xs
xsm
sm
md
lg

“มีชัย” ปิดจ็อบร่าง รธน. คุยฟุ้งแรงทั้งปราบโกง ทั้งการทำหน้าที่ของ ขรก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

การประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาทบทวนร่างรัฐธรรมนูญที่ไปประชุมกันที่ อ.หัวหิน เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ได้สิ้นสุดลงแล้ว มีข้อสรุปที่น่าสนใจคือ การเลือกตั้งครั้งแรกจะมีขึ้นเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับเสร็จสิ้น

ในส่วน ส.ว.50 คน จากใน 250 คน ที่มาจากการเลือกกันเองจากระดับอำเภอนั้น จะเริ่มกระบวนการเลือกกันเองให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้ง ส.ส.อย่างน้อย 15 วัน เพื่อให้ คสช.คัดเลือกและแต่งตั้งวุฒิสมาชิกให้ครบถ้วนพร้อมๆ กับการมีสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้กระบวนการการเลือกนายกฯ เป็นไปด้วยความราบรื่น

สำหรับไทม์ไลน์ที่จะให้เป็นไปตามโรดแมปที่ได้วางไว้ คือ 6 เดือนร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ, 4 เดือนออกเสียงประชามติ, 6 เดือนออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และ 4 เดือนจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปราว ก.ค. 2560

ทั้งนี้ การพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะมี 4 ฉบับ คือ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส., พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว., พ.ร.ป.พรรคการเมือง และ พ.ร.ป.กกต.ที่จะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยกรธ.มั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ทำเสร็จนี้จะสามารถตอบโจทย์ในส่วนที่ทำให้ประเทศกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยช่วงเปลี่ยนผ่าน ป้องกันผู้ที่ทุจริตไม่ให้กลับสู่วงจรการเมือง และยังมีรายละเอียดในการปฏิรูปประเทศ เพื่อเป็นการสร้างอนาคตที่สำคัญสำหรับประเทศไทยต่อไป

ส่วนในบทเฉพาะกาลยังคงกำหนดไว้ตามเดิมว่า หลังจากรัฐธรรมนูญใหม่มีผลบังคับใช้ ให้ ครม., คสช.ยังคงทำหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ส่วน สนช.ให้สิ้นสุดก่อนวันเรียกประชุมรัฐสภานัดแรก ในขณะที่ สปท.ยังต้องทำงานต่ออีก 1 ปี เว้นแต่มีข้อกำหนดในกฎหมายปฏิรูปให้ทำงานต่อ

สำหรับกรรมการองค์กรอิสระยังคงอยู่ตามเดิม จนกว่าจะมีข้อกำหนดให้เปลี่ยนแปลงตาม พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องแต่ละฉบับ ส่วน กรธ.ทำหน้าที่ร่าง พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ และ พ.ร.ป. และ พ.ร.บ.ที่สำคัญอีก 7 ฉบับ ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน

ในส่วนของหมวดการปฏิรูปซึ่งเป็นหมวดสุดท้ายที่เพิ่มขึ้นใหม่นั้นจะอยู่ระหว่างมาตรา 257-261 รวม 5 มาตรา และมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ประกอบด้วยการปฏิรูปทั้งหมด 7 ด้าน คือ 1. ด้านการเมือง 2. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 3. ด้านกฎหมาย 4. ด้านกระบวนการยุติธรรม 5. ด้านการศึกษา 6. ด้านเศรษฐกิจ และ 7. ด้านอื่นๆ โดยกำหนดเป้าหมาย 3 ประการ คือ 1. ให้ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย สามัคคีปรองดอง 2. สังคมสงบสุข เป็นธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำ และ 3. ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้จะมีกระบวนการกำกับการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดให้ สปท.และ สนช.ต้องทำหน้าที่ผลักดันและออกกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศภายใน 120 วันนับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ที่กำหนดวิธีการจัดทำ การมีส่วนร่วมของประชาชน ขั้นตอน และการวัดผล เพื่อให้เริ่มดำเนินการปฏิรูปแต่ละด้านภายใน 1 ปี และมีผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังว่าจะบรรลุภายใน 5 ปี

สำหรับสาระสำคัญของการปฏิรูปแต่ละด้านนั้น กรธ.ได้เน้นไปในด้านกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะระบบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเป็นพิเศษ โดยกำหนดว่าต้องมีคณะกรรมการคณะหนึ่งที่ ครม.แต่งตั้ง โดยต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิที่เคยเป็น และไม่เคยเป็นตำรวจจำนวนเท่าๆ กัน ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องตามที่ ครม.เห็นสมควร ทำหน้าที่ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับหน้าที่ อำนาจ และภารกิจของตำรวจให้เหมาะสม และแก้ไขปรับปรุงกฎหมายการบริหารางานบุคคลของตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันด้านค่าตอบแทนที่เหมาะสม มีความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายพิจาณาบำเหน็จความชอบ ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวต้องปรับปรุงให้เสร็จภายใน 1 ปี มิฉะนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจะต้องใช้หลักอาวุโส และหลักเกณฑ์ที่ ครม.กำหนดทันที

ด้านการปฏิรูปการศึกษา ให้ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระขึ้นภายใน 60 วัน นับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ และร่างกฎหมายในการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายการปฏิรูปด้านการศึกษาตามที่ระบุไว้ เช่น การจัดการศึกษาสำหรับเด็กเล็กก่อนวัยเรียนฟรี การตั้งกองทุนเพื่อกู้ยืนการเรียนวิชาชีพ กลไกและระบบการผลิต คัดกรอง และพัฒนาครู ภายใต้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม ฯลฯ ทั้งนี้ภายใน 2 ปี นับแต่วันได้รับการแต่งตั้ง

ด้านการเมือง มีเป้าหมายให้ประชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประชาธิปไตย ยอมรับความเห็นต่างทางการเมืองโดยสุจริต ให้การดำเนินกิจการของพรรคการเมืองเปิดเผย ตรวจสอบได้ เพื่อพัฒนาให้เป็นสถาบันทางการเมือง มีกระบวนการให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมรับผิดชอบในกิจกรรมทางการเมือง และการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค มีกลไกที่กำหนดความรับผิดชอบในการประกาศนโยบายที่มีความเสี่ยง ขาดความคุ้มค่า และสร้างผลกระทบ รวมทั้งมีกลไกแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี

ร่างรัฐธรรมนูญที่ กรธ.พิจารณาเสร็จเรียบร้อยนี้จะต้องส่งให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 29 มี.ค.นี้ เมื่อผ่านขั้นตอนของ ครม.แล้วก็จะเผยแพร่ให้ประชาชนได้ทราบ ทั้งทางเว็บไซต์ของ กรธ. และให้สื่อช่วยเผยแพร่ให้ประชาชนได้เข้าใจ รวมทั้งการทำเนื้อหาออกมาเป็นเล่มเล็กๆ มีรูปภาพประกอบ เพื่อให้ประชาชนอ่านได้สะดวกขึ้น

ทั้งนี้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ได้กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่จะใช้กับคนทุกคน มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ระยะยาว ให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข และได้รับความเที่ยงธรรม โดยเป้าหมายสำคัญของรัฐธรรมนูญ คือ พยายามขจัดความเหลื่อมล้ำ และมุ่งหวังว่าปัญหาของประเทศที่หมักหมมมาเป็นเวลานานจะสามารถแก้ไขได้โดยรัฐธรรมนูญนี้

ส่วนในบทเฉพาะกาลนั้นได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ มีการเขียนถึงขนาดที่ว่าสิ่งที่คนห่วงใยเรื่องการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่หลายชุมชนมีความเป็นห่วง ก็ได้มีการเขียนไว้ว่าให้ไปทำกฎหมายเรื่องนี้ให้เสร็จภายใน 1 ปี และให้ ครม.กำหนดว่าการทำกฎหมายนี้หน้าที่ของหน่วยงานใดที่จะต้องทำให้เสร็จในระยะเวลาใด รวมไม่เกิน 1 ปี หากทำไม่เสร็จให้ ครม.ย้ายหัวหน้าหน่วยนั้นไปทันที ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขียนในรัฐธรรมนูญ โดยมีบทบัญญัติที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะรัฐธรรมนูญก่อนไม่มีบทลงโทษ ข้าราชการก็เฉย เราจึงเขียนให้แรง

“เมื่อประชาชนได้เห็นรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและไตร่ตรองวิเคราะห์แล้วจะเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญนี้มุ่งหวังที่จะเกิดประโยชน์กับประชาชนและส่วนรวม เรื่องสิทธิเสรีภาพที่มีคนออกมาท้วงว่าขาดหายไป ช่วยกรุณาอ่านให้ทั่ว เพราะนอกจากเราบัญญัติในหมวดหน้าที่ของรัฐ เรายังเพิ่มไว้ในหมวดสิทธิ เสรีภาพ อีกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความอุ่นใจว่ามี และง่ายต่อการใช้ และหากใช้แล้วไม่ได้ผล หรือรัฐบาลไม่ทำตามก็จะมีกลไกจัดการ

รัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้แรงเฉพาะปราบโกง แต่แรงในการทำหน้าที่ของข้าราชการด้วย หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า” นายมีชัยกล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น