แค่สร้างกระแส! คสช.ส่อง นปช.ใช้โซเชียล เคลื่อนไหว - วอนเสียสละเพื่อบ้านเมือง

โฆษก คสช. วอนกลุ่ม นปช. เสียสละ งดเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ นึกถึงบรรยากาศบ้านเมือง ระบุ เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในอดีต สังคมมองมีนัยยะแฝง - ชี้นำความรู้สึก ส่วนการใช้โซเชียลมีเดียแทน ไม่ได้ให้น้ำหนักมาก ถ้าไม่ยุยงปลุกปั่น เชื่อต้องการสร้างกระแส ถ้า คสช. ดิ้นก็เข้าทาง ซัดเอาบางคำพูดของนายกฯ ไปบิดเบือน ย้ำถ้าอะไรทำแล้วผิดกฎหมายทำไม่ได้

วันนี้ (19 มิ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ คสช. ไม่ให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง เปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ว่า คนทั่วไปมองว่า นปช. เป็นกลุ่มการเมือง และเคยเป็นส่วนหนึ่งกับความขัดแย้งในอดีต ทั้งนี้ ตามแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อย การจะดำเนินกิจกรรมใดก็ตามในนามกลุ่ม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงไม่เหมาะที่จะทำในช่วงนี้ ซึ่งสังคมเริ่มส่งสัญญาณถึงความกังวลและไม่สบายใจว่า อาจมีนัยยะอื่นแอบแฝง

เพราะการอ้างว่าเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาให้ภาครัฐนั้น ก็สามารถดำเนินการได้ในนามส่วนบุคคล ในฐานะประชาชนคนไทยผู้หวังดี เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไปได้อยู่แล้ว อีกทั้งการสื่อสารระหว่างประชนชนถึงภาครัฐนั้น มีช่องทางมากมาย ทั้งทางตรงถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำพื้นที่ หรือตามช่องทางรับเรื่องร้องเรียนทั่วไป เช่น ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ช่องทางต่าง ๆ ก็มีประสิทธิภาพเพียงพอ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางพิเศษอื่น ๆ เช่น การยื่นหนังสือบอกกล่าวถึงผู้บังคับบัญชา หรือการบอกกล่าวอ้อมผ่านสื่อ ซึ่งก็มีพบเห็นทำกันมาประจำโดยตลอดอยู่แล้ว

“ในช่วงเวลาพิเศษที่บ้านเมืองยังอ่อนไหวต่อเรื่องความขัดแย้ง ผู้คนในสังคมควรเสียสละบ้าง โดยคำนึงถึงบรรยากาศภาพรวมประเทศ ประเด็นใดที่มีผลทำให้คนในสังคมเคลือบแคลงสงสัย หรือไม่เคลียร์ ไม่ว่าจะส่วนน้อยหรือมากก็ตาม ควรพยายามหลีกเลี่ยงบ้างในช่วงนี้ การเป่าประโคมตั้งสมมติฐานในเชิงลบตั้งแต่ช่วงต้น ในขณะที่สภาพสถานการณ์จริงทั่วไปยังไม่มีสัญญาณความผิดปกติอะไร ทำให้สังคมเข้าใจว่าอาจมีบางบุคคลบางกลุ่มที่พยายามสร้างกระบวนการชี้นำความรู้สึกได้” พ.อ.วินธัย กล่าว

ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่แกนนำ นปช. เปลี่ยนวิธีการดำเนินการของศูนย์ปราบโกงประชามติมาเคลื่อนไหวโดยใช้โซเชียลมีเดียแทน ว่า ความเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียมีหน่วยงานทั้งของ คสช. และ กกต. ติดตาม เฝ้าดูและตรวจสอบอยู่ เพื่อดำเนินการตามกรอบกฎหมาย แต่ถ้าไม่ได้มีการยุยง ปลุกปั่นก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่ง คสช. ไม่ได้ให้น้ำหนักมาก เพราะทราบดีว่า นปช. ต้องการสร้างกระแสให้เกิดขึ้นในสังคม หาก คสช. ไปเคลื่อนไหวตามก็จะเป็นเหมือนว่าไปช่วยสนับสนุนให้เกิดกระแส

ทั้งนี้ คสช. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะติดตามและประเมินกระแสสังคมต่อไป แต่คิดว่า ประชาชนทั่วไปจะมีความเข้าใจ ส่วนที่แกนนำ นปช. โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ว่า เป็นคนกลับกลอก เรื่องการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามตินั้น เป็นความพยายามสร้างกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรักษาความสงบให้บ้านเมือง และบอกชัดเจนว่า สิ่งใดที่ทำแล้วผิดกฎหมายไม่สามารถทำได้ แต่ นปช. จับบางคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปบิดเบือนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ขอให้ประชาชนเข้าใจ อย่างไรก็ตาม คสช. ต้องรักษาบรรยากาศความสงบสุขของบ้านเมือง และสนับสนุนงานของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้มีความต่อเนื่อง ส่วนงานด้านการเมืองมีกลุ่มคนพยายามเคลื่อนไหวอยู่มาก แต่ยังไม่มีอะไรที่นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง

“จากการประเมินสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีอะไร การเปิดศูนย์ดังกล่าวในแต่ละจังหวัดและแต่ละอำเภอไม่ได้แล้วมาเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดีย ก็ไม่ได้นอกเหนือความคาดหมาย เพราะเขาต้องทำเพื่อสร้างกระแสให้เกิดความในสังคม” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ระบุว่า จะไม่มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค. นั้น พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า คสช. ยืนยันว่า ยังคงมีอยู่ และยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้เป็นแนวคิดของผู้เห็นต่างที่บิดเบือนไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ คสช. ยังยืนยันว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค. ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม และไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีแต่ผู้เห็นต่างพยายามกระพือกระแส