สถาบันจัดอันดับระดับโลก IMD ชี้จุดอ่อนประเทศไทย ขาดความต่อเนื่องนโยบายรัฐ มีปัญหาคอร์รัปชัน กฎระเบียบยุ่งยากซับซ้อน ขาดการพัฒนาวิจัยและสร้างนวัตกรรม แนะเพิ่มความร่วมมือรัฐและเอกชนจัดทำโรดแมปแก้ปัญหา “อภิรดี” ได้ทีดันไทยเป็นฮับเกษตรอินทรีย์ เมืองหลวงอาหารโลก เหตุมีความพร้อมสูง ส่วนปัญหาโยงหน่วยงานอื่น เตรียมเสนอ ครม.รับทราบ มั่นใจการจัดลำดับดีขึ้นแน่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับสถาบัน International Institute for Management Development (IMD) ซึ่งเป็นสถาบันประเมินจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันระดับโลก จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมความคิดเห็นจากภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของไทย ซึ่งได้สรุปปัญหาที่เป็นจุดอ่อนและต้องการให้มีการปรับปรุงแก้ไข คือ การขาดความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล นโยบายของแต่ละหน่วยงานไม่สอดคล้องกัน ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐ กฎระเบียบภาครัฐที่มากมายและซับซ้อนยุ่งยาก การลงทุนด้านพัฒนาบุคลกร แรงงานไม่เพียงพอ การพัฒนาและการเข้าถึงการศึกษา การขาดการพัฒนาวิจัย การสร้างและใช้นวัตกรรมใหม่ๆ และการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะที่จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยเพิ่มขึ้น ขอให้มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งระหว่างภาครัฐและเอกชนมากขึ้นในการพิจารณานโยบายและแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ จัดทำโรดแมปในการแก้ไขปัญหาโดยกำหนดกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม
สำหรับเรื่องการลงทุนจากต่างชาติ ให้มีการทบทวนกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค ปรับปรุงการอำนวยความสะดวกของภาครัฐ และปรับปรุงกฎระเบียบการจ้างงานคนต่างชาติ ส่วนภาคการเกษตรเน้นเรื่องการพัฒนาภาคเกษตรไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ สร้าง smart farmer ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเกษตร และส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ให้เข้าสู่ภาคเกษตร
“มีหลายเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์กำลังทำ ซึ่งจะมีการผลักดันให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น อย่างเรื่องสินค้าเกษตร เราจะผลักดันให้มีศูนย์แห่งความเป็นเลิศเพื่อพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างเช่นเกษตรอินทรีย์ ต้องทำให้คนคิดถึงไทยว่าถ้าเกษตรอินทรีย์ต้องมาที่ไทย หรืออยากเป็นเมืองอาหารของโลก ก็ต้องนึกถึงไทย ซึ่งมีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่จะทำให้มากขึ้น หรืออย่างเรื่องท่องเที่ยว เราก็เป็นศูนย์กลาง หลายๆ ประเทศก็อยากเป็นแบบไทย ก็ต้องหาทางพัฒนาต่อให้ได้”นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า ปัญหาที่ไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นๆ และปัจจุบันยังมีการสื่อสารที่ยังไม่มีประสิทธิภาพและทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาในการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน และขาดการบูรณาการในทุกภาคส่วนในการดำเนินการขับเคลื่อน ซึ่งกระทรวงฯ จะนำข้อเสนอของ IMD ทั้งหมด เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและร่วมกันในการขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศต่อไป
“เราคาดหวังว่าเมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนต่างๆ ได้หมด ก็จะทำให้การจัดอันดับของสถาบันต่างๆ ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น IMD ธนาคารโลก และ World Economic Forum (WEF) จะจัดลำดับประเทศไทยดีขึ้นในปีต่อๆ ไป เพราะในปี 2556 ที่ผ่านมา IMD จัดลำดับความสามารถในการแข่งขันของไทยอยู่ลำดับที่ 27 จาก 60 ประเทศ และตกมาลำดับที่ 29 ในปี 2557” นางอภิรดีกล่าว
สำหรับหัวข้อที่ IMD ได้ทำการศึกษาเพื่อวิเคราะห์ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย มีอยู่ 5 หัวข้อ ได้แก่ 1. ประสิทธิภาพภาครัฐต่อนโยบายการค้าโดยเฉพาะด้านการเงินการธนาคาร 2. ประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ 3. การลงทุนจากต่างประเทศ 4. นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง 5. ภาคเกษตรกรรม