ประธาน กกต.แนะข้าราชการมหาดไทย-กทม.ยึดความเป็นกลางในการแนะนำออกเสียงประชามติ ไม่ชี้นำ กฎหมายจะคุ้มครอง ย้ำศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย ม.61 ไม่กระทบการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานเปิดสัมมนาและมอบนโยบายการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้แก่นายอำเภอ ปลัดจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ตอนหนึ่งว่า กกต.ตระหนักว่าการออกเสียงประชามติจะบรรลุเป้าหมาย ได้รับการยอมรับอย่างสุจริต ไม่ได้อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายหรือการจัดการออกเสียงประชามติโดย กกต.เท่านั้น แต่ความสำเร็จที่แท้จริงต้องมาจากการร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงผู้มีสิทธิออกเสียง มีจิตสำนึกที่เป็นอิสระ ปราศจากการชี้นำและอิทธิพลใดๆ
การออกเสียงประชามติครั้งนี้ ข้าราชการมีบทบาทต้องสวมหมวกหลายใบ ขณะเดียวกัน กระแสข่าวจากสื่อและสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันอาจทำให้ผู้อำนวยการเขตการเลือกตั้งที่ได้รับการแต่งตั้งจาก กกต.มีความไม่สบายใจ เพราะอาจมีการจ้องจับผิดและกระทบกระทั่งกับประชาชน มีบางส่วนไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์มีความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น ผู้ที่มีมีหน้าที่ชี้แจงกระบวนการการทำประชามติทุกคนจะสบายใจไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งใด หากยึดหลักการวางตัวเป็นกลางในการทำงาน ไม่ชี้นำ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ถ้ายึดหลักนี้กฎหมายก็จะคุ้มครอง
นายศุภชัยยังกล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่ามาตรา 61 วรรคสองของ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ไม่มีความสัมพันธ์ต่อกระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงประชามติแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ทุกวันนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหลายช่องทางยากต่อการควบคุม จึงหวังว่าบุคลากรของกรมการปกครอง และกรุงเทพมหานคร ที่มีอยู่จำนวนมากและใกล้ชิดกับประชาชน จะร่วมด้วยช่วยกันให้ข้อมูล สาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นเพิ่มเติมของ สนช. และกระบวนการขั้นตอนการออกเสียงประชามติที่ถูกต้อง