บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS รายงาน และงบการเงินรวม 31 ธันวาคม 2559 ปรากฏว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 3,001 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.46 บาท ลดลงถึง 12,708 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 15,710 ล้านบาท ในปี 2558 และกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลง 1.77 บาท เมื่อเทียบกับ 2.23 บาท ในปี 2558
พร้อมกันนี้ ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 24 มี.ค.60 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พ.ค.60
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ว่าผลประกอบการของบริษัท และบริษัทย่อยในปี 59 มีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 15,991 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 58 ซึ่งรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 14,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,423 ล้านบาท คิดเป็น 10% ซึ่งเป็นรายได้จาก TTTB จำนวน 15,130 ล้านบาท คิดเป็น 94.6% ของรายได้รวมจากการดำเนินงาน แต่กำไรสุทธิปี 59 อยู่ที่ 3,002 ล้านบาท เทียบกับปี 58 ที่มี 15,710 ล้านบาท (รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนสุทธิ จำนวน 13,218 ล้านบาท) เนื่องจากมีค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด (JASMBB) จำนวน 841 ล้านบาท, ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 105 ล้านบาท, สำรองหนี้สงสัยจะสูญ และหนี้สูญของบริษัทย่อย จำนวน 279 ล้านบาท, สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ บมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) จำนวน 59 ล้านบาท และสำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท จำนวน 12 ล้านบาท ในปี 59 TTTB ได้ส่งมอบทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ครบทั้งจำนวนแล้วในเดือน พ.ย. ซึ่งมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน จำนวน 2,160 ล้านบาท
ขณะที่ TTTB ลงทุนในอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อขยายธุรกิจในปี 59 ได้แก่ เส้นใยแก้วนำแสง สายทองแดง ยานพาหนะ และอื่นๆ ซึ่งคิดค่าเสื่อมราคาตามอายุการใช้งานตั้งแต่ปี 52-59 เป็นเงินทั้งสิ้น 2,612 ล้านบาท
กรณีดังกล่าว นายศุภชัย ปัญญาวัฒโน ในฐานะผู้สอบบัญชี แสดงความเห็นหลังการตรวจสอบการรับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัท โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลบัญชีรายได้เพื่อตรวจสอบความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นของรายการขายตลอดรอบระยะเวลาบัญชี โดยเฉพาะรายการบัญชีที่ทำผ่านใบสำคัญทั่วไป และทดสอบการคำนวณรายได้รับล่วงหน้าจากการให้บริการว่า
1.ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 33.10 เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่บริษัทย่อยไม่สามารถดำเนินการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 900 MHz ซึ่งในระหว่างปี บริษัทย่อยได้ชำระค่าความเสียหายต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว
2.เหตุการณ์ต่างๆ ของบริษัทย่อยกับบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง
2.1 การชำระยอดคงค้างจำนวนประมาณ 877 ล้านบาท และสัญญาให้บริการวงจรเช่า ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 10
2.2 คดีฟ้องร้อง และข้อพิพาทต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 33.8
3.ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 33.5 เกี่ยวกับการส่งมอบงานล่าช้ากว่าสัญญาของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินตามสัญญา จำนวน 31 ล้านบาท และค่าปรับล่าช้าตามสัญญาเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 0.2 ของวงเงินตามสัญญา
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.42 น. ราคาหุ้น JAS ปรับตัวลงมา 3.16% หรือลดลง 0.30 บาท มาอยู่ที่ 9.20 บาท จากราคาเปิด 9.60 บาท
พร้อมกันนี้ ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 24 มี.ค.60 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พ.ค.60
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ว่าผลประกอบการของบริษัท และบริษัทย่อยในปี 59 มีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 15,991 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 58 ซึ่งรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 14,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,423 ล้านบาท คิดเป็น 10% ซึ่งเป็นรายได้จาก TTTB จำนวน 15,130 ล้านบาท คิดเป็น 94.6% ของรายได้รวมจากการดำเนินงาน แต่กำไรสุทธิปี 59 อยู่ที่ 3,002 ล้านบาท เทียบกับปี 58 ที่มี 15,710 ล้านบาท (รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนสุทธิ จำนวน 13,218 ล้านบาท) เนื่องจากมีค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด (JASMBB) จำนวน 841 ล้านบาท, ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 105 ล้านบาท, สำรองหนี้สงสัยจะสูญ และหนี้สูญของบริษัทย่อย จำนวน 279 ล้านบาท, สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ บมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) จำนวน 59 ล้านบาท และสำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท จำนวน 12 ล้านบาท ในปี 59 TTTB ได้ส่งมอบทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ครบทั้งจำนวนแล้วในเดือน พ.ย. ซึ่งมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน จำนวน 2,160 ล้านบาท
ขณะที่ TTTB ลงทุนในอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อขยายธุรกิจในปี 59 ได้แก่ เส้นใยแก้วนำแสง สายทองแดง ยานพาหนะ และอื่นๆ ซึ่งคิดค่าเสื่อมราคาตามอายุการใช้งานตั้งแต่ปี 52-59 เป็นเงินทั้งสิ้น 2,612 ล้านบาท
กรณีดังกล่าว นายศุภชัย ปัญญาวัฒโน ในฐานะผู้สอบบัญชี แสดงความเห็นหลังการตรวจสอบการรับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัท โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลบัญชีรายได้เพื่อตรวจสอบความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นของรายการขายตลอดรอบระยะเวลาบัญชี โดยเฉพาะรายการบัญชีที่ทำผ่านใบสำคัญทั่วไป และทดสอบการคำนวณรายได้รับล่วงหน้าจากการให้บริการว่า
1.ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 33.10 เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่บริษัทย่อยไม่สามารถดำเนินการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 900 MHz ซึ่งในระหว่างปี บริษัทย่อยได้ชำระค่าความเสียหายต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว
2.เหตุการณ์ต่างๆ ของบริษัทย่อยกับบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง
2.1 การชำระยอดคงค้างจำนวนประมาณ 877 ล้านบาท และสัญญาให้บริการวงจรเช่า ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 10
2.2 คดีฟ้องร้อง และข้อพิพาทต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 33.8
3.ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 33.5 เกี่ยวกับการส่งมอบงานล่าช้ากว่าสัญญาของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินตามสัญญา จำนวน 31 ล้านบาท และค่าปรับล่าช้าตามสัญญาเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 0.2 ของวงเงินตามสัญญา
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.42 น. ราคาหุ้น JAS ปรับตัวลงมา 3.16% หรือลดลง 0.30 บาท มาอยู่ที่ 9.20 บาท จากราคาเปิด 9.60 บาท