xs
xsm
sm
md
lg

“วิลาศ” สวน คสช.ตัวเลขโกงเท่าก่อนรัฐประหาร แนะเลิกแบงก์เดิมแก้เผ็ดพวกทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วิลาศ จันทร์พิทักษ์  อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส.กทม. ย้อน คสช.อ้างทุจริตลดลงไม่จริง ชี้ตัวเลขเท่ากันเหมือนก่อนรัฐประหาร “ป๋าเปรม” ก็เคยพูด ฉะเมินลงโทษ สนช.ถ้าคนปฏิบัติไม่เอาจริงรธน.ยังไงก็ปราบโกงไม่ได้ จี้เพิ่มกรอบองค์กรอิสระปราบโกงรวม ขรก.ด้วย ติง ป.ป.ช.ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ปล่อยผ่านคดีแร่แบร์ไลต์ที่เสียหายกว่า 600 ล้าน แนะยกเลิกแบงก์เดิมแก้เผ็ดพวกทุจริต แลกแบงก์ใหม่แยะต้องแจงที่มาของเงิน



วันนี้ (20 มี.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่เรียกว่าปราบโกงว่า หากองค์กรที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ปฏิบัติก็ไม่ประสบความสำเร็จ และที่ผ่านมามีการอ้างว่าการทุจริตลดลงในช่วง คสช.ไม่เป็นความจริง เพราะทั้งก่อนและหลังรัฐประหารก็เท่ากัน คือ อยู่ที่ตัวเลข 3.8 โดยเมื่อไม่นานมานี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีฯ ก็ระบุว่าการทุจริตไม่ได้ลดลง ตนจึงอยากให้ดูตัวอย่างที่ควรปรับปรุงเพิ่มขึ้น โดยแก้ที่ตัวบุคคลและองค์กรที่รับผิดชอบ เช่น กรณีการทุจริตยาปราบศัตรูพืชซึ่งมีความชัดเจนในการลงโทษคนที่ทำผิดบางส่วนแต่กลับไม่ดำเนินการคนที่เป็น สนช.อยู่ในปัจจุบัน เมื่อไหร่จะดำเนินการกับอดีตผู้ว่าราชการ จ.มุกดาหาร และจังหวัดเลย หากไม่ทำก็ต้องยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ลงโทษอดีตผู้ว่าราชการ จ.บึงกาฬด้วย เพราะทำผิดในลักษณะเดียวกัน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างว่าถ้าคนปฏิบัติไม่เอาจริงเขียนรัฐธรรมนูญอย่างไรก็ปราบการทุจริตไม่ได้

นายวิลาศยังเสนอให้มีการกำหนดกรอบการปฏิบัติงานขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตไม่ใช่กำหนดเฉพาะนักการเมือง แต่ให้รวมกับข้าราชการทั้งพลเรือนและทหารกับตำรวจด้วย พร้อมกับยกตัวอย่างคดีที่มีการตัดสินเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2558 กรณีเหมืองแร่แบร์ไลต์ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งอ้างว่าจะมีผลพลอยได้เป็นแร่เหล็ก เมื่อสอบสวนพบว่าได้แร่เหล็กมากกว่าแร่แบร์ไลต์ที่ขออนุญาตทำเหมืองถึง 50 เท่า โดยในการลงพื้นที่กลับไม่พบการขุดเจาะหาแร่แต่อย่างใด จึงมีคำถามถึงคนอนุญาตว่าเรื่องเช่นนี้เป็นไปได้อย่างไร กรณีนี้มีการดำเนินคดีถึงศาลฎีกามีคำตัดสินลงโทษคนที่ทำเหมืองเท็จ 8 ปี แต่เรื่องที่ตนส่งไปให้ ป.ป.ช.พิจารณากลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงเป็นกรณีตัวอย่างถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพของ ป.ป.ช.ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยเชิญตนไปสอบทั้งที่กรณีนี้มีความเสียหายสูงถึงกว่า 600 ล้านบาท เพราะมีการออกใบขนแร่โดยไม่มีการทำเหมืองจริง ในขณะที่อุตสาหกรรมจังหวัดที่กระทำความผิดกลับได้รับการลงโทษสถานเบาโดยอ้างว่าไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยมาก่อนทำให้ถูกลงโทษเพียงแค่ตัดเงินเดือน 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

“ผมเสนอให้ยกเลิกธนบัตรเดิม พิมพ์ธนบัตรใหม่เพื่อปราบการทุจริต โดยกำหนดระยะเวลาให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศที่มีเงินไปแลกธนบัตรใหม่ภายในเวลา 1 ปี ไม่แลกถือว่าสละสิทธิ์ ผมจะดูว่าคนที่โกงแล้วบอกว่าไม่ได้โกงจะทำกันอย่างไร ไม่ต้องมีการเอาเงินไปฝังไหอีกต่อไป และถ้าใครแลกเกิน 2 ล้านบาทต้องชี้แจงที่มาที่ไปของเงินด้วย ถ้าเกิน 10 ล้านบาทหรือมีเงินฝากเกิน 10 ล้านทุกบัญชีรวมกัน หน่วยงานที่รับแลกต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบจำนวนเงินเพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ เชื่อว่าคนที่ไม่กล้าแลกจะมีมากหลายล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถนำมาสร้างรถไฟความเร็วสูงโดยไม่ต้องกู้เงิน” นายวิลาศกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น