“อคิวเม้นท์” บริษัทย่อย “จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล” ฟ้องกลับ ทีทีแอนด์ทีและพวกอีก 13 ราย เรียกค่าเสียหาย 6,350 ล้านบาท ขณะศาลรับฟ้องและกำหนดนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมไว้ในวันที่ 9 ก.พ.58 เวลา 9.00 น.
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.57 บริษัท อคิวเมนท์ บริษัทย่อยของจัสมิน (โดย JAS ถือหุ้นเกือบ 100% ของทุนจดทะเบียน) ได้ยื่นฟ้อง บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T รวมทั้งบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย บริษัท พี ซี แอล แพลนเนอร์จำกัด, นายชาย วัฒนสุวรรณ, นายชลิต สถิตทอง, นายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร, นายเพิ่มศักดิ์ เดชะไกศยะ, นายพินิจ อาภานันทิกุล, นายบุญเสริม แสงทอง, นายชำนาญ กิจสมมารถ, นายตริณญ์ อินทรโอภาส, บริษัท อยุธยาลิมิเต็ด, บริษัท อันดามันซี เมเนจเม้นท์ ลิมิเต็ด และนายไลชุง แมน เป็นจำเลยรวมสิบสามคนต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1625/2557 จากการที่จำเลยทั้งสิบสามได้ร่วมกันกระทำละเมิดต่ออคิวเมนท์ โดยการนำบันทึกข้อตกลงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 13 ก.ย.49 ระหว่าง ทีทีแอนด์ที กับ อคิวเมนท์ (บันทึกข้อตกลงฯ) ที่จำเลย
ทั้งหมดรู้ดีว่าสิ้นผลบังคับไปนานแล้วมาฟ้องอคิวเมนท์ ให้ทำการโอนขายหุ้นทริปเปิลทีที่อคิวเมนท์ถืออยู่ในทริปเปิลทีให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TT&T หรือผู้สืบสิทธิ เป็น 876.9 ล้านหุ้นเศษ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.882/2557 โดยเจาะจงฟ้องคดีและร้องขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างที่ ทริปเปิลที (ซึ่งเป็นบริษัทที่มีอคิวเมนท์เป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมด) กำลังดำเนินการยื่นเรื่องขอจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมซึ่งเริ่มมาด้วยดีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้จนใกล้จะเสร็จสิ้นกระบวนการการฟ้องคดีดังกล่าวเป็นการที่จำเลยทั้ง 13 ได้ร่วมกันและแบ่งแยกหน้าที่กันดำเนินการโดยยอมเสียค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นจำนวนมากในการฟ้องคดีทั้งๆ ที่ TT&T จะไม่ได้รับประโยชน์ใดเป็นส่วนตนจากการฟ้องคดีเลยแต่ต้องการใช้เหตุที่มีการฟ้องคดีและการร้องขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์นั้นมาทำให้การจัดตั้งกองทุนรวมของทริปเปิลทีไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตทำให้อคิวเมนท์ได้รับความเสียหาย อคิวเมนท์ได้เรียกร้องค่าเสียหายในคดีนี้เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 6,350 ล้านบาท
โดยอคิวเมนท์ได้ขอให้ศาลกำหนดค่าเสียหายเอากับจำเลยแต่ละรายตามความหนักเบาของพฤติการณ์ในการทำละเมิด โดยขอให้ TT&T , บริษัท พีซีแอล แพลนเนอร์ จำกัด, นายชาย วัฒนสุวรรณ, นายชลิต สถิตทอง และนายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร (คือ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5) ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 2,500 ล้านบาท ขอให้นายเพิ่มศักดิ์ เดชะไกศยะ, นายพินิจ อาภานันทิกุล, นายบุญเสริม แสงทอง, นายชำนาญ กิจสมมารถ และนายตริณญ์ อินทรโอภาส (คือ จำเลยที่ 6 ถึงที่ 10) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,200 ล้านบาท และขอให้บริษัท อยุธยา ลิมิเต็ด, บริษัท อันดามันซี เมเนจเม้นท์ ลิมิเต็ด
และนายไลชุง แมน (คือ จำเลยที่ 11 ถึงที่ 13) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,650 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้รับฟ้องของ อคิวเมนท์ไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย.57 โดยได้กำหนดนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมไว้ในวันที่ 9 ก.พ.58 เวลา 9.00 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของศาลกำลังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้ง 13 คน
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.57 บริษัท อคิวเมนท์ บริษัทย่อยของจัสมิน (โดย JAS ถือหุ้นเกือบ 100% ของทุนจดทะเบียน) ได้ยื่นฟ้อง บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T รวมทั้งบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย บริษัท พี ซี แอล แพลนเนอร์จำกัด, นายชาย วัฒนสุวรรณ, นายชลิต สถิตทอง, นายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร, นายเพิ่มศักดิ์ เดชะไกศยะ, นายพินิจ อาภานันทิกุล, นายบุญเสริม แสงทอง, นายชำนาญ กิจสมมารถ, นายตริณญ์ อินทรโอภาส, บริษัท อยุธยาลิมิเต็ด, บริษัท อันดามันซี เมเนจเม้นท์ ลิมิเต็ด และนายไลชุง แมน เป็นจำเลยรวมสิบสามคนต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1625/2557 จากการที่จำเลยทั้งสิบสามได้ร่วมกันกระทำละเมิดต่ออคิวเมนท์ โดยการนำบันทึกข้อตกลงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 13 ก.ย.49 ระหว่าง ทีทีแอนด์ที กับ อคิวเมนท์ (บันทึกข้อตกลงฯ) ที่จำเลย
ทั้งหมดรู้ดีว่าสิ้นผลบังคับไปนานแล้วมาฟ้องอคิวเมนท์ ให้ทำการโอนขายหุ้นทริปเปิลทีที่อคิวเมนท์ถืออยู่ในทริปเปิลทีให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TT&T หรือผู้สืบสิทธิ เป็น 876.9 ล้านหุ้นเศษ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.882/2557 โดยเจาะจงฟ้องคดีและร้องขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างที่ ทริปเปิลที (ซึ่งเป็นบริษัทที่มีอคิวเมนท์เป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมด) กำลังดำเนินการยื่นเรื่องขอจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมซึ่งเริ่มมาด้วยดีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้จนใกล้จะเสร็จสิ้นกระบวนการการฟ้องคดีดังกล่าวเป็นการที่จำเลยทั้ง 13 ได้ร่วมกันและแบ่งแยกหน้าที่กันดำเนินการโดยยอมเสียค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นจำนวนมากในการฟ้องคดีทั้งๆ ที่ TT&T จะไม่ได้รับประโยชน์ใดเป็นส่วนตนจากการฟ้องคดีเลยแต่ต้องการใช้เหตุที่มีการฟ้องคดีและการร้องขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์นั้นมาทำให้การจัดตั้งกองทุนรวมของทริปเปิลทีไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตทำให้อคิวเมนท์ได้รับความเสียหาย อคิวเมนท์ได้เรียกร้องค่าเสียหายในคดีนี้เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 6,350 ล้านบาท
โดยอคิวเมนท์ได้ขอให้ศาลกำหนดค่าเสียหายเอากับจำเลยแต่ละรายตามความหนักเบาของพฤติการณ์ในการทำละเมิด โดยขอให้ TT&T , บริษัท พีซีแอล แพลนเนอร์ จำกัด, นายชาย วัฒนสุวรรณ, นายชลิต สถิตทอง และนายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร (คือ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5) ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 2,500 ล้านบาท ขอให้นายเพิ่มศักดิ์ เดชะไกศยะ, นายพินิจ อาภานันทิกุล, นายบุญเสริม แสงทอง, นายชำนาญ กิจสมมารถ และนายตริณญ์ อินทรโอภาส (คือ จำเลยที่ 6 ถึงที่ 10) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,200 ล้านบาท และขอให้บริษัท อยุธยา ลิมิเต็ด, บริษัท อันดามันซี เมเนจเม้นท์ ลิมิเต็ด
และนายไลชุง แมน (คือ จำเลยที่ 11 ถึงที่ 13) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,650 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้รับฟ้องของ อคิวเมนท์ไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย.57 โดยได้กำหนดนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมไว้ในวันที่ 9 ก.พ.58 เวลา 9.00 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของศาลกำลังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้ง 13 คน