ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กกต.ภูเก็ต คาดจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ 80% ตามเป้า ขณะนี้การใช้สิทธินอกเขต เบื้องต้นมีผู้ลงทะเบียนขอใช้แล้วกว่า 2,000 คน
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่โรงแรมแกรนด์สุพิชฌาย์ ซิตี้ โฮเต็ล ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายกิติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ โดยดึงคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล หรือ ศส.ปชต. ในเขตอำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ จำนวน 90 คน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ ความเข้าใจต่อประชาชนภูเก็ตในการไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติอย่างมีคุณภาพ ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนหน่วยออกเสียงในภูเก็ตทั้งสิ้น 370 หน่วย แบ่งเป็นอำเภอเมือง 209 หน่วย อำเภอถลาง 98 หน่วย และอำเภอกะทู้ 63 หน่วย มีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติทั้งสิ้น 279,175 คน และจากการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติผ่านเครือข่ายองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีประชาชนภูเก็ตออกมาใช้สิทธิจำนวน 80% ตามที่ทาง กกต.ได้ตั้งเป้าไว้
ส่วนนอกเขตจังหวัดภูเก็ต หลังจากมีการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตในวันที่ 7 ก.ค.เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะทราบว่า มีคนต่างจังหวัดขอใช้สิทธิในภูเก็ต เป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ขณะนี้ตัวเลขมีประมาณ 2,000 กว่าคน ก็จะใช้หน่วยออกเสียงประชามติไม่เกิน 4 หน่วย ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่ต้องการมาใช้สิทธิในจังหวัดภูเก็ต ให้ไปแสดงตนได้ที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นทั้ง 9 แห่ง ที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อขอลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตจังหวัด ซึ่งจะหมดเขตภายในวันที่ 7 ก.ค.นี้
ขณะที่การเตรียมความพร้อมการออกเสียงประชามตินั้น ตอนนี้เราเริ่มนับถอยหลังแล้ว อีก 33 วัน ก็จะมีกระบวนการของการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และกรรมการประจำหน่วยออกเสียงในภูเก็ต และขณะนี้ทางสำนักทะเบียนทั้งหมดเริ่มพิมพ์รายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติแล้ว และภายในวันสองวันนี้ ทาง กกต.จะเรียกประชุมสำนักทะเบียนในเรื่องของรายละเอียด ส่วนเรื่องการดูแลความเรียบร้อยตามหน่วยออกเสียงต่างๆ เรามีการข่าว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะเป็นตำรวจเป็นหลัก และจะมีทางด้านปกครองจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ขณะนี้เราก็มีทีมงานข่าวอยู่แล้ว ก็ดำเนินการไปตามปกติ
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่โรงแรมแกรนด์สุพิชฌาย์ ซิตี้ โฮเต็ล ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายกิติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ โดยดึงคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล หรือ ศส.ปชต. ในเขตอำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ จำนวน 90 คน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ ความเข้าใจต่อประชาชนภูเก็ตในการไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติอย่างมีคุณภาพ ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนหน่วยออกเสียงในภูเก็ตทั้งสิ้น 370 หน่วย แบ่งเป็นอำเภอเมือง 209 หน่วย อำเภอถลาง 98 หน่วย และอำเภอกะทู้ 63 หน่วย มีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติทั้งสิ้น 279,175 คน และจากการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติผ่านเครือข่ายองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีประชาชนภูเก็ตออกมาใช้สิทธิจำนวน 80% ตามที่ทาง กกต.ได้ตั้งเป้าไว้
ส่วนนอกเขตจังหวัดภูเก็ต หลังจากมีการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตในวันที่ 7 ก.ค.เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะทราบว่า มีคนต่างจังหวัดขอใช้สิทธิในภูเก็ต เป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ขณะนี้ตัวเลขมีประมาณ 2,000 กว่าคน ก็จะใช้หน่วยออกเสียงประชามติไม่เกิน 4 หน่วย ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่ต้องการมาใช้สิทธิในจังหวัดภูเก็ต ให้ไปแสดงตนได้ที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นทั้ง 9 แห่ง ที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อขอลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตจังหวัด ซึ่งจะหมดเขตภายในวันที่ 7 ก.ค.นี้
ขณะที่การเตรียมความพร้อมการออกเสียงประชามตินั้น ตอนนี้เราเริ่มนับถอยหลังแล้ว อีก 33 วัน ก็จะมีกระบวนการของการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และกรรมการประจำหน่วยออกเสียงในภูเก็ต และขณะนี้ทางสำนักทะเบียนทั้งหมดเริ่มพิมพ์รายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติแล้ว และภายในวันสองวันนี้ ทาง กกต.จะเรียกประชุมสำนักทะเบียนในเรื่องของรายละเอียด ส่วนเรื่องการดูแลความเรียบร้อยตามหน่วยออกเสียงต่างๆ เรามีการข่าว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะเป็นตำรวจเป็นหลัก และจะมีทางด้านปกครองจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ขณะนี้เราก็มีทีมงานข่าวอยู่แล้ว ก็ดำเนินการไปตามปกติ