เมืองไทย 360 องศา
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอากาศร้อนจนเกินเหตุหรือเปล่าไม่อาจคะเนได้ ถึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มักมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย หงุดหงิดบ่อยจนผิดปกติกว่าที่เคยเป็น หรือว่านี่คือแท็กติกใหม่ หรือมุกใหม่ที่มักนำมาใช้ยุติการตั้งคำถามรุกไล่ในบางประเด็นร้อนที่ตัวเองรู้สึกอึดอัด ขณะเดียวกัน วิธีการที่ทะเลาะ หรือ “ด่านักข่าว” แบบนี้มันดันเรตติ้งให้กับชาวบ้านบางกลุ่มที่ร้องซี๊ดซ๊าดทุกทีที่เห็นอารมณ์และคำพูดหงุดหงิดใส่นักข่าวผ่านจอทีวี
อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันแบบจริงจังก็ต้องมาประเมินกันว่ามันต้องมี “บางเรื่อง” ที่เป็นสาเหตุทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอารมณ์หงุดหงิดได้จริง ๆ ซึ่งหากจับอาการจากคำพูดของเขาที่กล่าวออกมาก่อนหน้านี้ทั้งก่อนที่จะไปเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อประชุมเกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และระหว่างอยู่ที่นั่นก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศในทำนองว่า “ถูกพวกหนีคดี หนีคุก” ในต่างประเทศใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาว่า เขาและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง ถึงขั้นอุ้มฆ่า ใช้ถุงดำครอบหัวทรมานผู้ที่คิดต่างอะไรประมาณนี้ และมีเหยื่อนับพันคนแล้ว โดยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศกล่าวในทำนองตัดพ้อว่าชอบฟังและเชื่อถือแต่กับพวกหนีคุกหนีคดีในต่างประเทศเท่านั้น แต่ทีการชี้แจงของฝ่ายรัฐบาล และ คสช. กลับไม่ค่อยฟัง
ถ้าฟังจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงเรื่องดังกล่าวก็ต้องบอกว่าถ้าเป็นใครก็ต้องโมโหจนควันออกหูเหมือนกัน เพราะนี่ถือว่าเป็นการบิดเบือน โกหกกันอย่างร้ายกาจที่สุด และถึงแม้ว่าฝ่ายที่ไม่ชอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติรวมทั้งรัฐบาลชุดนี้แค่ไหนก็ตามแต่ตามข้อมูลดังกล่าว มันถือว่าใช้ไม่ได้ และที่สำคัญ มันไม่ควรเกิดขึ้นในโลกของยุคการสื่อสารแบบนี้ นอกจากมีเจตนาสุมหัวกันทำลายบ้านของตัวเอง และสร้างภาพ “เผด็จการ คสช.” ไปอีกแบบหนึ่ง โดยเชื่อว่าต้องมีการจ้างสื่อต่างชาติมาร่วม “สุมหัว” ด้วยอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหากพิจารณากันอย่างเข้าใจมองในฝั่งของ ทักษิณ ชินวัตร กันบ้าง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้อง “เร่งเกม” ต้องทำแบบนี้ ประเภท “ยิ่งป่วน” ได้ยิ่งดี เพื่อนำไปสู่การบั่นทอนทำลายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีทางไหนที่พวกเขาทำได้เขาก็ต้องทำ
หากพิจารณาจากอนาคตที่รออยู่ข้างหน้าเอาเฉพาะเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างโดย มีชัย ฤชุพันธุ์ หากผ่านการลงประชามติตามโรดแมปที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 7 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ มันก็คือ “หายนะ” ของพวกเขาดี ๆ นี่เอง เพราะด้วยคุณสมบัติที่ปิดทาง ทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงน้องสาวที่เคยกำหนดเอาไว้เป็น “นอมินี” อย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะมีชะตากรรมที่ไม่ต่างกัน นี่ว่ากันเฉพาะการ “ปิดทางเข้าสนามการเมืองตลอดชีวิต” ยังไม่ต้องพูดถึงคดีอาญาที่เป็นชนักปักหลังอีกเป็นพรวน
ที่สำคัญ ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปีนี้ ก็ยิ่งตายสนิท เพราะบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่มีโอกาสให้พรรคเพื่อไทยของเขาสร้างปาฏิหาริย์จากการเลือกตั้งได้เลย เพราะด้วยกลไกของวุฒิสภาที่กำหนดให้มาจากการสรรหา(แต่งตั้ง)โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ แม้ว่าจะอ้างว่าไม่มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯร่วมกับสภาผู้แทนฯ แต่ก็สามารถร่วมกับสภาผู้แทนฯโหวตยกเว้นข้อบังคับการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราในเรื่องการเลือกนายกฯนอกบัญชีของพรรคการเมือง
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ กำลังสร้างกระแสแบบโยนหินถามทาง “ก้อนโต” จะพ่วงคำถามกับประชาชนให้ “ไฟเขียววุฒิสภาร่วมโหวตเลือกนายกฯหรือไม่” ในช่วงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งถ้าหวยออกมาแบบนี้ทั้งประเภทรัฐธรรมนูญในบทถาวรและบทเฉพาะกาลช่วงที่อ้างว่า “เปลี่ยนผ่านแค่ 5 ปี” เรียกว่าอ่วมยกกำลังสอง
นั่นคือ ดาบอันคมกริบที่ฟาดฟันใส่ ทักษิณ ชินวัตร และบรรดาคนที่มีประวัติประพฤติมิชอบทั้งปวง และเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มและปัจจัยรอบตัวที่สัมผัสได้ในเวลานี้ รวมไปถึง “กฎเหล็กอันเข้มข้น” ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมันก็มีโอกาสที่จะผ่านประชามติสูงมาก และแม้ว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดไม่ผ่านก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะมีการแสดงท่าทีออกมาล่วงหน้าแล้วว่าจะนำเอาร่างฉบับปัจจุบันนี้คือ “ฉบับมีชัย” มาปรับแก้แล้วประกาศใช้ ซึ่งอาจปรับให้เข้มกว่าเดิมเหมือนกับที่เคยมีการพูดกันว่าอาจถึงขั้น “หงายหลัง” เลยก็ได้
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาของรัฐธรรมนูญทั้งในบทถาวรและบทเฉพาะกาล รวมไปถึงแนวโน้มว่าน่าจะผ่านสูงกว่าไม่ผ่าน หรือหากไม่ผ่าน คสช. ก็ยิ่งกินรวบมากกว่าเดิม มันก็ยิ่งทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องเร่งเกมป่วนให้มากกว่าเดิม และต้องทำทุกวิถีทาง อย่างในเวลานี้กำลังเร่งยั่วอารมณ์ สร้างความรำคาญให้บิ๊ก คสช. ล่าสุด ใช้มุก “แจกขันแดง” กวนประสาท ซึ่งทำเอาหัวหมุนไปเหมือนกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายอำนาจรัฐจะคุมเกมรักษาอาการเอาไว้ได้หรือไม่ เพราะหาก “ปรี๊ดแตก” ขึ้นมาก็น่าจะยุ่งเหมือนกัน เพราะเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีสารพัด “วิชามาร” โผล่ออกมาอย่างต่อเนื่องและถี่ยิบขึ้นเรื่อย ๆ !!