ที่ประชุม ครม. นายกฯ ไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ US - ASEAN 14 - 18 ก.พ. นี้ มอบหมาย “ประวิตร” ประธานประชุม ครม. แทน พร้อมขยายระยะเวลาจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเป็นกลางปีนี้ อนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2560 จำนวน 2.733 ล้านล้าน ตั้งขาดดุล 3.9 แสนล้าน
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีภารกิจเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ US - ASEAN ที่เมืองปาล์มสปริงส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14 - 18 ก.พ. 2559 เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ที่มีมายาวนาน พร้อมทั้งเพื่อหารือกับบรรดาผู้นำอาเซียน โดยได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุม ครม. ในวันอังคาร 16 ก.พ. 2559
ขณะเดียวกัน ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้ขยายระยะเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว สัญชาติพม่า ลาว และ กัมพูชา ในกิจการประมงทะเล จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ขยายระยะเวลาออกไปเป็นภายในวันที่ 31 ก.ค. 2559 ซึ่งเมื่อขยายระยะเวลาออกไปแล้ว จึงขอให้แรงงานอยู่ในประเทศและทำงานต่อไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2560 ขณะที่แรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ จากเดิมที่จะสิ้นสุดการขอจดทะเบียนในวันที่ 22 ก.พ. 2559 ให้ขยายออกไปจนถึงวันที่ 22 ส.ค. 2559 และอนุญาตให้อยู่ในประเทศทำงานได้ถึงวันที่ 22 ก.พ. 2560
ทั้งนี้ ครม. มีมติเลื่อนระยะเวลาลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวมาแล้ว 3 ครั้ง แต่เนื่องจากความต้องการแรงงานยังมีอยู่ และแรงงานที่ต้องการจดทะเบียนยังมีอยู่ ถือว่าภาคแรงงานยังต้องการคน จึงต้องจัดให้ทุกอย่างอยู่ในระบบถูกต้องตามกฎหมาย
ด้าน นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรอบการจัดทำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 2.733 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่ประมาณการรายได้ไว้ที่ 2.343 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ 2559 โดยในงบประมาณรายจ่ายจำนวนดังกล่าว จะเป็นงบลงทุนในสัดส่วน 20% คิดเป็นวงเงิน 5.46 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 นี้ อยู่ภายใต้สมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 60 เติบโต 4% เงินเฟ้อที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบงบประมาณนี้เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันของ 4 หน่วยงาน คือ สำนักงบประมาณ, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2559
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 นี้ จะประกอบไปด้วย 6 ยุทธศาสตร์ และอีก 1 รายการดำเนินการภาครัฐ ซึ่งในยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ จะมีทั้งสิ้น 45 แผนงาน จากนี้ได้ขอให้ทุกหน่วยราชการทำคำขอเพื่อยื่นเสนอโครงการ และส่งไปให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 19 ก.พ. 2559 ซึ่งก่อนหน้านี้ แต่ละหน่วยงานได้ยื่นคำขอเบื้องต้นมาแล้ววงเงิน 4.2 ล้านล้านบาท และสำนักงบประมาณได้พิจารณาปรับลดลงมาเหลือ 3.31 ล้านล้านบาท ซึ่งครั้งนี้ให้แต่ละส่วนราชการกลับไปเสนอโครงการกลับมาอีกครั้งภายใต้กรอบงบประมาณดังกล่าว
สำหรับงบประมาณรายจ่ายปี 2560 นี้ คาดว่า รัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มจากการส่งออก ภาษีสรรพสามิต อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถ้าประมาณการรายได้เพิ่มขึ้นในภายหลัง ก็จะมีการจัดทำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 เพิ่มเติม คาดว่า ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 จะนำกลับเข้ามาเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งสุดท้ายภายในเดือน พ.ค. 2560 จากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2559 ต่อไป
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในการมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ในวันที่ 4 ก.พ. นี้ ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายวีระ อุไรรัตน์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนออนุมัติรับโอน นายจำนัล เหมือนดำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ตกลงยินยอมการโอนด้วยแล้ว