สารพัดความเดือดร้อนมุ่งทำเนียบฯ นักธุรกิจอินเดีย ร้องนายกฯ แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม ในกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ชาวด่านขุนทดขอนายกฯ ช่วย อบต.ยึดที่ทำกิน ด้านพนักงานทีทีแอนด์ทียื่น “บิ๊กตู่” ช่วย หวั่นถูกลอยแพ
ที่ศูนย์บริการประชาชน บริเวณสำนักงาน ก.พ. เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) นายกมล พิชิตสิงห์ นักธุรกิจโรงงานผลิตเส้นด้ายใน จ.สมุทรสาคร ชาวอินเดีย ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน
นายกมลระบุว่า ตนทำงานให้ครอบครัวมาตลอดตั้งแต่อายุ 16 ปี จนกระทั่งนางรจิต พิชิตสิงห์ มารดาล้มป่วย นางประภา ปาลซิงห์ นางรัตนา สิงห์สัจจกุล และนางเนาวรัตน์ โกเกอร์ พี่สาวและน้องสาวของตนที่แต่งงานมีครอบครัวของตัวเองไปกว่า 35 ปีได้เข้ามาดูแลมารดา ใช้โอกาสใก้ลชิดกระทำการทุจริตหลายประการเพื่อให้ได้ทรัพย์สินต่างๆ ไป ทั้งปลอมแปลงเอกสาร ยักยอกทรัพย์สินมรดกกว่า 1,700 ล้านบาท ในปี 2553 ตนจึงแจ้งความดำเนินคดีไว้จนมีการพิจารณาในชั้นศาล โดยศาลตัดสินให้ตนเป็นฝ่ายแพ้คดี ส่วนตัวเชื่อว่าได้รับความไม่เป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันตุลาการ พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทราบว่ามีบุคคลในกระบวนการยุติธรรมบางรายใช้อิทธิพลกระทำการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ
นายกมลกล่าวอีกว่า เชื่อว่าพี่สาวและน้องสาวของตนยังได้ทำอันตรายมารดาโดยการวางยาจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2556 เรื่องนี้ตนได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว มีหลักฐานเป็นยาที่ใช้อย่างชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 5 แต่เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นคดีอีกจึงมาร้องขอความเป็นธรรม การดำเนินการต่างๆ ของตน ไม่ต้องการที่จะได้ทรัพย์สินคืน แต่ต้องการขอให้นายกฯ แก้ปัญหากำจัดขบวนการทุจริตในกระบวนการยุจิธรรมให้หมดไป เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน ก่อนที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงสายของวันเดียวกันกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบปัญหาที่ดินทำกิน อ.ด่านขุนทด นำโดยนางกรรณิการ์ ลาบประเสริฐ เข้ายื่นหนังสือถึง พ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีประชาชนในเขต ต.สระจระเข้, ด่านนอก และ ด่านใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับความเดือนร้อนจากการที่ องค์การบริหารส่วนตำบลสระจระเข้ ร่วมกับสำนักงานที่ดิน จ.นครราชสีมา สาขาด่านขุนทด ตรวจสอบแนวเขตรังวัด ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงโคกหนองสะแกนอก และโคกหนองตะคอง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในที่ดินทำกิน
โดยนางกรรณิการ์กล่าวว่า ขณะนี้มีหนังสือขอความร่วมมือชะลอการทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวอันเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เพราะประชาชนมีสิทธิอาศัยทำกินในที่ดินของตัวเองตามรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขอให้นายกฯ พิจารณาแก้ไขเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกินในที่ดินทำกินของตัวเองต่อไป
จากนั้นตัวแทนพนักงาน บมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) ผู้รับสัมปทานจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน 1.5 ล้านเลขหมายในส่วนภูมิภาค นำโดยนายชุมพล ณะพิทักษ์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ช่วยคุ้มครองลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากการถูกทอดทิ้ง และพนักงาน 2,090 คน ที่จะถูกลอยแพเลิกจ้าง กรณีที่ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2559
นายชุมพลกล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวจึงสงสัยว่าทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และทีโอที ถึงไม่มีแนวทางช่วยเหลือก่อนจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีแนวทางแก้ปัญหา และหากพนักงานถูกเลิกจ้างต้องฟ้องเรียกค่าชดเชยเอง ซึ่งต้องใช้เวลานาน จึงขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ
ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเดินทางมารับเรื่องดังกล่าว กล่าวว่า นายกฯ กำชับให้ตนเป็นผู้ลงมารับหนังสือ เพื่อรับทราบถึงความเดือดร้อนในเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับกฎหมายสิทธิแรงงาน และเสรีภาพ การจะดำเนินการในไม่ควรจะพลีผลาม การที่นายจ้างให้ลูกจ้างไปฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ
ที่ศูนย์บริการประชาชน บริเวณสำนักงาน ก.พ. เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) นายกมล พิชิตสิงห์ นักธุรกิจโรงงานผลิตเส้นด้ายใน จ.สมุทรสาคร ชาวอินเดีย ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน
นายกมลระบุว่า ตนทำงานให้ครอบครัวมาตลอดตั้งแต่อายุ 16 ปี จนกระทั่งนางรจิต พิชิตสิงห์ มารดาล้มป่วย นางประภา ปาลซิงห์ นางรัตนา สิงห์สัจจกุล และนางเนาวรัตน์ โกเกอร์ พี่สาวและน้องสาวของตนที่แต่งงานมีครอบครัวของตัวเองไปกว่า 35 ปีได้เข้ามาดูแลมารดา ใช้โอกาสใก้ลชิดกระทำการทุจริตหลายประการเพื่อให้ได้ทรัพย์สินต่างๆ ไป ทั้งปลอมแปลงเอกสาร ยักยอกทรัพย์สินมรดกกว่า 1,700 ล้านบาท ในปี 2553 ตนจึงแจ้งความดำเนินคดีไว้จนมีการพิจารณาในชั้นศาล โดยศาลตัดสินให้ตนเป็นฝ่ายแพ้คดี ส่วนตัวเชื่อว่าได้รับความไม่เป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันตุลาการ พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทราบว่ามีบุคคลในกระบวนการยุติธรรมบางรายใช้อิทธิพลกระทำการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ
นายกมลกล่าวอีกว่า เชื่อว่าพี่สาวและน้องสาวของตนยังได้ทำอันตรายมารดาโดยการวางยาจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2556 เรื่องนี้ตนได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว มีหลักฐานเป็นยาที่ใช้อย่างชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 5 แต่เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นคดีอีกจึงมาร้องขอความเป็นธรรม การดำเนินการต่างๆ ของตน ไม่ต้องการที่จะได้ทรัพย์สินคืน แต่ต้องการขอให้นายกฯ แก้ปัญหากำจัดขบวนการทุจริตในกระบวนการยุจิธรรมให้หมดไป เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน ก่อนที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงสายของวันเดียวกันกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบปัญหาที่ดินทำกิน อ.ด่านขุนทด นำโดยนางกรรณิการ์ ลาบประเสริฐ เข้ายื่นหนังสือถึง พ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีประชาชนในเขต ต.สระจระเข้, ด่านนอก และ ด่านใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับความเดือนร้อนจากการที่ องค์การบริหารส่วนตำบลสระจระเข้ ร่วมกับสำนักงานที่ดิน จ.นครราชสีมา สาขาด่านขุนทด ตรวจสอบแนวเขตรังวัด ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงโคกหนองสะแกนอก และโคกหนองตะคอง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในที่ดินทำกิน
โดยนางกรรณิการ์กล่าวว่า ขณะนี้มีหนังสือขอความร่วมมือชะลอการทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวอันเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เพราะประชาชนมีสิทธิอาศัยทำกินในที่ดินของตัวเองตามรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขอให้นายกฯ พิจารณาแก้ไขเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกินในที่ดินทำกินของตัวเองต่อไป
จากนั้นตัวแทนพนักงาน บมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) ผู้รับสัมปทานจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน 1.5 ล้านเลขหมายในส่วนภูมิภาค นำโดยนายชุมพล ณะพิทักษ์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ช่วยคุ้มครองลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากการถูกทอดทิ้ง และพนักงาน 2,090 คน ที่จะถูกลอยแพเลิกจ้าง กรณีที่ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2559
นายชุมพลกล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวจึงสงสัยว่าทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และทีโอที ถึงไม่มีแนวทางช่วยเหลือก่อนจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีแนวทางแก้ปัญหา และหากพนักงานถูกเลิกจ้างต้องฟ้องเรียกค่าชดเชยเอง ซึ่งต้องใช้เวลานาน จึงขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ
ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเดินทางมารับเรื่องดังกล่าว กล่าวว่า นายกฯ กำชับให้ตนเป็นผู้ลงมารับหนังสือ เพื่อรับทราบถึงความเดือดร้อนในเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับกฎหมายสิทธิแรงงาน และเสรีภาพ การจะดำเนินการในไม่ควรจะพลีผลาม การที่นายจ้างให้ลูกจ้างไปฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ