เรื่องดัง - ข่าวเด็ด /เขย่าสีกากี โดย “บิ๊กเกรียน”
ลากไส้ “อภิสิทธิ์สีกากี”ถูกดันเป็น “ผู้การหน้าห้อง”สมัยรัฐบาล “ ยิ่งลักษณ์” ถึงขนาด “เจ๊ปู”นั่งเป็นประธาน ก.ตร.ประเคนให้กับมือ /หลัง คสช.ยึดอำนาจ “เซียนอ๊อด”ไม่ยอมพลาด เดินรอยตาม แจกตำแหน่ง “ผู้การหน้าห้อง”ให้คนใก้ลชิดเป็นรายที่ 2 ก่อนยกเลิกกฎเพราะทหารเขม่น/ “บิ๊กเกรียน”เตือนคนกรุง ยุคข้าวยากหมากแพง ตำรวจเข้าเกียร์ว่าง ปล่อยให้โจรชุม กระชากกระเป๋า วิ่งราวสร้อย ลักรถ ยกเค้าบ้าน ไม่เว้นปล้นจี้
“ พงส.”คือพนักงานสอบสวน ทำสำนวนรับคดีห้ามหนีหาย ไม่ได้หยุด ไม่ได้พักถ้าไม่ตาย ต้องย้ายสายถึงจะพ้นบ่วงเวรกรรม คนเดียวเหมือนงาน “รับเหมา”เราทำหมด คิดแล้วชีวิตรันทดจนน่าขำ โดน“ศาล”บีบ “อัยการ”ไล่ ใช้ให้ทำ ต้นธารแห่งยุติธรรมน่าช้ำใจ มาเข้าเวรเมื่อไหร่ใจผวา พอชุดจับจับส่งมาพาใจหาย เวลาควบคุมตัวก็น้อยจะตาย “ไอ้อิ๊บอ๊าย”วันศาลหยุดพึงระวัง ทำอะไรต้องระวังห้ามพลั้งเผลอ หากมัวเก้อแล้วพลาดอาจโดนขัง รับเลขคดีมาแล้วจงระวัง “นาย”รอตั้งกรรมการบานตะไท ถึงออกเวรก็ใช่จะได้พัก ถ้างานหนักเวลาว่างห้ามไปไหนต้องอยู่เคลียร์ให้เสร็จเป็นเรื่องไป เดี๋ยวงานใหม่เข้ามาพาตาลาย คิดๆไว้ว่าจะไปนั่นจะไปนี่ งานเข้าทีหัวใจแทบสลาย ที่คิดไว้หมดกันพังทลาย เหนื่อยแทบตาย “นาย”ก็ไม่ให้ลา เวลานอนก็นอนไม่ค่อยหลับ เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาก็ผวา คิดไปก่อนไอ้เห้ไหน แมร่งโทรมา สอบถามว่า “เรื่องเป็นไง”ดูแลที คิดไปแล้วมันยุ่งยากน่าปวดหัว ยิ่งอยู่นานงานรัดตัวต้องย้ายหนี ถึงเวลารีบย้ายสายนายช่วยที ปลอล็อคหนีเมื่อไหร่ สุขีเอย......(ใครไม่เคยทำหน้าที่นี้ไม่มีวันเข้าใจ)......จาก ตำรวจไทยสายสอบสวน
00000.....สวัสดีครับ “บิ๊กเกรียน” เข้าประจำคีย์บอร์ดรายงานข่าวคราวการเคลื่อนไหวแวดวงสีกากีตามเคย ประจำทุกสุดสัปดาห์ ขอประเดิมด้วย “เสียความรู้สึก”ของ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ไม่เกี่ยวอะไรกับ “เสียความรู้สึก” เพลงฮิตในอดีตของ “พี่เป้า” สอ.ยอ.สอ.ยอ.สายัณห์ สัญญา แม้แต่น้อย...เฮ้อ....ก็แค่ 3 เดือนสมาคมผู้สื่อข่าว-ช่างภาพอาชญากรรม ไปให้ฉายา “ผบ.เสียทรง”ท่านก็ต้อง “เสียเซลฟ์”เป็นธรรมดา ยิ่งนักข่าวให้เหตุผลไม่มีผลงานต่างจากสมัยที่เป็นรองผบ.ตร. “แป๊ะ 8 โล”ก็เลย “ตอกกลับ”มันเป็นเรื่องกระจายอำนาจ และไว้วางใจให้ รองผบ.ตร.โชว์ความสามารถกันอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมเป็นตัวเลือกว่าที่ ผบ.ตร.คนต่อไป เรียกว่าเป็นยุคที่แฟร์มากที่สุดยุคหนึ่ง ต่างกับยุค “เซียนอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีตเจ้านายเก่าที่ “ชง”แต่ “แป๊ะน้องเลิฟ”เพียงคนเดียว ....55555...เอิ๊ก!!??..เหมือนจะดีแต่ “แหกตาคนแก่”มันไม่เท่ห์นะคุณพี่...ก็รู้ๆกันอยู่ทำให้ตายห่านเดี๋ยว “ผู้มีบารมี”ใน คสช.ก็ให้เลือก “ปู”
00000.....เถียงกันให้ตาย “บิ๊กเกรียน”ใช่ว่าฉายา “ผบ.เสียทรง”จะผิดฝาผิดตัวนะครัช “เสียทรง”ยังน้อยไป ถ้าลูกน้องมันบอกได้น่าจะเป็น “สิ้นศรัทธา” มากกว่า เหตุสำคัญไม่ใช่ “งาน”อยู่ที่ 2 เรื่องสำคัญคือ 1.กรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงจา ซึ่งในขณะนี้ลี้ภัยอยู่ประเทศออสเตรเลีย เรื่องที่ 2.คือกฎเหล็ก ก.ตร.รุ่น “ชักบันไดหนี”ที่กำลังครุกรุ่นเอาล่อเอาเถิดกันอยู่... นับว่าภาพลักษณ์ของ “บิ๊กแป๊ะ”เสียหายหลายแสน (มีเงินเป็นพันล้านก็ช่วยไม่ได้) เพราะบรรดาน้องๆ หรือผู้ใต้บังคับบัญชาเขาพากันข้องใจว่าหลักการที่ร่างกันมานั้นเกิดจากมันสมองของใคร ของท่านผบ.ตร. หรือของสต๊าฟฟาร์มโชคชัยที่ว่ากันว่าที่ปรึกษาใหญ่ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้คือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล คนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอีกคนคือ พล.ต.ต.จาตุรงค์ ภุมรินทร์ อดีตนายตำรวจคนดังผู้มีความใก้ลชิดสนิทสนมกับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.น้องชายยอดขมองอิ่มของ “ปู่ป้อม”
00000.....และหลักการ “ชักบันไดหนี”ใครคือคนได้ประโยชน์ ไม่ใช่การโยนไปยัง “บุญวาสนา” หรือยกกรณี พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ อดีตนายเวร พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว มาเทียบเคียงกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ท่องเที่ยว ผู้เป็นสุดยอด “อภิสิทธิ์”สีกากีอยู่ในเวลานี้....นี่คือเหตุผลที่แท้จริงของการ “เสียทรง-เสียศูนย์”อย่างรวดเร็ว “ความหวัง”ที่สูญสิ้นไปในยุค “เซียนอ๊อด”กลับมาพังทลายอย่างไม่เป็นท่า ซ้ำๆซากๆในยุค “บิ๊กแป๊ะ”ซึ่งเชื่อกันในเรื่องใจนักเลง เอาพรรคเอาพวกและไม่ทิ้งลูกน้อง แต่พอเข้าสถานการณ์ “ถึงพริกถึงขิง” ท่าน ผบ.ตร.ก็โดดเข้าสนองความต้องการของผู้มีอำนาจ สนับสนุน ส่งเสริม คนใก้ลชิดโดยไม่คิดว่าแท้จริงแล้วคนอื่นๆก็คือ “ลูกน้อง” เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่รอความเห็นใจ รอความเมตตาและความเป็นธรรมจาก “นายแป๊ะ-พี่แป๊ะ”เช่นกัน
00000.....อะไรที่ทำให้ท่านไม่เป็น “ตัวตน” หรือ “ตัวตน”ท่านก็เป็นแบบนี้ !!?? “คำถาม -คำตอบ”กระแทกหัวใจสาธุชนแวดวงสีกากีช่วยกันหาทางออก และโปรดติดตามตอนต่อไปเพราะไงเสีย “กฎเหล็กชักบันไดหนี”ยังคงเดินหน้า ทำนองไม่ได้วาเอาศอกก็ยังเอา... น่าเห็นใจก็แต่ตำรวจ “น้ำดี”ที่ตั้งใจทำงาน อย่าหมดกำลังใจกันเสียก่อน ไม่งั้นประชาชีคงอกไหม้-ใส้ขมต้องนอนหวาดระแวงกับภัยโจรผู้ร้าย สุดท้าย-ท้ายสุด “ผลกรรม”อันเป็น “ผลงาน”ของผู้มีอำนาจราชศักดิ์ และบรรดาสมุนลิ่วล้อที่ชักนำให้ “เห็นผิดเป็นชอบ”คนซวยอย่างแท้จริงก็คือลุงมา ป้าแม้น ไอ้ดำ อีแดง ชาวบ้านร้านตลาดที่ไม่มีปากมีเสียงแต่เสียภาษีให้ท่านๆได้กินได้ใช้กันทุกเดือน
00000.....พูดถึง พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ นรต.44 นายตำรวจหนุ่มน้อยหน้ามลที่ “บิ๊กแป๊ะ”ให้เกียรตินำชื่อมาเขย่าอีกครั้งเป็นการ “กันลืม”นั้น...อาทิชา เปาอินทร์ เป็นใครมาจากไหน “บิ๊กเกรียน”ไม่ต้องสืบเสาะให้เมื่อยตุ้ม นามสกุล “เปาอินทร์”การันตี ว่ากันว่าตระกูลนี้เป็นทหาร-ตำรวจสืบทอดมา 4 รุ่น “ปู่(ตา) - พ่อ - ลูก -หลาน” ปัจจุบันมีพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการณ์ หน.พรรคเพื่อไทย เป็นประมุขของตระกูล ”ลายแทง- บิ๊กแป๊ะ” ส่งมา “ตอกย้ำ”ให้เห็น ระบบอุปถัมภ์สีกากีมีกันมาช้านาน แถมทำกัน “ด้านๆ”ไม่เขิน ไม่อาย อดีตนายเวรฯพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ได้รับการสนับสนุนจาก “บิ๊กดุลย์”อย่างออกหน้าโดยขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นรอง ผบ.น.6 ครองตำแหน่งไม่ถึง 4 ปีผู้มีอำนาจจึงเปลี่ยนกฏที่เคยให้นายเวรฯ ผบ.ตร.มียศแค่ พ.ต.อ.เทียบเท่าตำแหน่ง รองผู้บังคับการ ขยับมากินยศ พล.ต.ต.หรือ ผบก. เมื่อวันที่26 ส.ค.จากการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2556 ที่ห้องประชุมสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ...ประเคนให้กันอย่างหน้าตาเฉย
00000..... “ยัง ยังไม่พอ” หลังยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เมื่อเข้าสู่ยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เป็นผบ.ตร. พ.ต.อ.นิรันทร์ เหลื่อมศรี (ยศขณะนั้น) นายตำรวจคนสนิทของ “เซียนอ๊อด”ได้รับ “อภิสิทธิ์”เป็น “ผู้การฯหน้าห้อง ผบ.ตร.”คนที่ 2ตามกันติดๆ แต่เกิดประเด็น “สีเขียว”ไม่สบอารมณ์เพราะ “นายเวรฯ” ผบ.เหล่าทัพ มียศแค่ พ.อ. เมื่อเป็นดังนั้น “เซียนอ๊อด”จึงทิ้งทวน หยุดตำแหน่ง “อภิสิทธิ์สีกากี”ในยุคของตน และกลับไปใช้กฏเกณฑ์เดิม จนมาถึงปัจจุบัน “หน้าห้อง” ผบ.แป๊ะ จึงมียศแค่ พ.ต.อ. เทียบเท่าตำแหน่ง รองผบก. “ไปๆมาๆ”บรรดาตำรวจเส้นดี มีปลอกคอ ไม่พ้นพวกลูกท่าน หลานเธอ หรือถ้าเป็น “ลูกตะปด”ยิ่งไปได้สวย เช่น “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล นรต.47 “นำโด่ง”ทิ้งรุ่นเดียวกันขาด....เมื่อแฉให้เห็นภาพกันขนาดนี้ ทุกคำพูดของ ผบ.แป๊ะ...ทุกเหตุผลที่แย้งมานั้น ดูแถๆไถๆไงไม่รู้...แถมตัวท่านเองก็เคยได้รับอานิสงส์วนๆเวียนๆ เป็นสมบัติผลัดกันชม...พูดมาก “เข้าเนื้อ”นิ่งๆเป็นตำลึงทองจะดีกว่า(มั้ง)
00000...เอ้า.....ก็ไหนว่ายุคนี้กำลังปฏิรูปประเทศ...ก็ไหนว่ายุคนี้กำลังเตรียมปฏิรูปตำรวจ....อะไรที่นักการเมืองชอบทำ อะไรที่เคยกระชาก-ลากไส้ใครไว้ก็อย่าไปเลียนแบบเขา ถ้าเห็นพฤติการณ์รุ่นพี่ที่ทำไว้ ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมท่านก็อย่า “ตามรอย” แต่ที่หนักสุด และน่าเป็นห่วงที่สุดก็คือขณะนี้องค์กรตำรวจกำลังจะล่มสลาย ในฐานะผ่าน “ศึกเหนือ-เสือใต้”มาอย่างโชกโชน ไม่คิดจะนั่งจับเข่าคุยกับผู้ยิ่งใหญ่กันบ้างหรือ..ทำไงก็ได้อย่าให้องค์กร “แตก”...ที่เห็น...ที่เป็นไป...ทั้งพนักงานสอบสวน ตบเท้าขอแยกตัว และเสียงกร่นด่าจากกฎเหล็กชักบันไดหนี....บ่งตงไม่รุ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขวัญใจประชาชนทนได้ไง !!??
00000.....หลายวันก่อนเกิดข่าวลือ (ว่าจะจริง) ย้ายสลับ 4 เส้า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ถูกแซะเก้าอี้โยกไปเป็น ผบช.ภ. 1 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย “บิ๊กช้าง” ย้ายไปเป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม เป็น ผบช.ภ.7 และให้ “บิ๊กหยม” นรต. 2 รุ่น นรต.35 จบ นรต.36 มาเป็นเจ้าพ่อนครบาล “ลือหึ่ง”ตั้งแต่เช้าวันอังคาร จน “บิ๊กแป๊ะ”ต้องออกมายืนยันเป็น “ข่าวลือ” ประสาคนขี้สงสัย “บิ๊กเกรียน”มองว่าไม่มีมูลหมาไม่ขี้ ไม่มีทรายแมวไม่อึ...ว่าไปแล้วตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล”ที่ใครๆก็อยากมานั่ง อยากมาเป็นนั้น วันนี้ไม่มีอะไรน่าพิศวาสอีกต่อไปแล้ว....หมดยุคทอง หมดยุคเงิน มีแต่งานๆๆๆ และเสี่ยงกับทุกสถานการณ์ ทั้งก่อวินาศกรรม หรือกระทั่งกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง “บิ๊กเกรียน”ได้ข่าว 2 รูหูระบุ “แป๊ะ นครบาล”ออกอาการ “ถอดใจ” ไหนจะงานเยอะ “เจ้านาย”สายตรงยังไม่ยอมให้นั่งเต็มก้น แถมคาคโทษให้แก้ปัญหาจราจร กทม.ภายใน 2 เดือน...แล้วจะอยู่ไปทำไมล่ะ...วันนี้เป็นเพียง “ข่าวลือ”แต่วันหน้า “ไม่แน่” จับตา “บิ๊กหยม” ตำรวจ 2 รุ่นให้ดีๆ
00000.....ไม่ว่า “แป๊ะ ไปหรือ หยม จะมา”อย่าลืมทุกข์-สุขคนกรุงเทพฯ บัดนี้เข้าสู่ยุคโจร “ครองเมือง”อย่างเต็มรูปแบบแล้ว หาดูได้คลิปต่างๆในโลกโซเขียลฯมีทั้งกระชากกระเป๋า วิ่งราวสร้อย ขโมยรถจักรยานยนต์ เหยื่อบางรายซวย 2 เด้งเช่นคุณป้ารายหนึ่งถูกกระชากกระเป๋าขณะนั่งซ้อน จยย.รับจ้าง ตกลงมาหัวฟาดถนนอาการโค่ม่าเป็นตายเท่ากัน ติดๆกันหนุ่มออฟฟิสออกไปทำงานเจอชิงมือถือถูกไอ้วายร้ายรุมกระทืบสลบคาตีน เหตุเกิดปากทางลาดพร้าว สน.พหลโยธิน แล้วก็ “งามหน้า”ชาวบ้านลาดพร้าว ซอย 1 ขึ้นป้ายระวังโจรกระชากสร้อย ทุกข์ทรมานกับเรื่องปากท้อง ทำมาหากินไม่พอยังต้องเจอภัยโจรผู้ร้าย ร้านของชำกระจอกงอกง่อยเจอจี้กลางวันแสกๆ บ้านพักอาศัยมีรั้วรอบขอบชิดถูกยกเค้าซ้ำแล้วซ้ำอีก กระทั่งรถจอดข้างถนนเผลอไม่ได้มีทั้งขโมยยกคัน หรือปราณีหน่อยมันทุบกระจกเอาทรัพย์สิน “บิ๊กเกรียน”วิงวอนผู้มีอำนาจ หยุดกระทำการ “ต้มยำทำแกง”องค์กรตำรวจ กันเสียที...นี่แหละที่เขาเรียกว่า “เข้าเกียร์ว่าง”โดยมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของชาวบ้านเป็นตัวประกัน..ส่วนบ้าน “คนรวย”โดนโจรกรรมรายละ 10 ล้าน 20 ล้านมีตำรวจน้อย-ใหญ่ออกมาเต้น...บ่งตง... เห็นแล้วโคตรทุเรศเลยครับทั่น !!??