มีผลแล้ว! ไล่ออก “สาธิต รังคสิริ” พ้นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง หลัง อ.ก.พ.คลังมีมติไล่ออก เหตุถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีพัวพันโกงภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 4,000 ล้าน เผยข้าราชการกรมสรรพากรที่มีเอี่ยวอีก 14 คน ต่ำกว่าระดับ 9 ยังอยู่ในขั้นสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการสอบวินัยและคณะกรรมการอุทธรณ์
วันนี้ (16 ก.พ.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการพลเรือนพ้นจากตำแหน่ง ด้วยกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งลงโทษไล่ นายสาธิต รังคสิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2559 และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งต่อไปแล้ว
“บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๙
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรี”
มีรายงานว่า เมื่อต้นปี 2559 ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงการคลัง หรือ อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน มีมติไล่ออกนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ภายหลังจากที่ อ.ก.พ.กระทรวงการคลังพิจารณาหนังสือตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายสาธิตอย่างร้ายแรงกรณีมีส่วนพัวพันโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) มูลกว่า 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ อ.ก.พ.คลังได้พิจารณาตามมติของ ป.ป.ช.ระบุความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงด้วยความรอบคอบ จึงเป็นที่มาของการไล่ออกซึ่งเป็นโทษสูงสุดของข้าราชการ หลังจากนี้จะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายสาธิตต่อไป ส่วนการต่อสู้ในชั้นศาลนั้น นายสาธิตสามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการของกฎหมาย
สำหรับ สาเหตุการไล่ออกนายสาธิต มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “คดีโกงภาษีแวต” เกิดขึ้นในช่วงปี 2556 สมัยที่นายสาธิต รังคสิริ เป็นอธิบดีกรมสรรพากร โดยนายประสิทธิ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้รายงานผลการสอบสวนเรื่องดังกล่าวและระบุว่า มีข้าราชการกรมสรรพากรจำนวน 18 คน ที่มีส่วนพัวพันกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากส่งออกเศษเหล็ก ทำให้กรมสรรพากรเกิดความเสียหายเป็นเงินมากกว่า 4,000 ล้านบาท กระทรวงการคลังจึงส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ป.ป.ช.ดำเนินการสอบข้อเท็จจริง
ก่อนหน้านี้ อ.ก.พ.กระทรวงการคลังมีมติไล่ออกนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ (ชื่อเดิมนายศุภกิจ ริยะการ) อดีตข้าราชการ ซี 9 สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 (เขตบางรัก) นายกู้ศักดิ์ จันทราช สรรพากรพื้นที่สมุทรสาคร จากปลดออกเปลี่ยนเป็นไล่ออก พร้อมนายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นักวิชาการเชี่ยวชาญ สำนักงานสรรพากรภาค 7 และนายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่ปัตตานี รวมทั้งหมด อ.ก.พ.กระทรวงการคลังมีมติไล่ออกข้าราชการกรมสรรพากรไปแล้วทั้งหมด 4 คน จากทั้งหมด 18 คน
ส่วนที่เหลืออีก 14 คน เป็นข้าราชการต่ำกว่าระดับ 9 หรือซี 9 กรมสรรพากรได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการสอบวินัยและคณะกรรมการอุทธรณ์ ตามลำดับเรียบร้อยแล้ว โดยข้าราชการทั้ง 14 คน มีโทษสูงสุด คือ ไล่ออก น้อยที่สุดคือภาคทัณฑ์ เนื่องจากเป็นข้าราชการระดับ 3 เพิ่งรับราชการได้เพียง 1 เดือน แต่ถูกหัวหน้างานสั่งให้อนุมัติเช็คคืนภาษีแวตในวงเงินเกินกว่าร้อยล้านบาท โดยไม่ทราบข้อเท็จจริงของขบวนการโกงแวตมาก่อนเลย สำหรับโทษทางวินัยของข้าราชการมีทั้งหมด 5 สถาน จากเบาไปหาหนักที่สุด ประกอบด้วย 1. ภาคภัณฑ์ 2. ตัดเงินเดือน 3. ลดเงินเดือน 4. ปลดออก และ 5. ไล่ออก ซึ่งเป็นโทษสูงสุดโดยไม่ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ