xs
xsm
sm
md
lg

“ระยอง” ให้ความรู้เกษตรกร รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“ระยอง” ให้ความรู้เกษตรกร รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ระยอง - “ระยอง” จัดสัมมนาเพิ่มขีดความรู้ความสามารถในการแข่งขันด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกร เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ห้องปทุมวรรณวิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุมสัมมนาเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันภาคเกษตรแก่เกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จัดขึ้นโดยสำนักงานจังหวัดระยอง มีผู้แทนเข้าร่วมประชุมสัมมนา ประกอบด้วย ส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องจากภาคเกษตร ประมง ปศุสัตว์ จำนวน 250 คน

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระยอง กล่าวว่า สืบเนื่องจากจังหวัดระยอง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมที่ถือเป็นฐานหลักสำคัญของจังหวัด มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อเตรียมความพร้อม และปรับตัวให้ทันต่อสภาวการณ์ ตลอดจนสามารถใช้ประโยชน์สูงสุด หรือสามารถรองรับผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ ดังนั้น จังหวัดระยองจึงได้จัดการประชุมสัมมนาดังกล่าวขึ้น
มีผู้แทนเข้าร่วมประชุมสัมมนา จำนวน 250 คน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้แทนภาคเกษตรรับรู้ รับทราบถึงกฎระเบียบ ผลกระทบในมิติต่างๆ ของการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเสริมสร้างขีดความสามารถภาคเกษตร และเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ประชากรอาเซียนมีจำนวนรวมกันประมาณ 600 ล้านคน ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่น เป็นการขยายการส่งออก และโอกาสทางการค้าจากการยกเลิกอุปสรรคภาษีและที่มิใช่ภาษี ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สินค้าเคลื่อนย้ายโดยเสรี เปิดโอกาสสำหรับสาขาที่ไทยมีความเข้มแข็ง เช่น สินค้าเกษตร มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนได้เสรีขึ้น มีการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกัน เป็นพันธมิตรร่วมกันทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน การลดต้นทุนการผลิต

สำหรับจังหวัดระยอง ขณะนี้มีประชากรทั้งสิ้น 674,393 คน มูลค่าผลิตภัณฑ์รวมมูลค่าสูงถึง 905,664 ล้านบาท มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี มูลค่าผลิตภัณฑ์เฉลี่ยต่อหัวประชากร 1,038,293 บาท/คน/ปี เป็นลำดับที่ 1 ของประเทศ มีฐานเศรษฐกิจสำคัญ 3 ด้าน คือ ด้านเกษตรกรรม, ด้านอุตสาหกรรม และด้านการท่องเที่ยว การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นมา จะเป็นประโยชน์ต่อการค้า และการลงทุน โดยจังหวัดระยอง จะเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการบินในอนาคต ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับสินค้าด้านการเกษตรของจังหวัดระยองได้เป็นอย่างดี
เกษตรกร ให้ความสนใจในการสัมมนาในครั้งนี้
นอกจากนั้น ทางรัฐบาลได้มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นที่ในอนาคตรองรับไว้แล้ว ซึ่งจะทำให้มีประชาชนจากทุกภูมิภาคหลั่งไหลเข้าสู่จังหวัดระยอง เป็นผลดีต่อภาคเกษตร โดยเฉพาะการกระจายสินค้าเชื่อมโยงต่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยเฉพาะการกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบและการเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ต่างๆ หากทุกภาคส่วนมีการเตรียมความพร้อมที่ดีจะเป็นการรองรับสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ไม่มาก

ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเข้าร่วมสัมมนาดังกล่าว จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ว่า มีโอกาส หรืออุปสรรค ตลอดจนแนวโน้มและทิศทางในอนาคตอย่างไรบ้าง อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น