xs
xsm
sm
md
lg

“มีชัย” ปรามเขียน รธน.ปราบโกงเอาสะใจไม่ได้ เมินให้อำนาจองค์กรอิสระเบ็ดเสร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (แฟ้มภาพ)
ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยัน กรธ.ไม่ได้เน้นเขียนปราบโกง แต่แค่นี้ฝ่ายการเมืองก็จะขย้ำอยู่แล้ว ปราม “วิชา” จะเอาสะใจอย่างเดียวไม่ได้ ชูให้สภาฯ เปิดซักฟอกตรวจสอบโกง ระบุเขียนรัฐธรรมนูญให้ชาวบ้านร่วมเต็มที่ รับให้อำนาจองค์กรอิสระเบ็ดเสร็จจะแย่กันไปใหญ่ นึกไม่ออกให้ประชาชนฟ้องรัฐยังยั้งความเสียหายจะวุ่นวายขนาดไหน ส่วนตั้งศาลวินัยคลังรอ สตง.ทำให้ชำนาญก่อน ขณะที่ศาลทุจริตมีหรือไม่ก็ได้ ปัดแก้ห้าม ส.ส.แปรญัตติงบ ชี้เหมือนของปี 40 แค่ใส่โทษลงไป ย้ำมีบทลงโทษพรรคให้คนนอกสั่ง

วันนี้ (26 ก.พ.) ที่สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ เมื่อเวลา 13.00 น.นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงเรื่อง “รัฐธรรมนูญกำจัดคอร์รัปชันอย่างไร” ตอนหนึ่งว่า กรธ.ไม่ได้ชูประเด็นเรื่องการปราบโกง แต่ที่คนพูดกันมากเพราะ ไปดูในเนื้อหาทำให้คนคิดว่าเราเน้นที่การปราบโกง ส่วนกรณีที่นายวิชา มหาคุณ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าการปราบทุจริตอ่อนเกินไป มีแต่คำเตือนไม่มีสภาพบังคับนั้น นายวิชาอาจต้องการให้ใส่เพิ่มเติม เช่น บทลงโทษ หรือขย้ำผู้กระทำผิดไปเลย แต่ กรธ.มองในแง่การเมืองเพราะทุกวันนี้เขาก็รับไม่ได้ โดยมองว่าองค์กรอิสระเข้ามาก้าวก่ายและทำงานไม่ได้ ในร่างทั้งฉบับเราไม่ได้ยึดถือเรื่องเดียว เราจะเอาแค่ความสะใจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูทั้งองคาพยพว่าจะทำงานอย่างไรและไม่ให้ติดขัด ไม่ใช่ให้อำนาจ 3 องค์กรอิสระที่ประกอบด้วย ป.ป.ช. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้ตูมไปเลย เพราะคดีต่างๆ จะไม่สามารถเอาใครไปชี้ได้เว้นแต่ศาลเพียงอย่างเดียว

นายมีชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ กรธ.ยังวางกลไกไว้ช่วยกำกับ คือ สภาผู้แทนราษฎร หากเห็นว่ารัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้องก็สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากปล่อยไว้ไม่ทำอะไรก็อาจตกถนนไปด้วยกันหมด ตนเชื่อว่ากลไกที่มีอยู่เหล่านี้สามารถตรวจสอบเรื่องการทุจริตของรัฐบาลได้ ส่วนกรณีที่นายวิชามองว่ารัฐธรรมนูญนี้รัฐเป็นใหญ่ละเลยประชาชน ตนขอเรียนว่ารัฐธรรมนูญนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมหลายช่องทาง อาทิ เปิดเผยข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ กำหนดหน้าที่ประชาชนส่งเสริมให้ช่วยตรวจสอบและชี้เบาะแสการทุจริต รวมทั้งให้ ป.ป.ช.ส่งเสริมให้ประชาชนตั้งองค์กรเพื่อร่วมในการจับโกง โดยที่ประชาชนจะได้รับการคุ้มครองจากภาครัฐ ส่วนรายละเอียดจะไปอยู่ในกฎหมายลูก ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรอิสระได้ เพราะแต่ละองค์กรต่างขออำนาจแบบเบ็ดเสร็จ คือไต่สวนและฟ้อง ซึ่งมองว่ามันจะแย่กันไปใหญ่เพราะต่างคนต่างทำงาน

นายมีชัยกล่าวต่อถึงข้อเสนอนายวิชาที่เสนอให้ประชาชนสามารถฟ้องรัฐบาลเพื่อยับยั้งความเสียหายในการบริหารประเทศได้ว่า ตนนึกไม่ออกเพราะประชาชนมีประมาณ 70 ล้านคน หากมีประชาชนทีละ 1-2 หมื่นคนไปฟ้องรัฐบาล แต่รัฐบาลไม่ฟังจะเกิดความวุ่นวายขนาดไหน แต่ละคนไปฟ้องรัฐบาลจะทำงานกันอย่างไร ส่วนข้อเสนอของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ให้จัดตั้งศาลคดีวินัยการคลังและงบประมาณ ขณะนี้ สตง.ทำหน้าที่ตรวจสอบและวินิจฉัยและมีอำนาจลงโทษผู้กระทำผิดอยู่แล้ว รวมทั้งหากไม่ปฏิบัติตามก็สามารถส่งให้ศาลปกครองที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ตนอยากให้แนวทางดังกล่าวนี้ไปพลางๆ ก่อน หากมีความชำนาญก็ค่อยไปตั้งศาลดังกล่าวในภายหลังก็ได้ และยอมรับว่ากลไกปราบทุจริตที่มีอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. ฝ่ายการเมืองก็จะขย้ำตนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าควรมีศาลทุจริตหรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเรื่องนี้ จะมีหรือไม่ก็ได้ หากมีก็ไปออกกฎหมายจัดตั้งศาล ดังเช่น ศาลแรงงาน หรือศาลทรัพย์สินทางปัญญาก็ไม่ได้เขียนในรัฐธรรมนูญ เพราะหากเขียนในรัฐธรรมนูญจะเป็นอะไรที่ตายตัวแก้ไขได้ยาก

นอกจากนี้ นายมีชัยยังได้ชี้แจงกรณีรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดการแปรญัตติห้าม ส.ส.นำเงินงบประมาณไปใช้ และจะส่งผลให้ ส.ส. ส.ว.และรัฐบาลทำงานไม่ได้ว่า กรธ.ไม่ได้เปลี่ยนบทบัญญัตินี้เลย มีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 แต่เราได้เติมไปว่าถ้าขืนทำจะได้รับโทษอะไรซึ่งเป็นสภาพบังคับ และที่มาถามว่ารัฐบาลจะบริหารราชการยังไง อยากถามว่า ที่ผ่านมา 20 ปีบริหารมาได้อย่างไร

เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญไม่มีกลไกการป้องกันการส่งนอมินีเข้าสู่การเมืองแทนตัวเอง นายมีชัยยืนยันว่า มีบทบัญญัติลงโทษพรรคการเมือง ไม่ให้คนอื่นใดเข้ามาสั่งหรือทำงานภายใต้คำสั่งของคนที่ไม่ได้อยู่ในพรรค รวมทั้งยังมีบทบัญญัติให้ฝ่ายการเมืองทำงานเป็นอิสระไม่อยู่ภายใต้อาณัติของใคร ถือเป็นการป้องกันนอมินี แต่จะให้เขียนว่าห้ามนอมินีมาสมัครรับเลือกตั้งคงเป็นไปไม่ได้ แต่สามารถตรวจสอบพฤติกรรมได้ในภายหลัง หากเป็นเช่นนั้นก็จะมีความผิด


กำลังโหลดความคิดเห็น