ถึงคิว “จุมพล สำเภาพล”- ป.ป.ช.ตั้งอนุฯไต่สวน พร้อมพวก 14 ราย ปมอุโมงค์ไฟ 39 ล้าน

ป.ป.ช. ตั้ง “สุวณา สุวรรณจูฑะ” นั่ง ปธ. ไต่สวนฯ “จุมพล สำเภาพล” รองผู้ว่าฯ กทม. กำกับ “งบประมาณ” กับพวก 14 ราย ปมอุโมงค์ไฟ 39 ล้าน พบหลักฐานเบื้องต้น 3 ประเด็น พบงบกลางไม่มีการพิจารณาถึงความจำเป็นและเร่งด่วนอย่างแท้จริง คณะกรรมการ TOR มิได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ และ ส่อพฤติกรรม “สมยอมราคา”

วันนี้ (13 พ.ค.) มีรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกาทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้ง นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ในคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณี นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับพวก รวม 14 ราย โครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light) ของกรุงเทพมหานคร งบประมาณ 39. 5 ล้านบาท ว่า

ด้าน นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า จากการแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น มีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงต่อการไต่สวนข้อเท็จจริง ใน 3 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นที่ 1 เรื่องใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายทั่วไป กรณีฉุกเฉิน หรือ จำเป็น จำนวน 40 ล้านบาท ในการจัดทำโครงการนี้ ไม่มีการพิจารณาถึงความจำเป็นและเร่งด่วนอย่างแท้จริง

ประเด็นที่ 2 เรื่องกำหนดรายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) และประมาณการค่าใช้จ่าย มีการดำเนินดำเนินการก่อนที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ TOR และประมาณราคาค่าใช้จ่าย และเมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ TOR แล้ว คณะกรรมการดังกล่าวมิได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระเบียบกำหนดไว้

ประเด็นที่ 3 เรื่องสมยอมราคา ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีบริษัทเอกชนเข้าข่ายสมยอมราคาจำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท จิปาถะ ไอเดีย จำกัด บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด และ บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด โดยทั้ง 3 บริษัทได้มีการจดทะเบียนเพิ่มเติมวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการประกอบกิจการประดับตกแต่งไฟ โดยมีการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกันไปยื่นจดทะเบียนก่อนวันเสนอราคาในโครงการดังกล่าว เพื่อให้ตนมีคุณสมบัติเป็นผู้เข้าเสนอราคาในโครงการดังกล่าวได้

“จึงมีเหตุให้น่าเชื่อว่า ทั้ง 3 บริษัท มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน อันเป็นพฤติการณ์เข้าข่ายตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเป็นความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้ว) ซึ่งถือว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างเหมาในครั้งนี้”

มีรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะพิจารณาเตรียมยื่นเรื่องให้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. สอบ และเอาผิดเพิ่มรองผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร 2 คน คือ นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯ ที่ดูแลงบประมาณและเป็นผู้เซ็นอนุมัติให้ใช้งบฉุกเฉิน และ นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ อีกคนที่ถูกร้องเรียนในเรื่องเดียวกัน โดยเห็นว่า 2 คนนี้ ควรเป็นผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากมีส่วนรู้เห็นกับโครงการประดับไฟลานคนเมือง

นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 นายวิลาศ ยังได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และ ร่ำรวยผิดปกติ จากกรณีการบริหารงานใน กทม. หลายกรณีที่น่าเชื่อว่ามีการกระทำผิดตามข้อกล่าวหา เช่น กรณีการจัดซื้อเครื่องจักรกลจำนวนมากโดยสำนักงานเขตต่าง ๆ ซึ่งมีราคาแพงเกินจริง กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กทม. กรณีพาทีมงานไปเที่ยวประเทศ กรณีจ้างเหมาก่อสร้างสวนสาธารณะ กรณีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทขายเครื่องจักรให้ กทม.

ขณะที่ นายจุมพล ได้ระบุว่า พร้อมให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ต้องตรวจสอบเอกสารที่นำไปยื่นว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่ ที่ผ่านมา ก็ได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ และได้รายงานมาโดยตลอด