xs
xsm
sm
md
lg

แฉแผนลึกดัน"ลูกเขย"ผู้ยิ่งใหญ่ ค้ำถ่อเป็น "นายเวรรองผบ. ตร."

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ท่ามกลางเสียงนินทากันกระฉ่อนแวดวง “สีกากี” เหตุที่ผู้บริหารไม่ทำให้เหมือนกันทุกตำแหน่ง ไม่มีดับเบิ้ลสแตนดาร์ด ก็เพราะลูกเขยผู้มีอำนาจครบแตะเส้นตาม กฎ ตามระเบียบ ก.ตร.เป๊ะพอดี จะขยับตำแหน่งสูงขึ้น โดยจะไปแปะชื่อเป็น “นายเวร” ผู้บังคับบัญชาระดับ “รองผบ.ตร.” รายหนึ่ง เทียบเท่า “ผกก.”

ดูท่าน่าจะชัดเจน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นโยบายบวก 1 หรือชักบันไดขึ้น 1 ขั้น ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ระดับ “นายพัน” ยศ “พ.ต.ต.-พ.ต.อ.” ตำแหน่ง สารวัตร(สว.) - รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ทั่วประเทศ ประจำปี 2558 ยุค “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นั่งกุมบังเหียน “ผู้นำกรมปทุมวัน” ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกกองบัญชาการต้องรับปฏิบัติอย่างฝ่าฝืนไม่ได้

อีกด้านหนึ่งจากในการประชุมคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงแก้ไข กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง ที่ฝ่ายทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำลังพล ทุกกองบัญชาการและหน่วยขึ้นตรง สง.ผบ.ตร. เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ได้เสนอแก้ไขกฎ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งใดๆ

และต่อมา ในคำสั่งที่พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) ทำบันทึกด่วนที่สุด ที่ 0009.231/10239 ส่งถึง ผบช.หรือเทียบเท่า ผบก.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ในสังกัด สง.ผบ.ตร. เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

เนื้อหาคร่าวๆ ระบุ เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึง รองผบก. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบข้อมูลด้านกำลังพลของหน่วยหรือหน่วยงาน ดำเนินการจัดทำบัญชีข้อมูลตำแหน่งในระดับ สว.-รองผบก. ที่ว่าง ณ ปัจจุบัน ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานกำลังพล 
 
ไม่มีการกำหนด กฎ ระเบียบใดๆเพิ่มเติมเกี่ยวหลักเกณฑ์ แต่อย่างใด

แต่ในทางปฏิบัติต่างก็รับรู้สัญญาณจาก “กรมปทุมวัน” ตรงกัน การจัดทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รองผบก. ครั้งนี้ หลักเกณฑ์การแต่งตั้งในแต่ละตำแหน่งจะใช้นโยบาย บวก 1 จากหลักเกณฑ์ของ ก.ตร.
หมายถึงจะตัดตะกร้าผู้มีคุณสมบัติเพิ่มสูงขึ้นในทุกระดับชั้น

คือ ตามกฎ ตามระเบียบ การแต่งตั้งตำรวจของ ก.ตร.ระดับ รองสารวัตร ขึ้น สารวัตร ต้องครองตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 7 ปี ก็จะเพิ่มเป็น 8 ปี สารวัตร ขึ้น รองผกก. ต้องครองตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 5.ปี ก็เพิ่มเป็น 6 ปี รองผกก. ขึ้น ผกก. ต้องครองตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 3 ปี ก็เพิ่มเป็น 4 ปี และผกก. ขึ้น รองผบก. ต้องครองตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 4 ปี ก็เพิ่มเป็น 5 ปี

ส่วน “นายเวร” ที่เหล่าตำรวจส่วนใหญ่อยากจะให้ใช้นโยบายเดียวกับการแต่งตั้งตำแหน่งทั่วๆไปเหมือนกันทั้งประเทศ แต่ดูเหมือนสัญญาณที่ถูกส่งออกมาจากผู้บังคับบัญชาครั้งนี้ ชักบันไดขึ้นกับตำแหน่งหลัก ไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง “นายเวร” ซึ่งกลุ่ม “นายเวร” หรือ “ผู้ช่วยนายเวร” ยังยึดตามกฎ ก.ตร. ตามสูตร 7-5-3-4 เหมือนปรกติ
ท่ามกลางเสียงนินทากันกระฉ่อนแวดวง “สีกากี” เหตุที่ผู้บริหารไม่ทำให้เหมือนกันทุกตำแหน่ง ไม่มีดับเบิ้ลสแตนดาร์ด ก็เพราะลูกเขยผู้มีอำนาจครบแตะเส้นตาม กฎ ตามระเบียบ ก.ตร.เป๊ะพอดี จะขยับตำแหน่งสูงขึ้น โดยจะไปแปะชื่อเป็น “นายเวร” ผู้บังคับบัญชาระดับ “รองผบ.ตร.” รายหนึ่ง เทียบเท่า “ผกก.”

หากมีการขยับขั้นบันไดในตำแหน่ง “นายเวร” หรือ “ผู้ช่วยนายเวร” ด้วยแล้ว ก็จะทำให้ลูกเขยผู้มีอำนาจไม่ครบตามหลักเกณฑ์ในปีนี้ จะไม่สามารถขยับตำแหน่งสูงขึ้นได้ เมื่อไม่ชักบันได “นายเวร” ก็จะทำให้ ลูกเขยผู้มีอำนาจ เข้ามาเป็น นายเวร ได้ทันที แถมยังยกสเต็ปหนีเพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นพี่ เพิ่มอีก 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นผลดีในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงขึ้นในอนาคต ที่จะไม่ต้องมีเพื่อน ที่มีอายุราชการเกษียณพร้อมๆกันมาเป็นคู่แข่งด้วย

อย่างไรก็ดี แม้จะมีการใช้นโยบายชักบันไดหนี บวกเพิ่ม 1 ปี ทุกตำแหน่ง ในการแต่งตั้งระดับ สว.-รองผบก.ครั้งนี้ แต่ก็หาใช่เป็นกฎเหล็ก เป็นกฎภูเขาหิน จนไม่มีวิธีเจาะ ไม่มีวิธีทะลุทะลวง เพราะก็มีตัวอย่างให้เห็นในการแต่งตั้ง “นายพลเล็ก” ระดับ ผู้บังคับการ(ผบก.) - รองผู้บัญชาการ(รองผบช.) 200 กว่าตำแหน่งที่ผ่านมา
ก็มี “ตำรวจ” ที่แตะเส้นตามกฎ ก.ตร. แต่ไม่ครบตามนโยบาย บวก 1 ได้พลังดีมีแรงทะลุทะลวง กฎเหล็ก กฎน้ำแข็ง ผงาดขึ้นนั่งเก้าอี้ ผู้การฯ ถึง 2 ราย ทั้งๆที่ตามกฎ ก.ตร. ในระดับ รองผบก. ขึ้น ผบก. ต้องครองตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 4 ปี และเมื่อบวก 1ตามนโยบายชักบันได ก็จะตัดตะกร้าไว้ในกลุ่ม รองผบก. ครองตำแหน่งมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี

แต่ปรากฏว่า พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ รองผบก.ปคม. ซึ่งเพิ่งแตะเส้นตามกฎ ก.ตร. ได้แรงดีจากกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดขั้วอำนาจใหญ่ และผู้มีอำนาจในกรมปทุมวัน สนับสนุนขึ้นขึ้นเป็น ผบก.สก. หรือ ผู้บังคับการสวัสดิการ เช่นเดียวกับพ.ต.อ.สหภูมิ สง่าเมือง รองผบก.สส. ก็แตะเส้นขยับขึ้นมาเป็น ผู้เชี่ยวชาญการเดินเรือ(สบ.6) บก.รน. ติดยศ “นายพล” ใหม่ป้ายแดงพร้อมกันทั้งคู่

นั่นย่อมส่งผลเป็นการเปิดทางพิเศษให้เห็นไปถึงในการแต่งตั้ง สว.-รองผบก. ที่ใกล้จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นโยบายชักบันไดก็ไม่ใช่ปิดล็อค ปิดประตูตาย ไม่เปิดรับใครใช้บันไดเลื่อนพาดขึ้นมา เพียงแต่ว่าบันไดเลื่อนที่จะใช้พาดให้ถึงข้อบังคับกฎเกณฑ์นั้น ก็ต้องติดตรา ติดโลโก้ มียี่ห้อ มีแบรนด์ค้ำประกัน เส้นใหญ่สายแข็งไม่มีกฏอัปยศใดจะกีดกันได้

จะชักบันไดขึ้นมากี่ขั้นๆ ก็ไม่มีปัญหา ถ้าเจ๋งจริง แข็งจริง ใหญ่จริง.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น