รองนายกฯ ถก กกต.แก้ รธน.ชั่วคราวเตรียมประชามติ “สมชัย” เผยเพื่อไม่ต้องตีความภายหลัง เลิกส่งร่างถึง ปชช.80% แย้มบวกวันออกเสียงอีก 7 วัน ปรับขยายฐานผู้มิสิทธิให้ 18 ปีบริบูรณ์นับวันใช้สิทธิ ชี้กลาง เม.ย.เผยเนื้อหา รธน. พร้อมจัดเวทีกลางแสดงความเห็น พิมพ์ร่าง รธน.3 แบบแจก ปชช. ชี้รณรงค์รับไม่รับทำได้ แต่ต้องไม่สร้างความเสียเปรียบเอื้อการเมือง ป้ายสี ย้ำไม่มีจำกัดสิทธิ ดักรัฐ-รด.อย่าชี้นำ
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำโดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เข้าพบเพื่อหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 เพื่อเตรียมการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ต่อมาเวลา 12.50 น. นายสมชัยเปิดเผยผลการหารือว่า ได้หารือข้อกฎหมายว่าจะเขียนในรัฐธรรมนูญอย่างไรเพื่อให้เกิดปัญหาในการดำเนินการน้อยที่สุด อย่างที่เคยหารือกันเรื่องเกณฑ์การตัดสินประชามติว่าจะต้องใช้เสียงข้างมากผู้มาใช้สิทธิเป็นเกณฑ์ มีการปรึกษากันว่าข้อความที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องมาตีความอีกในภายหลัง ถ้าเขียนแล้วไม่ชัดแล้วอาจจะมีการตีความอีก ดังนั้นจึงมาปรึกษากันว่าข้อความที่เหมาะสมเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกณฑ์การส่งร่างรัฐธรรมนูญถึงมือประชาชน อย่างน้อยร้อยละ 80 จึงจะออกเสียประชามติได้ ก็ได้หารือกันว่าจะยกหลักเกณฑ์นี้ออก และใช้ถ้อยคำว่าหลังจากที่ กรธ.ส่งรัฐธรรมนูญให้แก่ ครม.และ สนช.แล้ว จากนั้นจะต้องสรุปสาระสำคัญให้ กกต.หลังสรุปสาระสำคัญส่ง กกต.แล้ว ให้ กกต.จัดให้มีการออกเสียงประชามติภายในเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่ไม่เกิน 120 วัน ดังนั้นวันออกเสียงประชามติก็อยู่ในกำหนดเดิม คือ 31 ก.ค. และอาจบวกไปอีก 7 วัน
นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะทำให้มีผู้ออกเสียงมากขึ้น จึงกำหนดคุณสมบัติผู้ออกเสียงประชามติจะใช้เกณฑ์อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในวันออกเสียงประชามติ จะเป็นการขยายฐานผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติมากขึ้นกว่าเดิม จากเดิมที่ใช้วันที่ 1 ม.ค.ของปีที่มีการออกเสียงหรือที่มีการเลือกตั้ง ขณะนี้ขอให้มีการแก้ใหม่ไปจนถึงวันออกเสียง สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ใช้เกณฑ์ 18 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำ
เมื่อถามว่าประชาชนจะมีระยะเวลาในการอ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็มกี่วัน นายสมชัยกล่าวว่า มีเวลามาก เพราะหลังจากมีการสรุปร่างรัฐธรรมนูญแล้ว กกต.มีบทบาทเผยแพร่เนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญทุกช่องทาง ทุกรูปแบบ ให้กว้างขวางที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้น กลางเดือน เม.ย.เนื้อหาสาระรัฐธรรมนูญจะถูกเผยแพร่ไปถึงประชาชน และให้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน กกต.จะเป็นฝ่ายจัดเวทีกลางให้ทุกฝ่ายที่จะประสงค์รณรงค์ทั้งในซีกรับหรือไม่รับก็ตาม สามารถใช้เวทีกลางของ กกต.ให้ความเห็นสาธารณะได้ ที่ตกลงร่วมกันอย่างหนึ่ง คือ กกต.แสดงเจตนาจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งเรื่องของผลการประชามติและกระบวนการจัดทำประชามติ เป็นหลักการที่แสดงเจตนาต่อรองนายกฯเพื่อให้กราบเรียนนายกฯ
นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนร่างรัฐธรรมนูญจะจัดพิมพ์ 3 รูปแบบ 1. จัดพิมพ์รัฐธรรมนูญฉบับเต็ม 1.2 ล้านฉบับ แจกจ่ายตามแหล่งชุมชน เป็นจุดที่ประชาชนเข้าถึงได้ เช่น ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์เรียนประชาธิปไตย การศึกษานอกโรงเรียน ห้องอ่านหนังสือประจำหมู่บ้านตำบล โรงเรียนสามารถขอได้ เป็นต้น 2. สรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ยาวไม่เกิน20 หน้า6 ล้านเล่ม แจกจ่ายประชาชนที่ประสงค์จะขอ 3. สรุปย่อสาระสำคัญ 17 ล้านฉบับ ส่งให้ทุกครัวเรือนที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ทั้ง 3 รูปแบบจะนำเสนอต่อประชาชน เฉพาะการจัดพิมพ์เอกสารลดงบประมาณจาก 800 ล้านบาท เหลือ 200 ล้านบาท ส่วนงบประมาณโดยรวมยังไม่กำหนด แต่ไม่เกิน 3,400 ล้านบาท และอาจปรับลดลงเล็กน้อย
นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนเรื่องการรณรงค์ให้รับหรือไม่รับสามารถทำได้ แต่การรณรงค์ดังกล่าวต้องไม่สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบหรือเอื้อกลุ่มการเมืองใด ไม่ใช้ถ้อยคำเท็จ หรือใช้ถ้อยคำนำสู่ความเสียหายแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสีลักษณะคล้ายกับการเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งสามารถไปนำไปสู่การให้ใบเหลือง ใบแดงได้ ฉะนั้นอยากให้ประชาชนคลายใจว่าไม่มีกฎหมายใหม่ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน ทุกคนยังแสดงความเห็นได้อย่างเสรี สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมายกำหนดบทลงโทษให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นักการเมือง ประชาชน หรือแม้แต่ กกต.เอง เจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดไม่เป็นกลางก็มีบทลงโทษและรุนแรงกว่าประชาชน กกต.หวังว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากที่สุด ส่วนการใช้หน่วยราชการหรือบุคลากรของรัฐ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปให้ข้อเท็จจริงไม่ผิด ในการให้ความรู้ แต่ไม่มีสิทธิไปบอกว่าควรรับหรือไม่ควรรับจะถือเป็นความผิด กรณี ร.ด.รณรงค์ให้ทราบได้ว่าจะมีการลงประชามติ หรือให้ทราบเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญทำได้ แต่ไม่ใช่ไปบอกว่าควรรับ รณรงค์ให้ข้อเท็จจริงทุกฝ่ายทำได้
