“ประวิตร” เป็น ปธ.เตรียมจัดงานวันกำลังสำรอง 4 พ.ค. ผบ.นรด.เผยมีการแสดงพลังขององค์กรกำลังสำรองกลุ่มต่างๆ ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมเปิดตัวแอปฯ รักษาดินแดน หนุนกิจกรรม รด.จิตอาสา ให้มีปฏิสัมพันธ์กับทางทหาร ไม่เกี่ยวข้องการเมือง ยัน รด.เชิญชวนไปใช้สิทธิไม่ได้ชี้นำ ทำตามที่ กกต.ร้องขอ
วันนี้ (27เม.ย.) ที่กองบัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (บก.นรด.) พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผบ.นรด. แถลงข่าวจัดงานวันกำลังสำรอง ประจำปี 2559 ว่า การจัดงานวันกำลังสำรองประจำปี 2559 ในวันที่ 4 พ.ค.นี้ ที่ บก.นรด. ถือเป็นครั้งที่ 12 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการกำลังสำรอง เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งวันกำลังสำรองเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2454 โดยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ได้ทรงคิดให้มีกำลังพลเพื่อมาสนับสนุนกิจการทหารทั้งในยามปกติ และในยามสงคราม เพราะในขณะนั้นเกิดวิกฤตกับประเทศเรา พระองค์ท่านได้จัดตั้งกองเสือป่าขึ้นมาและพัฒนาให้การสนับสนุนกิจการทหารมาตามลำดับ ต่อมาคณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญได้อนุมัติให้วันที่ 6 พ.ค.ทุกปีเป็นวันกำลังสำรอง แต่ปีนี้ตรงกับหยุดราชการนรด.จึงได้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 4 พ.ค. เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักกำลังสำรองว่ามีหน้าที่อย่างไร โดย นรด.กำหนดกำลังสำรองไว้ 4 ประเภท ได้แก่ 1. กำลังสำรอง ที่ได้ผ่านการฝึกจากนักศึกษาวิชาทหาร และพลทหารกองประจำการที่บรรจุเข้ามาอยู่ในบัญชีบรรจุกำลังของหน่วยทหารและได้รับการฝึกเป็นกำลังทดแทนในการรบยามสงครามได้ 2. กำลังสำรองกึ่งทหาร เช่น ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารพราน อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ที่เป็นกำลังติดอาวุธ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ในส่วนของกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ถือว่าเป็นกำลังสำรองอีกประเภท
3. กำลังสำรองที่เป็นกลุ่มพลังมวลชนที่จัดตั้งขึ้น และ 4. กำลังสำรองจากสมาคม ชมรม องค์กรต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นยึดโยงกับทางราชการและสนับสนุนกิจการทหาร อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าวจะมีการชี้แจงรายละเอียดของ พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง ปี 2558 ด้วย ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้กระทบสิทธิของประชาชน แต่ประชาชนจะได้ประโยชน์มากขึ้นอย่างแน่นอน
พล.ท.วีรชัยกล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ในวันที่ 4 พ.ค.นี้ ยังมีการแสดงพลังขององค์กรกำลังสำรองกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงกำลังของ “กำลังพลสำรอง” ซึ่งเป็นพลเรือนที่เข้ารับการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร ที่กองพลทหารราบที่ 11 จ.ฉะเชิงเทรา โดยสาธิตการแสดงขีดความสามารถของหน่วยกำลังทดแทนระดับกองพันทหารราบ เป็นการบรรจุกำลังผสมระหว่างกำลังประจำการและกำลังพลสำรอง รวมกำลังสำรองทุกกลุ่มที่ร่วมแสดงพลังในที่ 4 พ.ค. จำนวน 1,389 นาย ถือได้ว่าเป็นการแสดงพลังของกำลังสำรองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อให้คนไทยได้เห็นว่าหน้าที่ในการพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือหน้าที่ของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ พล.ท.วีรชัย ยังเป็นประธานแถลงเปิดตัวแอปพลิเคชัน “รักษาดินแดน” เพื่อสนับสนุนกิจกรรม รด.จิตอาสาว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดยบริษัท แอ็ดว้านซ์ แทรคกิ้ง เซอร์วิสซ์ จำกัด และบริษัทธนพัฒน์ อินเตอร์ โซเชียล มีเดีย จำกัด เพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร รับข้อมูล ภาพ ประชาสัมพันธ์งาน หรือสั่งงานในหน่วยงานของนรด.ทั้งประเทศ รวมถึงงานจิตอาสาต่างๆ ตามกรอบงานของ นรด. โดยการลงทะเบียนเข้าใช้นั้นจะใช้รหัสประจำตัวนักศึกษาวิชาทหารและหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งมีการใช้งานเทียบเท่ากับแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก และยูทิวบ์ ให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ฝึกให้นักศึกษาวิชาทหารรักสถาบัน ประเทศชาติ และทำกิจกรรมเพื่อส่วนร่วม อีกทั้งให้มีปฏิสัมพันธ์กับทางทหาร
พล.ท.วีรชัยกล่าวต่อว่า ทั้งนี้นักศึกษาวิชาทหารในขณะนี้ยังมีภารกิจออกไปเผยแพร่ให้ความรู้และเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่การชี้นำ โดยในปีนี้กำหนดให้นักศึกษาวิชาทหารมีการฝึกทางทหาร 60% และอีก 40% ให้เป็นการทำกิจกรรมดีๆ ในเวลาเรียน เพื่อเป็นพลังสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ
เมื่อถามว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวจะมีส่วนช่วยรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.ท.วีรชัยกล่าวว่า การรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ และต้องไม่ผิดกฎหมาย ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แอปพลิเคชันดังกล่าวเหมือนกับไลน์ สามารถกระจายข่าวสาร และนำรายละเอียดไปเผยแพร่ต่อเพื่อเชิญชวนประชาชนได้แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย เพราะทาง นรด.มีศูนย์ควบคุม แม้ผู้ใช้แอพพลิเคชันจะเป็นเด็กก็ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย และกติกา ต้องไม่นำไปใช้ในทางที่ทำให้เกิดการเสียหาย เบื้องต้นในปีนี้จะมีผู้ใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวเป็นนักศึกษาวิชาทหารทุกชั้นปี จำนวน 3 แสนคน พร้อมทั้งจะขยายไปยังสมาคมศิษย์เก่าของนักศึกษาวิชาทหาร
“การประชาสัมพันธ์เรื่องออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เราทำตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอ เราไม่ได้คิดทำอะไรเอง และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องของทางทหาร ตอนนี้เราทำหน้าที่พลเมืองดี เชิญชวนประชาชนที่สนใจร่างรัฐธรรมนูญออกมาใช้สิทธิลงประชามติ แอปพลิเคชันของ นรด.ใช้ได้ทุกเรื่อง แต่ขณะนี้จะใช้ในกลุ่มนักศึกษาวิชาทหารก่อน จากนั้น นรด.จะขยายต่อยอดไปยังสมาคม ชมรม องค์กรกำลังสำรองทั้งหมดที่มีกฎหมายรองรับทำกิจกรรมดีๆ ให้สังคม” พล.ท.วีรชัยกล่าว