คสช. ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ชัดเจนไม่ยอมรับกติกา เชื่อประชาชนมองเห็นข้อดีร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยันยึดโรดแมปไม่เปลี่ยนแปลง กำลังดูว่าคนพูดไม่รับชี้นำอย่างไร คลาดเคลื่อนเมื่อไหร่เจอดี แจง “หลักสูตรการอบรมผู้วิพากษ์วิจารณ์การเมือง” กำลังจัดท ย้ำเชิญเฉพาะคนที่วิจารณ์รัฐธรรมนูญ และตัวบุคคล ไม่ทำเกินกรอบกฎหมาย ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และแจ้งญาติทุกครั้ง
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก เมื่อเวลา 14.00 น. พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ว่า ขอขอบคุณในความชัดเจนที่จะไม่ยอมรับในกฎกติกา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตนเชื่อว่าประชาชนคนไทยและทุกภาคส่วนยังมีเวลาศึกษาข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และเห็นข้อดีของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขปัญหาและเป็นการวางอนาคตของประเทศ ซึ่งจริงอยู่ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และมีบทลงโทษที่รุนแรง ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าจะกระทบต่อบุคคลที่จ้องจะหาประโยชน์ ทุจริต และคอร์รัปชัน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้คงไม่มีการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นช่วงเวลาในการทำความเข้าใจ เผยแพร่ และเชิญชวนให้ประชาชนออกมาทำประชามติในวันที่ 7 ส.ค. 59 เราต้องทำการศึกษาร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมด 279 มาตรา 16 หมวด ที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจ มีประโยชน์ต่อประเทศ และเชื่อว่า สามารถแก้ปัญหา มีการถ่วงดุลอำนาจรัฐ มีการตรวจสอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนเชื่อว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. และ กรธ. ทั้งคณะ มีเจตนาที่ดีในการนำพาประเทศ ไปสู่สังคมที่มีแต่ความสงบสุขอย่างยั่งยืน
“ขอเชิญชวนให้มีการเผยแพร่ ทำความเข้าใจ อย่างกว้างขวาง เพื่อการตัดสินใจของประชาชนในการลงมติร่างรัฐธรรมนูญรที่จะถึงนี้ ผมขอยืนยันว่า คสช. ยังคงยึดถือช่วงเวลาตามโรดแมปที่จะมีการเลือกตั้งในปี 60 อย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลง” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีบางพรรคออกมาพูดว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทาง คสช. จะมีการดูแลอย่างไร พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ในขณะนี้หากมีการแถลงการณ์จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีลักษณะของการชี้นำหรือการที่จะไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือสับสนต่อประชาชนหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายในการแสดงออกในลักษณะของการผิดกฎหมาย หรือการสร้างความเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติงาน หรือต่อร่างรัฐธรรมนูญ คงจะมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งข้อพิจารณานี้อยู่ระหว่างการพิจารณา จะต้องดูว่ามีคนใดออกมาแสดงความคิดเห็นที่เป็นไปในลักษณะที่ก่อให้เกิดความสับสนเละเข้าใจผิด ปลุกระดม ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า หลักสูตรการอบรมผู้วิพากษ์วิจารณ์การเมืองมีการดำเนินการอย่างไร พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มอบหมายให้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการ คสช. ดำเนินการ และขณะนี้กำลังอยู่ช่วงการจัดทำหลักสูตร ที่ผ่านมา คสช. ได้เน้นเรื่องการพูดคุยทำความเข้าใจแบบวันต่อวัน แต่เมื่อมีการรับปากกันแล้วมีการลงนามข้อตกลงในความร่วมมือ ตามปกติแล้ว คสช. ไม่ได้เชิญบุคคลทั่วไป จะเชิญคนที่วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ วิจารณ์ตัวบุคคล และให้ข้อมูลที่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะฉะนั้นการเชิญตัวมาพูดคุยเพื่อเป็นการทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ เมื่อมาอยู่ด้วยกันก็ตกลงรับปากกันเรียบร้อย แต่พอพ้นจากการดูแลไปแล้วก็มักจะละเมิดไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัญญาคำพูดของตัวเองจึงจะต้องมีขอบเขตในการอยู่พูดคุยนานขึ้น เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของหลักสูตรอยู่ระหว่างการดำเนินการ ตั้งแต่ในเรื่องของสุขภาพ ความเป็นอยู่ การให้ความรู้ ผลงานของรัฐบาล และ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ของหลักสูตร คือ 1 .ไม่ทำเกินกรอบกฎหมาย ใช้อำนาจเท่าที่ คสช. มี 2. ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และ 3. แจ้งญาติทุกครั้งที่จะมีการเชิญตัว ซึ่งมีระยะเวลาในการอบรม 3 - 7 วัน โดยจะเริ่มใช้ไปจนถึงก่อนการเลือกตั้ง และขอย้ำว่า ไม่ใช่การปรับทัศนคติ แต่เป็นการให้ข้อมูลและทำความเข้าใจในกรอบการทำงานของ คสช. ส่วนสถานที่ที่จะใช้อบรมก็มีหลายที่ที่สามารถรองรับคนได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร
เมื่อถามว่า ในการวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้งทางโซเชียลมีเดีย คสช. มีมาตรการในการดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการให้ข้อมูลในสื่อออนไลน์ การให้ข้อมูลตามสื่อต่าง ๆ ที่ปรากฏ เราจะมีคณะทำงานติดตามข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ หากมีข้อมูลที่ดูแล้วว่าเริ่มที่จะละเมิดกฎหมายก็จะมีกระบวนการที่จะดำเนินการ