xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” จี้ ผู้มีอำนาจเลิกขู่ เปิดใจฟังเห็นต่างแสดงความเห็นเต็มที่ใต้กรอบ กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รองหัวหน้าพรรค ปชป. ย้อนผู้มีอำนาจไม่ควรใช้อารมณ์โต้แถลงจุดยืนคว่ำร่าง ปชป. ยกสังคม ปชต. เห็นต่างเรื่องปกติ ไม่ใช่แตกแยกเป็นศัตรู ชี้ รธน. ปชช. ควรมีโอกาสแสดงออกเต็มที่ใต้กรอบ กม. ควรเปิดใจมากกว่าข่มขู่ แนะประชามติควรเสรี กันเกิดปัญหา

วันนี้ (17 เม.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงจุดยืนที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ และการออกเสียงประชามติอย่างชัดเจน 4 ประการ คือ

1. ประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย กับร่างรัฐธรรมนูญที่มีข้อเสียมากกว่าข้อดี

2. ประชาธิปัตย์ ไม่รับคำถามพ่วง ที่ให้อำนาจ ส.ว. เลือก นายกรัฐมนตรีได้ ในระยะ 5 ปี

3. เรียกร้อง คสช. ระบุให้ชัดเจนว่า หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติประชาชนจะได้อะไร

4. กกต. ต้องเร่งทำประชามติ ให้ความเสรีและเป็นธรรม

ปรากฏว่า ได้มีผู้มีอำนาจในบ้านเมืองหลายท่านได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ตอบโต้แบบใช้อารมณ์ผสมการข่มขู่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองย่อมมีสิทธิที่จะไม่พอใจจุดยืน และความคิดเห็นที่แตกต่างจากตน แต่ผู้มีอำนาจไม่ควรใช้อารมณ์ตอบโต้ เพราะเมื่อใดที่ใช้อารมณ์ก็จะไปบดบังสติปัญญาที่เป็นเหตุเป็นผล ทำให้ไม่ได้พิจารณาเนื้อหาสาระของความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างถ่องแท้

นายองอาจ กล่าวว่า ในสังคมประชาธิปไตยการที่คนมีจุดยืนความคิดเห็นที่แตกต่างกันย่อมเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความแตกแยก ขัดแย้ง รุนแรง ที่ต้องใช้อารมณ์ เข้าหากันแต่อย่างไร เพราะถึงแม้จะมีจุดยืน ความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นศัตรูกัน โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด ที่จะใช้กับคนไทยทั้งประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนคนไทยทุกภาคส่วนควรได้มีโอกาสแสดงออกอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ส่วนใครที่ละเมิดกฎหมายก็จัดการเอาผิดตามกฎหมายได้อยู่แล้ว ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองจึงควรเปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสุขุมคัมภีรภาพน่าจะเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากกว่าที่จะใช้ท่าทีที่ปิดกั้น ข่มขู่ ผู้เห็นต่าง

ส่วนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศ จะได้มีส่วนกำหนดอนาคตของประเทศ ผ่านการทำประชามติ ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย กับร่างฉบับนี้นั้น ผู้มีอำนาจควรสนับสนุนให้การทำประชามติเป็นไปอย่างเสรี และ เป็นธรรม ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย เพราะถ้ากระบวนการประชามติ มีปัญหาไม่เสรี และเป็นธรรม ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองตามมาอีกมากมาย ที่สำคัญที่สุด คือ อาจจะทำให้ไม่ยอมรับผลประชามติอีกด้วย

“อยากเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ควรละเว้นการใช้อารมณ์ ข่มขู่ คุกคาม ทุกรูปแบบ เพื่อช่วยกันผลักดันให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างที่ควรจะเป็น!” นายองอาจ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น