xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” ให้กำลังใจ กรธ.ดูข้อเสนอ คสช. ชี้ฝืนไม่แก้เป็นระเบิดเวลาผูก รธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รองหัวหน้า ปชป.ให้กำลังใจ กรธ.มีจิตใจมั่นคงยึดประโยชน์ส่วนรวม พิจารณาข้อเสนอ คสช. ชี้ไม่ได้อยู่ที่ปาฏิหาริย์อยู่ที่สมองสองมือ แนะปรับข้อเสนอนายกฯคนนอกควรได้เสียงสภาเกินครึ่ง ส.ว.สรรหาให้ ปชช.พิจารณาด้วย ค้านเหล่าทัพร่วม ไร้อำนาจไม่ไว้วางใจ เลือกตั้งช่วงเปลี่ยนผ่านอย่ากระทบพัฒนาการเมือง ดักฝืนไม่แก้เป็นระเบิดเวลาผูก รธน. ท่าทีพรรครอดูร่างสุดท้ายก่อน



วันนี้ (20 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะมีการพิจารณากรณีจะพิจารณาข้อเสนอของ คสช.เกี่ยวกับบทเฉพาะกาลในวันที่ 21 มี.ค. ว่าคงสร้างความหนักใจให้แก่ กรธ. เพราะมีทั้งเสียงที่เห็นด้วยและคัดค้าน จึงไม่ใช่เรื่องง่าย อยากให้กำลังใจ กรธ.มีจิตใจมั่นคง เป็นตัวของตัวเอง มีจิตสำนึกคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าของคนใดคนหนึ่ง ตนเชื่อมั่นว่า กรธ.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอุทิศตนทำประโยชน์ให้สังคมมาอย่างยาวนาน จึงน่าจะพิจารณาได้ว่าข้อเสนอของ คสช.มีความเหมาะสมแค่ไหนสมควรจะบัญญัติไว้แค่ไหนอย่างไร ทั้งนี้มี กรธ.ท่านหนึ่งขอให้สังคมให้กำลังใจและเชื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่ตนไม่คิดว่าปาฏิหาริย์จะมีจริง อยู่ที่มันสมองและสองมือของ กรธ. จึงขอเรียกร้องให้นำข้อเสนอของ คสช.พิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้านเพื่อให้บทเฉพาะกาลได้รับการยอมรับจากประชาชน โดยเห็นว่าเนื้อหาสามประเด็นที่ คสช.ต้องการให้บรรจุในร่างรัฐธรรมนูญควรมีการปรับเปลี่ยน ดังนี้

1. กรณีนายกรัฐมนตรีควรเป็น ส.ส. แต่กรณีที่จะให้มาจากคนนอกได้ควรเข้ามาในสภาวะวิกฤตตามแนวทางเดิมของ คสช. และร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เพราะขณะนี้เปิดโอกาสให้ใครก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องเป็น ส.ส. ทั้งนี้ยังเห็นว่านายกฯ คนนอกควรได้เสียงสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยให้ กรธ.ใช้ดุลพินิจพิจารณาเอง 2. ที่มาของ ส.ว.สรรหา หาก กรธ.จะทำตามข้อเสนอของ คสช.ก็ควรมาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลายให้ประชาชนมีส่วนร่วมพิจารณาด้วย ที่สำคัญคือไม่ควรมีหกตำแหน่งทางทหารและตำรวจเข้ามาเป็น ส.ว.สรรหาโดยตำแหน่ง 3. อำนาจหน้าที่ของ ส.ว.สรรหา ไม่ควรเกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากจะเกี่ยวข้องต้องมีเงื่อนไขพิเศษเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจ ส.ส.

ส่วนระบบเลือกตั้งในระยะเปลี่ยนผ่านนั้น นายองอาจกล่าวว่า ไม่ควรมีผลกระทบต่อการพัฒนาทางการเมืองจึงหวังว่าจะมีการปรับแก้ให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ถ้าหยิบเอาข้อเสนอทั้งหมดมาบรรจุในร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าการผ่านประชามติจะลำบากมากขึ้นและเป็นระเบิดเวลาผูกติดรัฐธรรมนูญอีกนานไม่เป็นผลดีต่อการทำให้บ้านเมืองเดินหน้า เพราะระบบเขตใหญ่แต่ให้เลือกคนเดียวนั้นจะทำให้เกิดผลข้างเคียงกระทบต่อการพัฒนาการเมืองและพรรคการเมืองเนื่องจากจะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ อีกทั้งไม่สามารถตอบโจทย์ที่จะทำให้บ้านเมืองช่วงเปลี่ยนผ่านไม่เกิดปัญหาได้ และการซื้อเสียงจะมีมากขึ้นด้วย

สำหรับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายองอาจกล่าวว่า ต้องดูร่างสุดท้ายที่ออกมาว่าจะมีการปรับแก้อย่างไร โดยเฉพาะในบทเฉพาะกาลว่าจะมีการบรรจุเนื้อหาตามที่ คสช.เสนอมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ท่าทีของพรรคคงไม่สามารถออกมาได้ชัดเจนเพราะประชุมไม่ได้ แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคงมีท่าทีออกมาผ่านการปรึกษาหารือและซาวเสียงอย่างไม่เป็นทางการว่าส่วนใหญ่มีความเห็นอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น