“ดุสิตโพล” พบคนไทยส่วนมากเริ่มกักตุนน้ำดิบ เกิน 70% ใช้วิธีประหยัด เหตุกังวลภัยแล้งกระทบครัวเรือน - ภาคเกษตร แนะรัฐแก้ปัญหาแบบยั่งยืน พบ ยังมีร้อยละ 28.24 มีพฤติกรรมใช้น้ำเหมือนเดิม
วันนี้ (28 ก.พ.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน หัวข้อ “สถานการณ์ภัยแล้ง ปี 2559 “ ระหว่างวันที่ 23 - 27 ก.พ. ที่ผ่านมา จำนวน 1,158 คน จากทั่วประเทศ ทุกสาขาอาชีพ เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้ง
ทั้งนี้ พบว่า ผู้ตอบโพลส่วนใหญ่วิตกกับปัญหาดังกล่าว แบ่งเป็น ร้อยละ 52.85 ค่อนข้างวิตก เพราะ ปริมาณฝนตกเฉลี่ยในแต่ละพื้นที่น้อยลง ฝนทิ้งช่วง กลัวไม่มีน้ำกิน น้ำใช้, ร้อยละ 24.87 วิตกมาก เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ลดลง ภาคเกษตรกรรมประสบปัญหา ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ผู้ตอบโพล ร้อยละ 78.50 มีวิธีการรับมือ “ภัยแล้ง” ด้วยการติดตามข่าวภัยแล้ง พยากรณ์อากาศ การประกาศแจ้งเตือนต่าง ๆ ของภาครัฐ, ร้อยละ 75.13 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หาวิธีรับมือวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด และ ร้อยละ 69.95 หาอุปกรณ์ ภาชนะที่มีขนาดใหญ่สำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน และพบว่า ได้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดกว่าปกติ แล้วถึงร้อยละ 71.76 ขณะที่กลุ่มที่ยังจะ ใช้เหมือน ๆ เดิม ร้อยละ 28.24 เพราะให้เหตุผลว่า ใช้ตามปกติเท่าที่จำเป็น ไม่ได้เป็นคนใช้น้าสิ้นเปลือง ใช้น้าประหยัดอยู่แล้ว ฯลฯ
ส่วน ร้อยละ 84.72 อยากให้ รัฐบาลการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน, ร้อยละ 77.98 มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เอาจริงเอาจัง และร้อยละ 71.24 บริหารจัดการน้ำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ