กมัธยมโพสต์เฟซบุ๊ก ก็จะบุกไปหาที่โรงเรียน แบบนี้ไม่ไหว เป็นพฤติกรรมแบบงูเหลือมในโถส้วมจริงๆ”
นายณัฐวุฒิกล่าวต่ออีกว่า ที่นายสมชัยบอกว่าขาดทุนทรัพย์ในการอัดเพลง ตนไม่ใช่คนรวย แต่ขอบอกนายสมชัยว่าถ้าจะเอาจริงจะออกทุนให้เอง จะให้คนที่ทำดนตรีแหล่ให้ตนไปทำให้นายสมชัย จะจองห้องอัดให้ จะถ่ายมิวสิกวิดีโอให้ และถ้าหากนายสมชัยต้องการแดนเซอร์ก็จะติดต่อทีมงานประชาธิปไตยใหม่ ติดต่อ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือน้องเพนกวิน นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และนายอานนท์ นำภา ทนายของจ่านิว ตนจะไปขอร้องพวกเขา ให้มาเป็นแดนเซอร์ให้กับนายสมชัย ถ้านายสมชัยกล้า ตนก็กล้า ถ้านายสมชัยบ้าพอตนก็ยินดีสนับสนุนให้บ้า
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษาประธาน นปช.กล่าวว่า ศูนย์ปราบโกงฯของ นปช.จะมีฝ่ายกฎหมายตรวจสอบเรื่องที่ได้รับรายงานว่ามีความผิดหรือไม่ แม้รัฐบาลและ คสช.จะไม่สนับสนุน แต่ขอร้องว่าไม่ควรขัดขวาง ส่งคนไปข่มขู่ เพราะการขัดขวางหมายความว่ามีปัญหากับประชาชนที่มีเจตนาดี ทั้งนี้เพื่อให้การทำประชามติเป็นไปอย่างราบรื่น จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนที่พบเห็นการทุจริตในการทำประชามติส่งข้อมูลมายังศูนย์ฯ
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหา นปช.ว่าใช้ยุทธการโลกล้อมไทยในการกดดันรัฐบาล แต่จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ทำขึ้นเองทั้งนั้น จึงทำให้หลายประเทศทั่วโลกออกมากดดันไทย และที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าการตั้งศูนย์ปราบโกงฯจะทำให้เกิดความวุ่นวายนั้น การพูดแบบนี้จะทำให้โลกล้อมรัฐบาลและ คสช.มากขึ้น