อดีต ส.ส. กทม. ปชป. แนะ นายกฯใช้ ม.44 หรือออกมติ ครม. เข้มดูงานต่างประเทศ ไม่ใช่แค่สั่งลอย ๆ ปูดองค์กรอิสระไปดูงานที่ไม่เกี่ยวข้อง จี้แจงสื่อ ไม่งั้นเจอชงเรียกดูงบบินดูงานย้อนหลัง ดักใช้เงินหลวงก็ไม่ต่างราชการ เลี่ยงบาลีไม่ได้ แฉมักจัดหลักสูตรตลอดเชิญบุคคลระดับสูงเพื่อผลประโยชน์
วันนี้ (24 เม.ย.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายห้ามข้าราชการไปดูงานต่างประเทศ หรือหากหน่วยงานใดเดินทางไปต้องมีการเขียนรายงานชี้แจงทุกครั้งว่าเกิดประโยชน์ด้านใดกับประเทศ แต่ปรากฏว่า มีหลายหน่วยงานที่ยังมีการเดินทางไปต่างประเทศกันอย่างเอิกเกริก เช่น กรุงเทพมหานคร องค์กรอิสระ และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอ้างว่าไม่ใช่ข้าราชการ และนโยบายดังกล่าวบังคับใช้เฉพาะปี 2557 เท่านั้น จึงสามารถทำได้ ดังนั้น ตนเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจมาตรา 44 หรือออกมติ ครม. กำหนดว่าหน่วยงานใดบ้างที่ไม่ให้เดินทางไปดูงานต่างประเทศ และหากไปจะต้องทำรายงานส่งหนึ่งใคร เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงคำสั่งลอย ๆ ไม่มีการระบุรายละเอียด จึงเปิดช่องให้หลายหน่วยงานนำไปเป็นข้ออ้างเลี่ยงได้
นายวิลาศ กล่าวว่า ล่าสุด ตนได้รับเอกสารกำหนดการพานักศึกษาหลักสูตรอบรบคณะหนึ่งประมาณ 200 คน ไปดูงานต่างประเทศขององค์กรอิสระแห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยเดินทางไปยัง 3 ประเทศ คือ ไอร์แลนด์เหนือ เวลส์ และ อังกฤษ ระหว่างวันที่ 15 - 25 ก.ค. หมายงานส่วนใหญ่ระบุว่าไปศึกษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานแต่อย่างใด อาทิ ไปดูงานศาลฎีกาไอร์แลนด์เหนือ ชมคุกเก่าแก่ที่เมืองกลอสเตอร์ ไปบิสเตอร์ เอาต์เลต วิลเลจ ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษ เชื่อว่า ดังนั้น ตนจะขอให้องค์กรอิสระนี้เปิดเผยรายละเอียด จุดประสงค์ที่ไปให้สื่อมวลชนรับทราบเพื่อช่วยวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมด้วย หากไม่ดำเนินการตนจะขอใช้พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อเรียกดูข้อมูลการใช้งบประมาณเดินทางไปดูงานในต่างประเทศย้อนหลังไป 2 ปี ขององค์กรนี้ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวมีการไปดูงานถึง 15 ประเทศ แต่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่เพียง 2 ประเทศเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ องค์กรอิสระแห่งนี้พึ่งเดินทางไปเกาหลี และกลับจากทริปเดือน ก.ค. แล้ว ยังมีกำหนดจะไปรัสเซีย ตุรกีร์ ลิธัวเนีย และ ลัตเวีย อีกแต่ยังไมได้กำหนดรายละเอียดและวันเดินทาง และตนกำลังจะตรวจสอบทริปก่อนหน้านี้ที่ไปสวิสเซอร์แลนด์ โดยอ้างว่าไปศึกษาดูงานตามสถานที่ราชการ แต่กลับไปช่วงวันชาติที่สถานที่ทุกแห่งปิดหมดทำได้แต่ไปเที่ยวเท่านั้น จึงตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางไปดูงานใช้เงินหลวงหรือไม่ หากใช้ก็ไม่ต่างกับหน่วยงานอื่น ๆ ในราชการ ก็ไม่สามารถเลี่ยงบาลีได้
“จะเห็นว่าองค์กรอิสระมักจะจัดหลักสูตรอบรบออกมาตลอด โดยจะเชิญแต่บุคคลที่มีตำแหน่งระดับสูง หรือเอกชนที่ร่ำรวยเพื่อเรียกเก็บเงินก้อนโต และหน่วยงานที่มักจะได้รับเชิญทุกครั้งเพื่อมุ่งผลประโยชน์เป็นหลัก เช่น การบินไทยเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องน้ำหนัก การท่าอากาศยานเพื่ออำนวยความสะดวกที่สนามบิน ผมหวังว่าท่านนายกฯจะใช้อำนาจเด็ดขาดกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่พูดไปวันๆ เพราะเป็นการใช้งบแผ่นดินที่ไม่เหมาะสม และการจะปราบทุจริตได้ผลจริงไม่ใช่อยู่ที่ร่างรัฐธรรมนูญแต่อยู่ที่คนมากกว่า” นายวิลาศ กล่าว