ตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬ ยื่นฟ้องศาลปกครองสั่งเพิกถอนประกาศ กทม.ที่ให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 30 เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 เม.ย.) ตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬประมาณ 30 คนนำโดยนายพีระพล เหมรัตน์ รองประธานชุมชน ได้เข้ายื่นคำฟ้องกรุงเทพมหานคร ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ต่อศาลปกครองกลางขอให้เพิกถอนประกาศกรุงเทพมหานครลงวันที่ 28 มี.ค. 2529 เรื่องให้ชุมชนป้อมมหากาฬรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ รวมทั้งขอให้เพิกถอนแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ในส่วนที่กำหนดให้ใช้พื้นที่บริเวณชุมชนป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะเนื่องจากขัดต่ออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และมีคำสั่งให้ผู้ถุกฟ้องปฏิบัติตามข้อตกลง 3 ฝ่ายที่มีการทำขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2558 พร้อมขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งระงับประกาศกรุงเทพมหานครที่ให้ชุมชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนออกภายในวันที่ 30 เม.ย.ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
นายพีระพลกล่าวว่า ทางชุมชนเห็นว่า กรุงเทพมหานครควรยึดและปฏิบัติตามข้อตกลง 3 ฝ่ายที่กรุงเทพมหานคร กรมศิลปากร และชุมชนทำร่วมกันสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม.ในการที่จะอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนบ้านไม้โบราณเป็นพื้นที่ศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน ซึ่ง กทม.ได้หยุดดำเนินการไปหลังนายอภิรักษ์พ้นจากตำแหน่ง และต้องไม่ละเลยรายงานผลวิจัยต่างๆ ที่ชี้ว่า แผนการสร้างสวนสาธารณะภายในชุมชน ตามแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชน ล้าสมัย ทำลายวิถีชีวิตความเป็นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเท่ากับว่าการดำเนินการของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่ออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมาทางชุมชนพยายามที่จะเจรจากับกรุงเทพมหานคร
รวมถึงเสนอแนวทางคนอยู่ร่วมกับสวนสาธารณะ โดยชาวบ้านยังคงอยู่อาศัยในชุมชนและอาสาจะดูแลสวนสาธารณะที่กรุงเทพมหานครมีแนวคิดจะสร้างขึ้น แต่กรุงเทพมหานครก็ไม่รับฟัง พยายามจะใช้กฎหมายเข้าบังคับให้ชาวชุมชนต้องย้ายออกไป จึงต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
เมื่อเวลา 19.00 น. รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ศาลปกครองไม่รับไต่สวนฉุกเฉินคดีดังกล่าว แต่มีเอกสารแจ้งคู่กรณีว่ารับฟ้องและจะเร่งพิจารณาคดีโดยเร็ว