รมว.กลาโหมเป็นประธานจัดงานวันกำลังสำรอง ชมสาธิตการแสดงความสามารหน่วยกำลังพลสำรอง หลังฝึกในค่ายทหาร 9 วัน เป็นพลเรือนรับราชการชั่วคราว รับพอใจ ขอ ปชช.-เอกชนร่วมมือพัฒนา ชูแอปฯ รด.เรื่องดี ลั่นคดีวัยรุ่นรุมฆ่าชายพิการต้องได้ความเป็นธรรม 100% ลูกตำรวจไม่เว้น เผยพบแล้วคนขู่ รมว.คลังไขก๊อก แท้จริงเป็นคนบ้า ย้ำเรื่องจริง
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้จัดงานวันกำลังสำรอง โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ในงานมีการสาธิตการแสดงขีดความสามารถของหน่วยกำลังทดแทนระดับกองพันทหารราบ ทั้งการใช้อาวุธปืนประจำกาย การใช้อาวุธปืน ค. ซึ่งกำลังพลทั้งหมดเป็นการบรรจุกำลังผสมระหว่างกำลังพลสำรองที่เข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร ประจำปีนี้จำนวน 688 นาย ซึ่งเข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร 9 วัน ที่กองพลทหารราบที่ 11 (พล.ร.11) จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุคคลพลเรือนจากหลากหลายสาขาอาชีพที่มีสถานะเป็นทหารกองหนุนซึ่งเข้ารับราชการในกองทัพเป็นการชั่วคราว เพื่อฝึกทบทวนวิชาทหารให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการรบร่วมกับกำลังประจำการ รวมทั้งมีกำลังประจำการจาก พล.ร.11 ร่วมด้วย ทั้งนี้ กำลังสำรองที่ร่วมในพิธีจำนวน 1,389 คนร่วมกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นกำลังสำรองที่ดีของแผ่นดิน
พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า พอใจในการสาธิตการแสดงกำลังในวันนี้ เป้าหมายอยากทำให้ได้เช่นนี้ทุกกองทัพภาค ทั้งนี้ ในประเทศที่เจริญแล้วกำลังสำรองจะเข้มแข็ง ประเทศไทยก็กำลังพัฒนากำลังสำรองขึ้น แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน และภาคเอกชนด้วย เพราะว่าถ้าภาคเอกชนไม่ร่วมมือ หรือ ไม่ให้ลาพักก็ทำไม่ได้ อีกทั้งกองทัพบกต้องมีงบประมาณในการสนับสนุนในเรื่องชุดฝึก เครื่องมือ เครื่องใช้ กระสุน อาวุธ ในช่วงการฝึก 9-10 วันด้วย หากสำเร็จก็จะสอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปกองทัพ และกระทรวงกลาโหมในอนาคต
รมว.กลาโหมยังกล่าวถึงการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “รักษาดินแดน” ในงานนี้ว่า เป็นเรื่องดี เพราะจะได้สื่อสารกันระหว่างกำลังสำรองกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ บางทีมีข่าวสารที่บิดเบือนออกมาจะได้รับรับข้อมูลที่เป็นจริงกลับไป ส่วนจะใช้เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักศึกษาวิชาการ และกำลังสำรอง ออกมาทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ตนคิดว่ากลุ่มนักศึกษาวิชาการทหารทราบดีอยู่ โดยโครงการ รด.จิตอาสา มีอยู่ในทุกพื้นที่กองทัพภาค ในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนลงประชามติ โดยไม่ได้ปิดกั้นให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่ให้มีการรณรงค์ โฆษณาในการรับหรือไม่รับ
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มชายฉกรรจ์ซ้อมชายพิการเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้เสียชีวิตต้องได้รับความเป็นธรรม 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งตนก็ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ไม่ได้รับความเป็นธรรมคงไม่ได้ จะเป็นลูกตำรวจหรือลูกใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทั้งหมด รัฐบาลยังใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกเรื่อง
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีมีโทรศัพท์ข่มขู่ รมว.คลังให้ลาออกจากตำแหน่งว่า เขาไปตามเจอแล้ว เป็นคนบ้า เขาทำคนเดียว เป็นคนสติไม่ค่อยดี เมื่อถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จริง จะไปโกหกทำไม ไม่มีนัยอะไร เมื่อถามว่าไปได้เบอร์รัฐมนตรีมาจากไหน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “มันไปค้น โทร. ไป 1133 เป็นร้อยครั้ง ผมยังโดนเลย มีเบอร์อยู่ที่กับคนที่ไปจับ แต่ยังไม่ได้โทร.มาหาผม ถือว่าเรื่องจบแล้ว เป็นคนโรคจิต” เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าจะมีขบวนการข่มขู่รัฐมนตรีให้ลาออกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มีหรอก ผมมองว่าถ้ามีมันแปลกนะ ผมก็แค่อยากรู้ว่ามีขบวนการหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มี พบเป็นแค่คนเดียว”