xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ปลดล็อก “ตัวป่วน” ไปนอก ลดเงื่อนไขก่อนลงประชามติ !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



“ยังไม่ผ่อน (พรรคการเมือง) ยังไม่ถึงเวลา นักการเมืองเคยเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างหรือยัง พรรคไหนที่ยังไม่เปลี่ยน ส่วนที่มีการประเมินกันว่า ก่อนทำประชามติประมาณ 1 เดือน จะพิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังไม่รู้ ดูสถานการณ์ก่อน ถ้ามันวุ่นวายขึ้นมาแล้วเลือกตั้งไม่ได้ก็โทษอีก คิดสองมุมนี้บ้าง”

“ผมทำทุกอย่างให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพื่อเดินไปตามโรดแมปของผมเท่านั้นเอง แต่ถ้าเขามุ่งหมายจะล้มทุกอย่างที่ผมทำอยู่แล้วทั้งหมด ท่านจะอยู่ตรงไหนกัน”

เมื่อถามว่า มีอะไรเคลื่อนไหวนอกจากที่ปรากฏในสื่อหรือไม่ จึงไม่พิจารณาให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมใด ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า สื่อต้องไปถามเขาทำอะไรบ้าง วิเคราะห์เองได้ไม่ใช่หรือ เอาแค่ที่เขาเขียนในโซเชียลมีเดีย กับการให้ข่าวตามสื่อตรงนี้ วิเคราะห์กันให้ออก ซึ่งผมเองวิเคราะห์ตามข้อมูลฐานข่าวที่มีอยู่ เขายังไม่หยุด และไม่ได้มองเป็นศัตรู หากมองเช่นนั้นคงลงโทษพวกเขาหมดแล้ว คงไม่ให้เคลื่อนไหวขนาดนี้หรอก แต่เขาก็ไม่เห็นในสิ่งที่ทำดี ๆ ให้กับเขา และยังยืนยันในสิ่งที่เขาทำมาตลอดว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงข้อกฎหมาย และวิธีบริหารจัดการที่ถูกต้อง ในฐานะเป็นผู้บริหาร ซึ่งทำให้ถูกก็ยังไม่ยอมแล้วจะยังไงกันต่อไป จะเกิดขึ้นเยอะกว่าเดิมหรือไม่ในรัฐบาลต่อไป เรื่องที่ได้รื้อมานั้นจะหยุดหรือไม่ต้องคิดอย่างนั้น

เมื่อถามว่า นายกฯ จะบอกได้หรือไม่ว่าในการบริหารประเทศนี้จะไม่มีนักการเมืองหนีคดีทุจริตไปต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปรับประกันเขาได้อย่างไร ต้องไปถามคนที่อยู่ในคดี ก็นี่ไง พอไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศก็ดิ้นรนให้เขาออก ถ้าเขาหนีไปก็อย่ามาโทษ จะเอาทุกอย่างในเวลาเดียวกันไม่ได้หรอก

“คุณไม่ให้โอกาสผมทำงาน แต่จะเรียกให้อีกข้าง มันก็เป็นอย่างนี้ ก็แลกเอา ฉะนั้น อย่ามาถามว่าเขาจะหนีไหม ถามผมได้ไง ผมไม่ได้อนุญาตให้เขาหนี ผมอนุญาตให้เขาไปต่างประเทศตามที่เรียกร้อง ไปเยี่ยมญาติไปอะไรต่าง ๆ ผมก็ให้เสรี แต่ถ้าเขาหนีไม่ใช่เรื่องของผม ก็ต้องใช้กลไกทางกฎหมาย อินเตอร์โพลตามจับตัวมา สุดแล้วแต่ต่างประเทศจะร่วมมือหรือเปล่า วันนี้สภาวะแวดล้อมต่าง ๆ เขาก็ไปสร้างความบิดเบือนเรื่องต่าง ๆ ไว้เยอะแยะเต็มไปหมดข้างนอก แล้วสื่อก็ไปคล้อยตามเขียนให้เขา มันก็เป็นอย่างนี้”

นั่นเป็นคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ตอบคำถามสื่อหลังการออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อปลดล็อกยกเลิกคำสั่งห้ามนักการเมืองในลิสต์เดินทางออกนอกประเทศ ยกเว้นพวกที่มีคดีติดตัวในศาลที่ต้องขออนุญาตจากศาลเอาเอง ถือว่าน่าจับตา และมองได้หลายมุม

ในทางการเมืองมองได้ไม่ยากว่า นี่คือ การลดเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอกลงไปได้บ้าง เพราะผลจากคำสั่งของ คสช. ดังกล่าวเป็นการเปิดไฟเขียวให้พวกนักการเมือง โดยเฉพาะในสายของ ทักษิณ ชินวัตร ในพรรคเพื่อไทย เดินทางออกไปได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ยังเป็นการตอบสนองคำร้องขอของตะวันตกในเรื่องสิทธิมนุษยชนได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกัน ภายในประเทศหากมองให้ลึกลงไปอีกมันก็ยังเหมือนกับการไฟเขียวกลาย ๆ ให้บางคนได้ “สบช่องเผ่น” ออกนอกประเทศ เพราะบางคนหากอยู่ข้างนอกน่าจะอยู่เคลื่อนไหวอยู่ข้างใน

แต่ที่น่าจับตา ก็คือ การไฟเขียวให้ออกนอกประเทศครั้งนี้ ยังครอบคลุมไปถึง “บางคน” เช่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย ที่พูดแบบนี้ ก็เพราะว่าจากคำสั่งดังกล่าวทำให้เธอสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล เพราะเธอตกเป็นจำเลยมีคดีอยู่ในศาลแล้ว แต่ในภาพรวม ๆ แล้วดีกรีความเข้มข้นจะผ่อนคลายลงไปกว่าเดิมหลังจากมีคำสั่ง คสช. ดังกล่าวออกมา อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพบวกแบบมาตรฐานทางกระบวนการยุติธรรมที่เข้าสู่ระบบสากลกว่าเดิม ที่สำคัญสามารถลดแรงกดดันลงไปได้มาก

นี่แหละถึงได้บอกว่าเป็นการ “แก้เกม” แบบผ่อนลงทีละเปลาะ ๆ เปิดช่องรูระบายให้ได้หายใจหายคอกันบ้าง เป็นการลดอุณหภูมิลดเงื่อนไขลงมาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากคำพูดข้างต้นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังเปิดช่องเอาไว้ล่วงหน้า ส่งสัญญาณว่าจะมีการผ่อนคลายลงไปอีกในช่วงก่อนถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อมีคำถามว่าจะผ่อนปรนลงมาอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบว่าไม่รูั ไม่บอกล่วงหน้า แต่ก็พอจะเดาออกว่าจะต้องเปิดทางให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ โดยเฉพาะการเปิดประชุมพรรค ซึ่งในคำตอบดังกล่าวก็มีทั้งคำขู่ปนมาด้วย นั่นคือ มีความหมายว่า หากทำตัวดีก็จะผ่อนคลายให้ แต่ถ้ายังป่วนไม่เลิกก็จะมีความหมายไปอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ดี สำหรับการอนุญาตให้ประชุมพรรคการเมืองได้นั้น ฟังจาก วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ก็พูดชัดว่า จะอนุญาตให้ประชุมพรรคหลังทำประชามติผ่านไปแล้ว เพราะถ้าผ่านก็จะอนุญาต เนื่องจากในช่วงนั้นจะมีเวลาก่อนการเลือกตั้งนานถึง 5 เดือนก็มีเวลาเพียงพอ

เอาเป็นว่าท่าทีล่าสุดของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) น่าจะต้องการลดอุณหภูมิทางการเมืองที่ทำท่าร้อนแรงลงมา เป็นการประคองสถานการณ์ก่อนถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อีกด้านหนึ่งมันก็เหมือนกับการเปิดช่องให้ “พวกตัวป่วน” ทั้งหลายได้เผ่นออกไปด้วย ซึ่งในนั้นก็อาจรวมถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย หากสามารถขออนุญาตจากศาลแล้วได้รับไฟเขียว และยังเป็นการลดแรงกดดันจากนานาชาติได้อีกทางหนึ่ง เป็นการลดความตึงเครียดเป็นขั้นเป็นตอนแบบผ่อนสั้นผ่อนยาว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น