ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด “เกษม นิมมลรัตน์” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง “ที่ปรึกษา อบจ. เชียงใหม่ และ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคเพื่อไทย” จงใจยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงและร่ำรวยผิดปกติ 186 ล้านบาท เตรียมส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาอายัดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เผยเคยลาออกจาก ส.ส.เชียงใหม่ โดยเปิดทางให้ “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ลงสมัคร
วันนี้ (13 พ.ค.) มีรายงานว่า นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินของ นายเกษม นิมมลรัตน์ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รวม 6 กรณี แล้วมีมติว่า นายเกษม นิมมลรัตน์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความ อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
โดย นายเกษม นิมมลรัตน์ แสดงเงินกู้ยืมของ นางดวงสุดา นิมมลรัตน์ คู่สมรสที่กู้ยืมจาก นางบุญทอง สุภารังษี (มารดาของ นายเกษม นิมมลรัตน์) จำนวน 72 ล้านบาท อันเป็นเท็จ, ปกปิดเงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (WIN) ในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่า 26,193,205.70 บาท และปกปิดเงินลงทุนในบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ASCON) มูลค่า 74,205,972 บาท ของ นางดวงสุดา นิมมลรัตน์ คู่สมรส ที่ให้นางบุญทอง สุภารังษี ถือครองแทน
ให้เสนอเรื่อง ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 เพื่อขอให้นายเกษม นิมมลรัตน์ พ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และห้ามมิให้นายเกษม นิมมลรัตน์ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย และขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและ หนี้สินของนายเกษม นิมมลรัตน์ ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วมีมติว่า นายเกษม นิมมลรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ตามมาตรา 38 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 รวมมูลค่า 186,620,637.76 บาท
มีรายงานว่า สำหรับ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส. เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเพื่อไทย พ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 ด้วยการลาออกจาก ส.ส. เชียงใหม่ โดยเปิดทางให้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (เจ๊แดง) ลงสมัครรับเลือกตั้งแทน และได้รับเลือกตั้ง ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยชนะ นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ คู่แข่ง จากพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลาต่อมา
ขณะที่ มีคู่สมรส คือ นางดวงสุดา นิมมลรัตน์ พบว่า กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. นายเกษม ระบุตำแหน่ง (ขณะนั้น) ของคู่สมรส ว่า เป็นเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็มลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น หรือ เอ็มลิ้งค์ (เดิมเป็นของกลุ่มนายสมชาย และ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ต่อมาได้ขายทิ้งกิจการให้กลุ่มทุนอื่น) และยังระบุตำแหน่งของภรรยาเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำนาญ ส.ส. สังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขที่ 2 เขตดุสิต กทม.
