xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” ชี้ทุนอนุรักษ์พลังงานฯ แผลเต็มตัว เบรกรีดเงินคนใช้น้ำมันเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวรสนา โตสิตระกูล (แฟ้มภาพ)
อดีต สปช.จวกทุนอนุรักษ์พลังงานฯ กระหายรีดเงินผู้ใช้น้ำมันเพิ่ม ทั้งที่ยังแก้ตัวยอดเงินหายปี 58 ไม่เคลียร์ เตือนนำเงินไปทำโครงการตามใจชอบโดยไม่ผ่านกระบวนการพิจารณาตามพระราชบัญญัติงบประมาณ ระวังจะกลายเป็นทุจริตเชิงนโยบาย

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. น.สรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว รสนา โตสิตระกูล หัวข้อ “อย่าปล่อยให้กองทุนอนุรักษ์พลังงานล้วงกระเป๋าคนใช้น้ำมันอย่างมืดบอดอีกต่อไป” หลังกองทุนอนุรักษ์พลังงานชงรีดเงินจากผู้ใช้น้ำมันเพิ่มลิตรละ 50 สตางค์ ตามข้อความดังนี้

“บอร์ดกองทุนอนุรักษ์พลังงานยังไม่ทันจะเคลียร์ยอดเงินที่ขาดหายไปจากรายงานแสดงฐานะการเงินของกองทุนฯ ในปี 2558 อย่างครบถ้วน แต่กลับกล้าที่จะชงเรื่องล้วงกระเป๋าคนใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นลิตรละ 50 สตางค์ เท่ากับล้วงกระเป๋าคนใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นทีเดียว 100% เลย

รายงานฐานะการเงินของกองทุนอนุรักษ์พลังงานในปี 2558 มียอดเงิน 3 เดือนที่ยอดคงเหลือและยอดยกมาไม่เท่ากัน คือ เดือนพฤษภาคม, มิถุนายน และธันวาคม ทำให้มียอดเงินขาดหายไป 16,949.59 ล้านบาท หลังจากที่ดิฉันและกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทยได้ยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีผ่านประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ตรวจสอบยอดเงินที่ขาดหายไป และการใช้เงินกองทุนย้อนหลัง 10 ปี

ทางผู้บริหารกระทรวงพลังงานจึงรีบออกมาแก้ไขตัวเลขในเดือนธันวาคม 2558 เป็น 2 ขยัก ขยักแรกเพื่อแก้ตัวเลขคงเหลือของเดือนพฤศจิกายนกับเดือนธันวาคมให้ตรงกัน โดยเพิ่มยอดรายรับ 12,051.24 ล้านบาท กับเพิ่มรายจ่าย 19,557.40 ล้านบาทขึ้นมาดื้อๆ

ขยักที่ 2 ตัดตัวเลขรายรับรายจ่ายในขยักแรกออกไป และแก้ไขตัวเลขรายรับ รายจ่ายใหม่อีกรอบโดยอ้างว่ามีการส่งยอดเงิน 8,529.42 ล้านบาทคืนกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน เสร็จแล้วก็ส่งยอดเงินดังกล่าวไปใช้ในโครงการยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ซึ่งต้องตั้งคำถามว่า โดยหลักการและกฎหมายทำได้หรือไม่?

การแก้ไขตัวเลขยอดคงเหลือและยอดรายรับในเดือนธันวาคม 2558 แสดงว่า ยอมรับว่ามียอดเงินขาดหายไปจริงไม่ใช่เกิดจากความผิดพลาดของระบบตามที่กล่าวอ้าง แต่ยอดเงินที่ขาดหายไปอีก2เดือนในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายนอีก 9,443.43 ล้านบาทยังไม่ได้มีการชี้แจงว่าหายไปไหน จะอ้างเหมือนเดิมอีกหรือไม่ว่า ยอดเงิน 9443.43 ล้านบาทก็ถูกส่งคืนกระทรวงคลังเพื่อเอาไปทำยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ !?!
การเพิ่มการรีดเงินจากผู้ใช้น้ำมันเป็นลิตรละ 50 สตางค์ จะทำให้กองทุนอนุรักษ์พลังงานมีเงินเพิ่มขึ้นจากปีละ 9,000 ล้านบาทเป็นปีละ 18,000 ล้านบาทซึ่งเป็นยอดเงินมหาศาล

ต้องตั้งคำถามว่าภารกิจของกองทุนอนุรักษ์พลังงานเป็นภารกิจที่ผิดฝาผิดตัวหรือไม่? การเก็บเงินคนใช้น้ำมัน แต่เอาไปสนับสนุนเรื่องอนุรักษ์ไฟฟ้า และให้ทุนกู้ยืมกับธุรกิจเอกชนเป็นการเอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้างหรือไม่ ยิ่งกว่านั้นยังเอาไปเป็นทุนศึกษาวิจัยเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกด้วย เหตุใดไม่ไปเก็บเงินจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเอกชนแทนการรีดเงินจากคนใช้น้ำมันที่มีตั้งแต่คนหาเช้ากินค่ำ เช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือมนุษย์เงินเดือนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน

หากจะมีการส่งเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานเข้าคลังเป็นงบประมาณแผ่นดินอีก ก็ควรเก็บเงินจากคนใช้น้ำมันเป็นภาษีสรรพสามิตเพื่อเข้าเป็นงบประมาณแผ่นดินไปเสียเลย

การเก็บเงินจากคนใช้น้ำมันเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานเพิ่มขึ้น จะถูกมองได้ว่า เป็นการใช้กองทุนอนุรักษ์พลังงานเป็นที่พักเงินจากการล้วงกระเป๋าประชาชนเพื่อถ่ายโอนไปทำโครงการตามใจชอบที่อยู่นอกระบบงบประมาณโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ระวังจะกลายเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ที่อาศัยการออกระเบียบมาล้วงกระเป๋าประชาชนโดยไม่ชอบธรรม

ดิฉันขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีกองทุนที่อยู่นอกระบบงบประมาณที่มีเงินสะสมมหาศาลเช่นนี้ และยิ่งไม่เห็นด้วยที่จะมีการขยายขนาดของกองทุนนี้ในขณะที่ยังมีข้อสงสัยในเรื่องความโปร่งใส หรือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้บริหารกับผู้ได้ประโยชน์จากกองทุนฯ ยังมีคำถามเรื่องประสิทธิภาพ ตลอดจนความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเงินของประชาชนเพื่อไปอุดหนุนองค์กรที่อยู่ในแดนสนธยา!!?”




กำลังโหลดความคิดเห็น