xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ปลื้ม IMF ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 59 ขยายตัว 3%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ รับทราบ IMF ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยปี 59 เติบโต 3% ด้วยความยินดีที่องค์กรระหว่างประเทศมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจไทย และยังดีใจเป็นพิเศษสินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรมีการขยายตัวสูงสุด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ออกรายงานผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2559 ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3 และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2560 ที่ร้อยละ 3.2 เนื่องจากความเชื่อมั่นในด้านการค้าการลงทุนปรับตัวดีขึ้น และนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่ผลักดันให้เกิดแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว และรู้สึกยินดีที่ IMF มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของหน่วยงานภายในประเทศหลายแห่ง อาทิ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ร้อยละ 2.8-3.5 ขณะที่ธนาคารแห่งประทศไทยคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.1

“ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการก่อนเดินทางไปร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ว่าให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าทุกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการลงทุนภาครัฐ การสานความสัมพันธ์คู่ค้าหาตลาดใหม่เพื่อการส่งออก การสนับสนุนเงินทุนและการปรับปรุงนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ SME รวมถึงนโยบายกองทุนชุมชน และการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ โดยทุกโครงการต้องมีความคืบหน้าในระยะเวลาที่วางไว้ หากโครงการใดจำต้องคลาดเคลื่อนออกไปจากแผนดำเนินการ ผู้รับผิดชอบต้องมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างดีที่สุดเพื่อประเทศไทยของทุกคน”

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯ ฝากให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ทำงานอย่างหนักจนทำให้ตัวเลขการส่งออกไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปีเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดหวังว่าตัวเลขการค้าของไทยจะสดใสตลอดทั้งปี

“แม้เศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะมีแนวโน้มชะลอตัว แต่เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเชื่อมั่นว่าจะขยายตัวต่อไป ซึ่งจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วยหนุนให้เกิดความมั่นใจได้ว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมจะเติบโตไม่น้อยกว่า ร้อยละ 3 ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ทั้งนี้ ท่านนายกฯ รู้สึกปลื้มใจเป็นพิเศษที่สินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวสูงสุดเพราะเกี่ยวเนื่องและส่งผลประโยชน์ถึงพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศด้วย”

ทั้งนี้ การส่งออกข้าวขยายตัวร้อยละ 14.2 ยางพาราขยายตัวร้อยละ 4.9 ทูน่ากระป๋องขยายตัวร้อยละ 11.0 กุ้งแช่แข็งและแปรรูปขยายตัวร้อยละ 17.1 ไก่สดแช่แข็งและแปรรูปขยายตัวร้อยละ 20.5 และน้ำตาลขยายตัวร้อยละ 107.4


กำลังโหลดความคิดเห็น