“ประวิตร” เผยปลดล็อกนักการเมืองเดินทางไปต่างประเทศเป็นการตัดสินใจของ “ประยุทธ์” ย้ำไม่อนุญาตให้ประชุมพรรคเด็ดขาด หวั่นทำประชาชนสับสน เกิดความขัดแย้ง ส่วนคดี “ธัมมชโย” ให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะที่การฝึกลาดตระเวนร่วมอาเซียน ต้องรอประธานฯ พิจารณา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปลดล็อกนักการเมืองให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศ ว่าเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.พิจารณาและผ่อนปรนให้เอง เพราะเห็นว่านานแล้ว อีกทั้งทุกคนก็รู้ว่า คสช.มีความต้องการอะไร การผ่อนปรนให้นักการเมืองครั้งนี้ไม่มีข้อตกลงใดๆ ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมทั้งให้นักการเมืองที่ไม่มีคดีในศาลสามารถเดินทางออกนอกประเทศไทย ส่วนจะเคลื่อนไหวในต่างประเทศหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องของบุคคลที่เดินทางไปคิดจะทำอะไรให้ประเทศบ้าง ในขณะที่ คสช.ทำทุกอย่างให้ประเทศชาติและประชาชน
“ผมไม่กังวลรายชื่อคนที่เราปลดล็อก เนื่องจาก คสช.มีความไว้วางใจ อย่าไปแบ่งแยกเป็นคนนั้นคนนี้ และไม่มีเงื่อนไขว่าจะไปทำอะไรที่ไหน นักข่าวก็อย่าไปแบ่งฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายนี้ ไม่ต้องถาม จบแล้ว ผ่อนปรนก็คือผ่อนปรน และอย่าไปคิดว่าเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ถ้าคิดแบบนั้นก็จะทำให้มีเรื่องอยู่เรื่อยๆ ขอให้คิดในทางที่ดีบ้าง ดังนั้นไม่ต้องห่วง และขอย้ำว่าแนวทางดังกล่าวไม่ได้มีใครมากดดันเรา เป็นการตัดสินใจโดยหัวหน้า คสช.เอง”
พล.อ.ประวิตรกล่าวยืนยันว่าเราไม่ได้ใจดีที่ปลดล็อกให้นักการเมืองเดินทางออกไปต่างประเทศ เพราะว่า 2 ปีที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศทุกคนเห็นหมดแล้วว่าเราต้องการทำเพื่อใคร อย่างไรก็ตาม ทางพรรคการเมืองหลายๆ พรรคที่เสนอให้มีการประชุมพรรค และเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ ในที่นี้ขอย้ำว่าทำไม่ได้เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศ ถ้าปล่อยให้ทำแบบนั้นจะส่งผลให้ประเทศชาติ และประชาชนเกิดความสับสน อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และความวุ่นวายได้ ซึ่งตนคิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องรอให้มีรัฐธรรมนูญ หรือการเลือกตั้งหรือไม่ถึงจะประชุมพรรคได้ รองนายกฯ ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่รู้ ก็ต้องไปถามคนที่รู้
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงที่การดำเนินการจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่าต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีรายละเอียดอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องมาถามตน ส่วนพระธัมมชโยจะอยู่ในวัดพระธรรมกายหรือไม่นั้น ตนคิดว่าต้องไปดูเอง
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงการที่นาย Teo Chee Hean (เตียว ชี เฮียน) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประสานงานด้านความมั่นคง ประเทศสิงคโปร์ เดินทางมาหารือว่า ตนสนิทกับท่านมานานเพราะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาด้วยกัน ส่วนข้อเสนอที่ประเทศจีนเสนอให้มีการลาดตระเวนร่วมกัน 10 ประเทศอาเซียนนั้นต้องเป็นเรื่องของประเทศในกลุ่มอาเซียนต้องประชุมร่วมกัน ทั้งนี้ตนยังไม่รู้ต้องรอให้ประธานกลุ่มอาเซียนดำเนินการ ถ้าอาเซียนคิดว่าอย่างไรเราก็ว่าไปตามนั้น