ผู้ว่าการ กกท.แจงผู้ตรวจฯ ยันแต่งตั้งนายกลอนเทนนิสสมาคมฯ ถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย ยันไม่เป็นโมฆะ ผู้ตรวจฯ เล็งดูเรียกประชุมถูกต้องหรือไม่ เหตุคนเก่ายังไม่พ้นวาระ และไม่ถึงแก่กรรมหรือลาออกตามข้อบังคับ
วันนี้ (17 พ.ค.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานรับฟังคำชี้แจงจากนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อุปนายกสมาคมกีฬาเทนนิสลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากกรณีที่นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา กรรมการอำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมฯ และนายภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสชื่อดัง ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบกระบวนการแต่งตั้งนายกสมาคมและคณะกรรมการอำนวยการสมาคมลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ภายหลังการประชุมนายรักษเกชากล่าวว่า นายสกลยืนยันว่าได้ดำเนินการชอบด้วยกฎหมายแล้วตามที่สมาคมฯ ยืนยันมา มีการรับรองประธานอย่างถูกต้อง สมาชิกภาพครบถ้วน ซึ่งได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการสมาคมฯ ชุดเก่า โดยผู้ตรวจการแผ่นดินได้ซักถามว่า แม้จะมีการรับรองคุณสมบัติของสมาชิกที่เข้าประชุมว่าถูกต้อง แต่ถ้าต่อมาพบว่าขาดคุณสมบัติจะทำให้การประชุมครั้งนั้นโมฆะหรือไม่ ซึ่งมีการกล่าวอ้างแนวทางปฏิบัติกรมการปกครองมหาดไทย เคยมีคำวินิจิฉัยลักษณะนี้ว่าไม่ทำให้การประชุมเป็นโมฆะ แต่ผู้ตรวจการฯยังไม่ปักเชื่อต้องดูรายละเอียด
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พูดถึงการครบวาระของนายกสมาคมฯ ซึ่งหมดวาระในวันที่ 25 ม.ค. 2559 แต่กลับมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อนคือในวันที่ 23 ม.ค. 2559 จึงมีประเด็นว่าสามารถประชุมเพื่อเลือกประธานได้ก่อนหรือไม่อย่างไร จากข้อบังคับสมาคมฯ ข้อที่ 35 ระบุว่า คณะกรรมการสมาคมฯ พ้นวาระก่อนถึงวาระการเลือกตั้งใหม่ โดยนายกสมาคมถึงแก่กรรม ลาออก แต่ข้อเท็จจริงนายกสมาคมยังไม่ถึงแก่กรรมและลาออก ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่ที่จะมาพิจารณา โดย กกท.ก็บอกว่าสมาคมฯดำเนินการตามความต้องการของสมาคมทั้งสิ้น
“ผู้ตรวจการฯ ก็จะดูว่าการเรียกประชุมโดยผู้มีอำนาจได้ทำถูกต้องหรือไม่ เพราะจะมีผลต่อการดำรงตำแหน่งของนายกสมาคมคนใหม่ ซึ่งข้อบังคับข้อที่ 26 เขียนไว้ว่ากรรมการอำนวยการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ได้รับเลือกตั้ง หรือแต่งตั้ง ดังนั้นถ้าเลือกตั้งวันที่ 23 ม.ค.ก็จะมีผลในวันดังกล่าว ซึ่งวันนั้นนายกสมาคมคนเก่ายังไม่พ้นวาระ จะซ้ำซ้อนกัน กลายเป็นว่ามีนายกสมาคม 2 คนพร้อมกันหรือไม่ เป็นประเด็นข้อกฎหมายที่จะพิจารณากันต่อไป รวมถึงการไปจดทะเบียนเพื่อให้เกิดผลสมบูรณ์ จะมีประเด็นว่าใครต้องไปจด ที่ผ่านมาคือคนเก่าไปจด แต่ขณะนี้นายกสมาคมคนใหม่จดทะเบียนเองตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. ดังนั้น วันนี้เป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ ผู้ตรวจการฯ ได้ขอความร่วมมือ กกท.ให้ชี้แจงข้อมูลในประเด็นที่ กกท.ได้เคยวินิจฉัยไปแล้ว ซึ่งหลังรับข้อมูลใหม่แล้วจะมีผลต่อคำวินิจฉัยที่เคยวินิจฉัยไว้แล้วหรือไม่ ก็ให้ชี้แจงมาอีกครั้ง โดยฝาก กกท.ให้เร่งส่งข้อมูลเชื่อว่าจะใช้เวลานานเพราะมีข้อมูลมีในมือแล้ว แต่อาจจะไปทบทวนอีกครั้ง และไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยหรือไม่ โดยผู้ตรวจการฯ ก็จะดูว่า กกท.ดำเนินการตามหน้าที่หรือไม่”