โฆษกประจำสำนักนายกฯ โต้กลับอดีตนายกฯ หนีคดี ประเทศไทยเป็นของทุกคน แต่เจ้าตัวสำคัญตนเองผิด เป็นเรื่องตลกร้าย เปรียบเชลซีจะแข่งกับแมนฯ ซิตี คงไม่เชิญคู่แข่งมาฟังแผนการเล่น ท้าให้กลับมาสู้คดี ไม่เช่นนั้นไร้ความเชื่อถือ ด้านโฆษก กรธ. เชื่อไร้อิทธิพล แค่ฟังคนรอบข้างมากไป แจงข้อเสนอใช้รัฐธรรมนูญ 2 ช่วง แค่ผลักไปอยู่กฎหมายลูก
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ว่า การร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนุญ (กรธ.) ว่า เปลืองเวลา เพราะท้ายที่สุดประชาชนจะไม่ยอมรับ พร้อมกับประกาศไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ รวมทั้งเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดโต๊ะเจรจาระหว่างกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม เพื่อวางกรอบรัฐธรรมนูญที่ทุกคนยอมรับ ว่า ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็มุ่งมั่นร่างขึ้นเพื่อปกป้องดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน การเรียกร้องว่าต้องเจรจาจนกลุ่มการเมืองทุกกลุ่มพอใจร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการสำคัญตนเองผิด คิดว่านักการเมืองสำคัญกว่าประชาชน ที่ผ่านมา ประเทศเสียหายทั้งจากการทุจริตคอร์รัปชัน และการใช้กำลังก่อความวุ่นวาย ก็ล้วนมีนักการเมืองใหญ่บางคนเป็นต้นเหตุทั้งสิ้น
“การเรียกร้องเช่นนี้ถือเป็นตลกร้าย ที่ยอมรับไม่ได้ คล้ายทีมเชลซี จะแข่งขันกับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี ผู้จัดการทีมเชลซี ก็คงไม่เชิญทีมแมนฯ ซิตี มาร่วมฟังการวางแผนการเล่นด้วยฉันใด การร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปราบคนโกง ก็ไม่ควรให้คนโกงมาร่วมร่างหรือเจรจาจนคนที่เคยโกงพอใจฉันนั้น” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย พร้อมพูดคุยเพื่อรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนที่มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง รวมทั้งจากนายทักษิณด้วย หากนายทักษิณซึ่งยังเป็นนักโทษหนีคดีกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับอำนาจตุลาการเฉกเช่นประชาชนทั่วไป ที่กระทำผิดแล้วยอมรับผล และคำตัดสินของศาล เพราะหากอดีตนายกยังคงปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ก็ยังถือว่าเป็นบุคคลที่ไร้เครดิตความน่าเชื่อถือ เพราะพยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย การจะมาเสนอแนวทางเพื่อร่างกฎหมายจึงเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น และไม่อาจยอมรับได้
ด้าน นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ว่า ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่นายทักษิณออกมาพูดถึงการร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินอยู่ หากจำกันได้ ครั้งแรกนายทักษิณวิจารณ์ว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ห่วยแตก แต่ตนขอยืนยันตรงนี้ว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ของนายทักษิณ ไม่มีอิทธิพลถึงขนาดที่จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญคว่ำได้
ทั้งนี้ จากการทบทวนประเด็นต่าง ๆ กรธ. ยิ่งมั่นใจว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านความเห็นชอบจากประชาชน เพราะเราตอบสนองความต้องของทุกฝ่าย เช่น เรื่องสิทธิต่าง ๆ อะไรที่ไม่ผิดจากหลักการของเรา และไม่ทำให้เจตนารมณ์เสียไป เราก็พร้อมปรับแก้ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ การออกมาเคลื่อนไหวของนายทักษิณ เพราะอาจจะฟังคนรอบข้างในการดำเนินยุทธศาสตร์มากเกินไป
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายท้วงติงข้อเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง นายอมร กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนขอแสดงความเห็นในฐานะนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ไม่ใช่โฆษก กรธ. ว่า สิ่งที่ ครม. เสนอมาไม่ได้มีเจตนาให้ กรธ. ทำรัฐธรรมนูญที่มีมาตรฐานต่ำกว่าฉบับอื่น หรือลดทอนประชาธิปไตย ทราบว่าผู้ใหญ่ใน กรธ. ได้ประสานไปยัง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แล้ว ได้รับการยืนยันว่า ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการกล่าวหาจากภายนอก แต่เป็นความห่วงใยของ ครม. ที่รัฐธรรมนูญถูกโจมตีบิดเบือนเยอะมาก อะไรที่อยู่ในรัฐธรรมนูญแล้วจะเกิดปัญหา หากไปอยู่ในกฎหมายลูกได้อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ดังนั้น การใช้รัฐธรรมนูญ 2 ช่วงที่ว่านั้น คือ อะไรที่อะลุ่มอล่วยได้ให้ผลักไปในกฎหมายลูกจะดีกว่าหรือไม่