ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อดีตช่างเทคนิค TT&T สงขลา หันเหชีวิตมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวปลูกมะระปลอดสารพิษ ลูกใหญ่ราคาดี ร่วมกับการทำเกษตรแบบผสมผสาน สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่องตลอดปี
วันนี้ (26 มิ.ย.) มะระเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่งที่เกษตรกรให้ความสนใจปลูก เนื่องจากราคาไม่ตกมากเหมือนผักชนิดอื่นๆ และตลาดต้องการทุกฤดูกาล เช่น ตรุษจีน, สารทจีน, เทศกาลกินเจ และยังเป็นพืชผักที่ปลูกง่าย ใช้น้ำน้อย ยิ่งเมื่อปลูกแบบปลอดสารพิษก็ยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาด
ตัวอย่างที่สวนของ นายนรินทร ศรีสวัสดิ์ อายุ 41 ปี เกษตรกรชาว ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ที่หันเหชีวิตจากนายช่างเทคนิค TT&T มาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ได้ทำการปลูกมะระจีนพันธุ์ลูกผสมแบบเกษตรอินทรีย์ หรือปลอดสารพิษ มาประมาณ 2 ปี ได้ผลผลิตอยู่ในระดับดีมาก ตอนนี้ปลูกไว้ประมาณ 100 ต้น และกำลังจะขยายเพิ่มอีก 40 กว่าต้น ในเนื้อที่เพียง 1 ไร่ จากทั้งหมด 3 ไร่ ส่วนที่เหลือก็จะทำเกษตรผสมผสานปลูกกล้วย ปลูกมะละกอ และมะเขือ เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียน และทำเพียงคนเดียวจึงต้องการขยายไปเรื่อยๆ
ในส่วนของมะระ หลังจากปลูกได้ 2 เดือนก็จะเก็บผลผลิตได้ และเก็บได้ต่อไปอีก 1 เดือน แต่ที่สวนของ นายนรินทร เป็นมะระที่ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ผลผลิตจึงมีราคาสูง แต่ละลูกหนักเกือบ 1 กิโลกรัม ราคาลูกละ 30-50 บาท วิธีการดูแลจะใช้วิธีทางชีวภาพ โดยใช้เชื้อราคงที่ในการกำจัดแมลงแทนเคมีสังเคราะห์ และใช้กระดาษห่อผลมะระตั้งแต่ลูกเล็ก เพื่อป้องกันแมลงวันทองเจาะผลมะระ และกระดาษสำหรับห่ออาหารมาห่อเพราะไม่มีสารเคมีปนเปื้อนในเนื้อกระดาษ
สำหรับระบบน้ำ จะใช้ปั๊มน้ำผ่านท่อมินิสปิงเกอร์ไปยังต้นมะระโดยตรง ใช้เวลารดน้ำต่อแถว 15-20 นาที ให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น ส่วนการเก็บผลผลิตจะเก็บช่วงเช้าอย่างเดียว เพราะหลังจากช่วงเช้าไปแล้วผลมะระจะโดนความร้อน ทำให้เนื้อมะระไม่สวย โดยช่วงเวลาเก็บ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 7 โมงครึ่งเท่านั้น จะได้ผลที่สวยงามที่สุด ตอนนี้ขายอยู่ในตลาดเกษตร ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และในตลาดใกล้ๆ สวน สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่วันละ 800-900 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นรายได้ที่น่าพอใจต่อการเริ่มต้นอาชีพทำการเกษตร